พบผลลัพธ์ทั้งหมด 29 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำต่อเนื่องจากการป้องกันภัยอันตรายถึงชีวิต
ผู้ตายกับพวกรวม 3 คน ถีบประตูห้องพักของจำเลยเพื่อจะเข้าไปทำร้ายจำเลยจนกลอนประตูหลุด ประตูเปิด แล้วเข้าไปทำร้ายจำเลยและจะทำร้ายภรรยาจำเลยซึ่งมีครรภ์อยู่เป็นการกระทำทีอุกอาจและเป็นภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย ทั้งเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การที่จำเลยใช้มีดแทงคนทั้งสาม แม้จะแทงหลายทีก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยในขณะนั้นจึงไม่มีความผิด
หลังจากผู้ตายวิ่งออกมาจากห้องพักของจำเลยแล้ว จำเลยติดตามออกมาและใช้มีดแทงผู้ตายอีก 3 ที เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับการกระทำของจำเลยในตอนแรกซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เมื่อจำเลยแทงผู้ตายในขณะที่หมดโอกาสทำร้ายจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยในตอนนี้จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตาม ป.อ. มาตรา 69
หลังจากผู้ตายวิ่งออกมาจากห้องพักของจำเลยแล้ว จำเลยติดตามออกมาและใช้มีดแทงผู้ตายอีก 3 ที เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับการกระทำของจำเลยในตอนแรกซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เมื่อจำเลยแทงผู้ตายในขณะที่หมดโอกาสทำร้ายจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยในตอนนี้จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตาม ป.อ. มาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงปืนเข้าบ้านผู้เสียหายถือเป็นการเล็งเห็นผลถึงชีวิต จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
การที่จำเลยยิงปืนเข้าไปชั้นบนของบ้านผู้เสียหายซึ่งจำเลยย่อมรู้หรือน่าจะรู้อยู่ว่ากระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายหรือคนในบ้านผู้เสียหายถึงแก่ชีวิตได้นั้นเป็นการกระทำที่เล็งเห็นผลแห่งการกระทำผิดจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิป้องกันตัว: จำเลยถูกไล่ตามและยิงก่อน จึงมีสิทธิยิงตอบเพื่อป้องกันชีวิต
ป.และผู้ตายเดินกระแทกไหล่จำเลย จำเลยต่อว่าจึงเกิดชกกันขึ้น มีผู้ห้ามจนเลิกกันไปแล้วผู้ตายเอาปืนจี้เพื่อนจำเลยจะไปส่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อ้างว่าเพื่อนจำเลยยิงปืนจำเลยจึงไปขอให้พี่สาวจำเลยมาช่วยเจรจา ป. ไม่ยอมและชกจำเลย ช. กับ ก. เข้าช่วย ป. จำเลยล้มลงจึงใช้ไม้ตี ช.1 ที แล้วจำเลยเห็นผู้ตายถือปืนเล็งมาทางจำเลย จำเลยจึงวิ่งหนีผู้ตายวิ่งไล่ตามและยิงจำเลย จำเลยรู้สึกเจ็บที่เท้าซ้ายและน่องซ้ายล้มลง หันไปดูเห็นผู้ตายยืนอยู่ห่างจำเลย 2 วา ถือปืนจ้องมาทางจำเลยจำเลยจึงยิงผู้ตาย 1 นัดถูกผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ นับว่าเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยจึงมีสิทธิป้องกันชีวิตของตน การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2737/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกาย
ผู้ตายทั้งสองขึ้นไปลักทรัพย์บนเรือในเวลากลางคืนโดยมีพวกหลายคน จำเลยซึ่งเป็นยามเฝ้าเรือร้องถาม ผู้ตายคนหนึ่งชักมีดโถมเข้าจะแทง จำเลยจึงใช้ปืนยิงไปทางผู้ตายหลายนัดในช่วงเวลาอันกระชั้นชิดนั้น ถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3117/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา กรณีถูกทำร้ายก่อนและมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อปกป้องชีวิต
ถึงจำเลยจะได้พูดโต้เถียงกับผู้ตายที่วงสุรา เมื่อมีคนมาพาจำเลยไปเสียจากที่นั้น จำเลยก็ยอมไปโดยดี แต่ผู้ตายกลับใช้ให้จ.ตามจำเลยไป แม้จำเลยจะพูดกับ จ. เป็นทำนองชวนวิวาทกับผู้ตายจำเลยก็มิได้แสดงอาการอย่างใดให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจจะวิวาทกับผู้ตายจำเลยกลับขึ้นไปอยู่เสียบนเรือนผู้อื่น ที่เกิดยิงกันขึ้นก็เพราะผู้ตายใช้ให้คนไปตามจำเลยมา ผู้ตายชักปืนออกจ้องจะยิงจำเลย จำเลยมิได้ตอบโต้แต่หลบอยู่ข้างหลัง น. จนถูกผู้ตายยิงเอาบาดเจ็บ จำเลยก็ยังไม่ควักปืนยิงผู้ตาย คงเข้ากอดปล้ำล้มลงทั้งคู่เห็นได้ว่าจำเลยประสงค์จะมิให้ผู้ตายทำร้ายจำเลยต่อไป มิได้สมัครใจวิวาทกับผู้ตายแต่อย่างใดต่อเมื่อผู้ตายจะยิงจำเลยซ้ำ จำเลยจึงควักปืนออกมายิงผู้ตายเพียงนัดเดียวหากจำเลยไม่กระทำดังนั้นก็คงต้องถูกผู้ตายยิงเอาถึงตายเป็นแน่การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 865/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้าย: การกระทำพอสมควรแก่เหตุเพื่อปกป้องชีวิตและสิทธิ
ผู้ตายโกรธจำเลยเรื่องเบื่อหมูของผู้ตาย ได้มาต่อว่าจำเลยและจะให้ใช้ราคา จำเลยไม่ยอมใช้ ผู้ตายจึงท้าให้จำเลยลงจากเรือน จำเลยไม่ลง ผู้ตายจึงก้าวขึ้นบันไดไปสองขั้น และฟันจำเลยแต่ไม่ถูก ผู้ตายจึงก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สามต่อไปอีกทั้ง ๆ ที่จำเลยได้ร้องห้ามแล้วว่า ถ้าขึ้นมาจะแทง แต่ผู้ตายก็ไม่เชื่อฟัง จำเลยจึงใช้หลาวไม้ไผ่แทงผู้ตาย 1 ที ถูกหน้าท้อง และผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทง ดังนี้ ย่อมเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนทางอาญา: การกระทำเพื่อป้องกันชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
จำเลยกับพวกซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงนายสิบและพลตำรวจ เข้าไปในบ้านของ ฉ.ในเวลากลางคืน เพื่อจับกุมผู้ตายซึ่งเป็นคนร้ายสำคัญตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องการจับการค้น ถ้าผู้ตายขัดขืนก็เพียงแต่ไม่มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่มีสิทธิหรืออำนาจชอบธรรมอันใดที่จะใช้อาวุธทำร้ายจำเลย เพราะจำเลยพูดกับผู้ตายขอจับกุม ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไรลงไป แต่ผู้ตายใช้มีดแทงจำเลย จำเลยจึงกระทำการป้องกันชีวิตตน เมื่อเป็นการพอสมควรแก่เหตุ จำเลยย่อมไม่ต้องรับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุเมื่อถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต แม้ใช้อาวุธตอบโต้
จำเลยแทงผู้เสียหายในขณะผู้เสียหายใช้มือทั้งสองเค้นคอจำเลยอยู่ จำเลยว่าหายใจไม่ออก จำเลยไม่มีทางจะหลีกเลี่ยง ถ้าหากจำเลยไม่ใช้มีดแทงผู้เสียหาย จำเลยอาจถึงแก่ความตายได้ เพราะผู้เสียหายรูปร่างใหญ่โตแข็งแรงกว่าจำเลย ฉะนั้น การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย จึงเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การกระทำที่มุ่งหวังผลถึงชีวิต แม้ไม่สำเร็จก็ถือเป็นความผิด
การที่จำเลยใช้ปืนที่ขึ้นนกแล้วจ้องจะยิง ห่างจากอกผู้เสียหายเพียง 1 ศอก และยิงปืนขึ้น. แต่มีผู้อื่นจับมือจำเลยข้างที่ถือปืนให้เบนไป. แม้กระสุนปืนจะไม่ถูกผู้เสียหายก็ตาม. ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59. แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล. จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ การกระทำเพื่อป้องกันชีวิตจึงไม่มีความผิด
ฝ่ายผู้ตายได้มาเรียกจำเลยไปหา แล้วพวกผู้ตายฟันข้างหลังจำเลย 1 ที แล้วผู้ตายฟันหลังจำเลยอีก 1 ที จำเลยหันไปเห็นผู้ตายถือดาบจ้องจะฟันซ้ำอีก จำเลยจึงแทงไปทางผู้ตาย 1 ที ถูกที่หน้าอกถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตัวแต่พอสมควรแก่เหตุ