คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ถอนคืนการให้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 85 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2430/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องถอนคืนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณต้องฟ้องภายใน 6 เดือนนับแต่ทราบเหตุ
โจทก์ได้ทำสัญญายกที่ดินให้แก่จำเลยซึ่งเป็นบุตรสาว ต่อมาโจทก์ได้เรียกร้องให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินบางส่วนให้แก่โจทก์ ซึ่งโจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าเมื่อเดือนตุลาคม 2540 จำเลยบันดาลโทสะพูดกับโจทก์ว่า จำเลยไม่จัดการโอนที่ดินให้โจทก์เพราะโจทก์ได้ยกที่ดินให้จำเลยแล้ว ถ้าอยากได้เก่งจริงก็ให้ไปฟ้องศาลเองเป็นการประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ ขอให้ถอนคืนการให้ที่ดินพิพาทที่โจทก์ยกให้จำเลย แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2541 ซึ่งเป็นเวลาล่วงพ้นกำหนดหกเดือนไปแล้ว ซึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 533 วรรคหนึ่ง การจะฟ้องถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น ต้องฟ้องภายในกำหนดหกเดือนนับแต่เหตุประพฤติเนรคุณได้ทราบถึงบุคคลผู้ชอบที่จะเรียกถอนคืนการให้คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคืนการให้เนื่องจากผู้รับมีพฤติกรรมเนรคุณต่อผู้ให้ โดยการใช้คำพูดดูหมิ่นเหยียดหยามและอกตัญญู
โจทก์ซึ่งเป็นมารดาจำเลย ได้ยกที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่จำเลย ต่อมาจำเลยโอนที่ดินบางส่วนให้แก่ พ. โจทก์จึงไปพบจำเลยเพื่อขอให้จำเลยคืนที่ดินดังกล่าวให้แก่ ช. และ ส. ซึ่งเป็นพี่น้องของจำเลย จำเลยด่าโจทก์ว่า "อีเฒ่า มึงไม่มีศีลธรรม ไม่ยุติธรรม ยกที่ดินให้กูแล้วมึงยังจะให้กูแบ่งที่ดินให้คนอื่นอีก" ดังนี้ การที่จำเลยเรียกโจทก์ว่าอีเฒ่าและขึ้นมึงกูกับโจทก์ซึ่งเป็นมารดาเป็นการแสดงถึงความดูหมิ่นเหยียดหยาม และไม่ให้ความเคารพผู้ให้กำเนิด ทั้งการกล่าวว่าโจทก์ไม่มีศีลธรรม เป็นการกล่าวหาว่าโจทก์เป็นคนประพฤติไม่ดี ไม่ชอบ อันเป็นการลบหลู่และอกตัญญูต่อมารดาผู้มีพระคุณ ถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิถอนคืนการให้เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณได้
ที่ดินที่โจทก์ยกให้จำเลยเป็นที่ดินมือเปล่าซึ่งโจทก์มีเพียงสิทธิครอบครอง เมื่อโจทก์ยกให้จำเลยจึงเป็นการสละเจตนาการครอบครอง การครอบครองของโจทก์ผู้ให้ย่อมสิ้นสุดลง จำเลยผู้รับย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครอง แต่โจทก์ยังมีสิทธิเรียกที่ดินดังกล่าวคืนได้เมื่อจำเลยประพฤติเนรคุณตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ว่าที่ดินดังกล่าวจะได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นที่ดินมีโฉนดไปแล้วหรือไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9854/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกถอนคืนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ ต้องฟ้องภายใน 6 เดือนนับแต่วันทราบเหตุ หรือภายใน 10 ปี
บุคคลผู้ชอบที่จะฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุประพฤติเนรคุณได้นั้น ต้องฟ้องคดีภายในหกเดือนนับแต่เหตุประพฤติเนรคุณนั้นได้ทราบถึงผู้นั้น และห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาสิบปีภายหลังเหตุการณ์เช่นว่านั้นตามป.พ.พ. มาตรา 533 บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ให้สิทธิเลือกจะฟ้องคดีภายในหกเดือนหรือสิบปี
แม้ผู้ให้ยังมีชีวิตอยู่และยากไร้ ผู้รับให้มีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูผู้ให้ตามความจำเป็นและผู้รับให้สามารถให้ได้ตลอดเวลาที่ผู้ให้ยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม แต่เหตุประพฤติเนรคุณทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อนับถึงวันฟ้องเกินกว่าหกเดือนนับแต่วันที่ผู้ให้ได้ทราบถึงเหตุเหล่านั้น คดีจึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 533 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8655/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคืนการให้เนื่องจากบุตรผู้รับประพฤติเนรคุณต่อมารดาด้วยการด่าทอและทำร้าย
โจทก์ได้ยกที่ดินให้แก่จำเลย ต่อมาจำเลยประพฤติตนไม่ดี เล่นการพนันและเสพสุรา โจทก์ได้ว่ากล่าวตักเตือน จำเลยไม่ยอมเชื่อฟังกลับด่าโจทก์ว่า "อีแก่ อีชาติหมา มึงจะไปตายไหนก็ไป กูไม่นับถือมึงเป็นแม่ลูกกัน" อันเป็นถ้อยคำที่รุนแรงและหยาบคายเปรียบโจทก์เป็นสัตว์และด่าว่าให้โจทก์ไปตาย และจำเลยใช้ไม้จะตีโจทก์ ซึ่งจำเลยในฐานะบุตรไม่พึงกระทำต่อโจทก์ผู้เป็นมารดา การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์ผู้ให้ย่อมเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยผู้รับประพฤติเนรคุณได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 531 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5975/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องถอนคืนการให้เนื่องจากประพฤติเนรคุณ การแก้ไขคำฟ้อง และการฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยบรรยายว่า โจทก์เป็นมารดาจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เป็นมารดาจำเลยที่ 2 และบรรยายถ้อยคำต่าง ๆ ที่จำเลยที่ 1 กล่าวหมิ่นประมาทโจทก์ในลักษณะให้เห็นเหตุประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ โจทก์ทราบว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินโฉนดพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นทรัพย์สินที่โจทก์ยกให้จำเลยที่ 1 โดยขายให้จำเลยที่ 2 เป็นการทำนิติกรรมที่มีเจตนาไม่สุจริตและฉ้อฉล โดยร่วมกันที่จะไม่ให้ทรัพย์สินตกกลับคืนเป็นของโจทก์ จำเลยทั้งสองย่อมเข้าใจได้ว่า การไม่สุจริตและฉ้อฉลคือการที่จำเลยที่ 1 สมรู้กับจำเลยที่ 2 ทำนิติกรรมโอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อมิให้โจทก์เรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยที่ 1 ประพฤติเนรคุณ จึงเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง ฟ้องโจทก์หาเคลือบคลุมไม่
โจทก์ฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะจำเลยที่ 1 ประพฤติเนรคุณด้วยการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงรวม 3 ครั้ง ต่างวันเวลากัน จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้คดีว่าไม่เคยประพฤติเนรคุณให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่โจทก์ ไม่เคยดูหมิ่นโจทก์อย่างร้ายแรง ย่อมหมายความว่าจำเลยที่ 1 ไม่เคยกล่าวคำหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงไม่ว่าจะเป็นวันเวลาใด ทั้งเมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องในระหว่างการสืบพยานโจทก์แล้ว ในการนัดสืบพยานจำเลยทั้งสองในเวลาต่อมาจำเลยที่ 1 เบิกความเพียงว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยด่าว่าหยาบคายแก่โจทก์ โดยมิได้เบิกความถึงวันเวลาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยที่ 1 หมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงทั้ง 3 ครั้ง แสดงให้เห็นว่า วันเวลาในการกล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรงมิได้เป็นสาระสำคัญในการต่อสู้คดีของจำเลยทั้งสอง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งอนุญาตให้แก้ไขคำฟ้องโดยมิได้ส่งสำเนาคำร้องให้แก่จำเลยทั้งสองทราบล่วงหน้าอย่างน้อยสามวันก่อนกำหนดนัดพิจารณาคำร้องก็ตาม แต่การที่จะให้มีการแก้ไขในข้อนี้ย่อมไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป เพราะเป็นการมีคำสั่งให้แก้ไขในประเด็นที่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในคดี ทั้งศาลล่างทั้งสองก็มิได้หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับวันเวลาที่มีการแก้ไขดังกล่าวมาเป็นประเด็นชี้ขาดพิพากษาให้เพิกถอนคืนการให้ คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคืนการให้เนื่องจากบุตรประพฤติเนรคุณต่อมารดาด้วยถ้อยคำรุนแรงและอกตัญญู
หลังจากโจทก์ยกที่ดินพร้อมบ้านพิพาทให้แก่จำเลยซึ่งเป็นบุตรแล้วจำเลยยังคงเลี้ยงดูโจทก์โดยโจทก์อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว ต่อมาจำเลยเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยแสดงอาการรังเกียจเมื่อโจทก์ไปที่บ้านจำเลย และต่อมาเริ่มด่าว่าโจทก์ว่า "อีหัวหงอก อีสันดานหมา ไม่รู้จักภาษาคนมึงจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป" กับเคยด่าโจทก์ว่า "อีหัวหงอก อีหัวโคน อีสันดานหมา อีตายยาก กูเกิดผิดพ่อผิดแม่ กูเกิดหลงรู"หลังจากนั้นจำเลยขายบ้านที่โจทก์อยู่อาศัยโดยมิได้บอกกล่าว ผู้ซื้อจึงได้รื้อถอนบ้านดังกล่าวไป จำเลยบอกโจทก์ว่า "ก็ไม่เลี้ยงมึงอีก มึงจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป" โจทก์จึงไปอาศัยอยู่กับน้องสาวจำเลย การที่จำเลยด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำรุนแรงดังกล่าวแสดงว่าจำเลยสิ้นความเคารพยำเกรงโจทก์ซึ่งเป็นมารดาเป็นการลบหลู่ และอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ หาใช่เป็นเพียงถ้อยคำไม่สุภาพหรือไม่สมควรกระทำต่อมารดาไม่ ถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิถอนคืนการให้ เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 531 (2) แม้คำเบิกความของพยานโจทก์จะมิได้ระบุว่า จำเลยด่าโจทก์เมื่อใด ก็มิใช่สาระสำคัญที่ถึงขนาดทำให้พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้เสียเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคืนการให้เนื่องจากบุตรประพฤติเนรคุณ หมิ่นประมาทร้ายแรง และสิ้นความเคารพยำเกรงมารดา
หลังจากโจทก์ยกที่ดินพร้อมบ้านพิพาทให้แก่จำเลยซึ่งเป็นบุตรแล้วจำเลยยังคงเลี้ยงดูโจทก์โดยโจทก์อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว ต่อมาจำเลยเริ่มเปลี่ยนแปลงโดยแสดงอาการรังเกียจเมื่อโจทก์ไปที่บ้านจำเลย และต่อมาเริ่มด่าว่าโจทก์ว่า"อีหัวหงอก อีสันดานหมา ไม่รู้จักภาษาคนมึงจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป" กับเคยด่าโจทก์ว่า"อีหัวหงอก อีหัวโคน อีสันดานหมา อีตายยาก กูเกิดผิดพ่อผิดแม่ กูเกิดหลงรู"หลังจากนั้นจำเลยขายบ้านที่โจทก์อยู่อาศัยโดยมิได้บอกกล่าว ผู้ซื้อจึงได้รื้อถอนบ้านดังกล่าวไป จำเลยบอกโจทก์ว่า "ก็ไม่เลี้ยงมึงอีก มึงจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป" โจทก์จึงไปอาศัยอยู่กับน้องสาวจำเลย การที่จำเลยด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำรุนแรงดังกล่าวแสดงว่าจำเลยสิ้นความเคารพยำเกรงโจทก์ซึ่งเป็นมารดาเป็นการลบหลู่ และอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ หาใช่เป็นเพียงถ้อยคำไม่สุภาพหรือไม่สมควรกระทำต่อมารดาไม่ ถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิถอนคืนการให้ เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 531(2) แม้คำเบิกความของพยานโจทก์จะมิได้ระบุว่า จำเลยด่าโจทก์เมื่อใด ก็มิใช่สาระสำคัญที่ถึงขนาดทำให้พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้เสียเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้โดยมีค่าภารติดพัน vs. การให้โดยเสน่หา: สิทธิในการถอนคืนการให้
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 ตอบแทนที่จำเลยที่ 1ไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทให้ เป็นการให้โดยมีค่าภารติดพันแม้หนังสือสัญญาให้ที่ดินระบุว่า เป็นการให้โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทนจำเลยที่ 1 ก็นำสืบได้ว่าเป็นการให้โดยจำเลยที่ 1 ต้องไปกู้เงินจาก ส. มาไถ่ถอนจำนองที่ดินจาก ฉ. หาใช่เป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารไม่ โจทก์ไม่มีสิทธิถอนคืนการให้เพราะเหตุประพฤติเนรคุณ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคืนการให้เนื่องจากบุตรเลี้ยงประพฤติเนรคุณและหมิ่นประมาทมารดาเลี้ยง
จำเลยด่าโจทก์ว่า "โจทก์นิสัยไม่ดี คนโตไม่รู้จักโตพูดไม่อยู่กับร่อง กับรอยพูดหน้ามือเป็นหลังมือ เหมือนไม้หลักปักขี้เลนตอแหล เก่ง เป็นคนไม่ดี ไม่ใช่แม่กูและเชื่อถือไม่ได้"ถ้อยคำดังกล่าวแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงโจทก์ซึ่งเป็นมารดาเลี้ยง และเป็น การลบหลู่ บุญคุณอีกด้วย มิใช่เป็นเพียงคำกล่าวที่ไม่สุภาพหรือไม่สมควรเท่านั้น การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ เสียชื่อเสียงทั้งเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิถอนคืนการให้เพราะจำเลยประพฤติเนรคุณได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5791/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้เพื่อบำเหน็จสินจ้าง: ถอนคืนการให้ไม่ได้เมื่อเป็นการชำระหนี้และไถ่ถอนจำนอง
การที่โจทก์ยกที่ดินเฉพาะส่วนของโจทก์ให้จำเลยเพราะจำเลยได้ชำระหนี้เงินกู้และไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทจากธนาคารซึ่งเป็นหนี้ที่โจทก์ก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ของโจทก์ฝ่ายเดียวนั้น ถือเป็นการให้เพื่อบำเหน็จสินจ้างโดยแท้ โจทก์จึงถอนคืนการให้ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 535(1)
of 9