พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4461/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาททั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางแยกทางเอกตัดกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบด้วยกฎหมาย
บริเวณสี่แยกที่เกิดเหตุต่างเป็นทางเอกตัดกัน ไม่มีป้ายสัญญาณจราจร ผู้ขับรถทั้งสองทางจึงต้องหยุดรอให้รถที่อยู่ในทางร่วมทางแยกผ่านไปก่อน แต่พฤติการณ์ที่รถทั้งสองคันชนกัน แสดงว่าต่างแล่นมาถึงสี่แยกในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ได้ความชัดว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมาถึงก่อน กรณีเช่นนี้หากทั้งสองฝ่ายใช้ความระมัดระวังดูให้ปลอดภัยก่อนเข้าสี่แยกก็สามารถหยุดให้รถอีกฝ่ายหนึ่งแล่นผ่านสี่แยกไปได้โดยไม่เกิดเหตุชนกันขึ้น การที่รถทั้งสองคันเกิดชนกันเช่นนี้เห็นได้ว่าเกิดจากการที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีส่วนประมาทไม่ใช้ความระมัดระวังดูให้ปลอดภัยก่อนขับรถเข้าสู่สี่แยก และเป็นความประมาทที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ค่าเสียหายของรถทั้งสองคันจึงต่างต้องตกเป็นพับกันไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถทางแยก: การประเมินความรับผิดของผู้ขับขี่และหลักการใช้มาตรา 71(2) พ.ร.บ.จราจรทางบก
จำเลยที่ 1 ขับรถมาถึงทางร่วมทางแยกก่อนรถโจทก์ จะนำมาตรา 71(2) พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาใช้บังคับไม่ได้ เพราะตามบทมาตราดังกล่าวเป็นกรณีที่รถมาถึงทางร่วมทางแยกพร้อมกัน และตามมาตรา 51(2)(จ) ก็เป็นกรณีเมื่อรถอยู่ในทางร่วมทางแยกต้องให้รถที่สวนมาในทางเดินรถเดียวกันผ่านไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงให้เลี้ยวขวาไปได้ มิใช่กรณีการเดินรถในถนนคนละสาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถทางแยก: ผู้ขับรถต้องระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
พระราชบัญญัติ ญญัติจราจรทางบกพ.ศ.2522มาตรา51(2)(จ) ที่บังคับรถซึ่งอยู่ในทางร่วมทางแยกต้องให้รถที่สวนมาในทางเดินรถเดียวกันผ่านไปก่อนเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงให้เลี้ยวขวาไปได้นั้น ไม่ใช้แก่กรณีการเดินรถในถนนคนละสาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1953/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขับรถ ณ ทางแยกต้องควบคู่กับความระมัดระวัง และค่าแรงซ่อมแซมจากละเมิด
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 71 (2) บัญญัติว่า ถ้ามาถึงทางแยกทางร่วมพร้อมกันและไม่มีรถอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถที่อยู่ทางด้านซ้ายของตนผ่านไปก่อน แต่แม้จะมีกฎหมายดังกล่าวซึ่งทำให้คนขับรถของจำเลยมีสิทธิขับรถผ่านสี่แยกไปก่อนได้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนขับรถของจำเลยมีสิทธิขับรถเข้าไปในสี่แยกโดยไม่คำนึงหรือไม่ระมัดระวังหรือไม่ดูว่ามียานพาหนะอื่นแล่นเข้ามาในสี่แยกหรือไม่ ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกมีทางเดินรถหลายช่องทางผู้ขับขี่ยวดยานทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษกว่าการขับไปตามถนนอย่างธรรมดา เมื่อพิจารณาภาพถ่ายความเสียหายเห็นได้ว่ารถยนต์ชนกันอย่างแรง ซึ่งก็ต้องเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วสูงของคนขับรถของจำเลยนั้นเองด้วย การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความประมาท บทบัญญัติดังกล่าวมิได้คุ้มครองให้คนขับรถของจำเลยพ้นผิด
แม้คนงานของโจทก์จะมีเงินเดือนประจำและมีงานทำเป็นปกติ แต่เมื่อต้องทิ้งงานดังกล่าว มาทำงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลย โจทก์ก็ย่อมเรียกค่าแรงในการทำงานดังกล่าวได้
แม้คนงานของโจทก์จะมีเงินเดือนประจำและมีงานทำเป็นปกติ แต่เมื่อต้องทิ้งงานดังกล่าว มาทำงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลย โจทก์ก็ย่อมเรียกค่าแรงในการทำงานดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแซงที่ผิดกฎหมาย: ผู้ขับขี่ต้องหยุดแซงเมื่อไม่สามารถแซงได้ก่อนถึงทางแยก
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 46 (2) ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางแยกนั้นหมายความรวมถึงว่า แม้เริ่มขับรถแซงก่อนระยะ 30 เมตร แต่เมื่อมาถึงในระยะดังกล่าวยังแซง ไม่ได้ผู้ขับขี่ก็ต้องหยุดแซงด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแซงก่อนถึงทางแยก: การตีความมาตรา 46(2) พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ และหน้าที่ของผู้ขับขี่
ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 46(2) นั้น มิได้หมายความแต่เพียงว่าห้ามมิให้ขับรถแซงหรือเริ่มขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางแยกเท่านั้น แต่หมายความรวมถึงว่า แม้จะเริ่มขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นก่อนระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางแยก แต่เมื่อมาถึงระยะ 30 เมตรก่อนจะถึงทางแยกก็ยังไม่สามารถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นได้ ผู้ขับขี่ก็ต้องหยุดแซงและนำรถเข้าเส้นทางของตนทันที.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแซงรถใกล้ทางแยก: ห้ามทั้งเริ่มและไม่สำเร็จการแซงภายใน 30 เมตร
พระราชบัญญัติ ญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 46(2) ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ30 เมตร ก่อนถึงทางแยกนั้น หมายความรวมถึงการเริ่มขับรถแซงก่อนระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางแยก แต่เมื่อมาถึงระยะ 30 เมตรก่อนจะถึงทางแยกแล้วยังแซงไม่ได้ ผู้ขับขี่ก็ต้องห้ามมิให้แซงด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแซงรถใกล้ทางแยก: ผู้ขับขี่ต้องหยุดแซงหากไม่สามารถแซงได้ทันก่อนถึงทางแยก
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 46(2)ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถแซง เพื่อขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางแยกนั้นหมายความรวมถึงว่า แม้เริ่มขับรถแซงก่อนระยะ 30 เมตร แต่เมื่อมาถึงในระยะดังกล่าวยังแซง ไม่ได้ผู้ขับขี่ก็ต้องหยุดแซง ด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4738/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการใช้ทางของรถจักรยานยนต์ที่ถึงทางแยกก่อน รถยนต์ต้องให้ผ่านก่อน แม้เป็นทางเอก
จำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงทางแยกก่อนจนแล่นเข้าไปอยู่ในช่องทางเดินรถช่องที่ 1 จะถึงช่องที่ 2 อยู่แล้ว รถยนต์ที่ ส. ขับจึงชนรถจักรยานยนต์ของจำเลย ในลักษณะเช่นนี้รถยนต์ของ ส. จะต้องให้รถจักรยานยนต์ของจำเลยผ่านไปก่อนตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71 (1) ส. ขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงมากและไม่ลดความเร็วเมื่อถึงทางร่วมทางแยกแม้จะเป็นทางเอกก็เป็นฝ่ายประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3052/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับรถ กรณีมีทางแยกและเห็นรถอื่น ศาลพิจารณาความเร็วและโอกาสชะลอรถ
พ. ขับรถยนต์ด้วยความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้ไม่เกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด แต่ตรงที่เกิดเหตุมีทางแยกจะต้องขับรถให้ช้าลงกว่านี้อีก การที่ พ. ขับรถด้วยความเร็วดังกล่าวและขณะที่ขับรถมาใกล้จะถึงที่เกิดเหตุก็ได้เห็นรถที่จอดรออยู่ตรงเกาะกลางถนนแล้ว ก็น่าจะชะลอความเร็วของรถลงบ้างหรือมิฉะนั้นเมื่อเห็นมีรถซึ่งรออยู่ตรงเกาะกลางถนนแล่นตัดหน้าไปคันหนึ่งแล้ว ก็ควรห้ามล้อให้รถชะลอความเร็วลงได้ โดยไม่จำเป็นต้องหักรถหลบไปจนปีนเกาะกลางถนนดังนี้ถือได้ว่า พ. มีส่วนประมาทด้วย
คดีก่อนพนักงานอัยการฟ้อง พ. ว่าขับรถยนต์โดยประมาทตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้ถูกฟ้องด้วยดังนี้แม้ในคดีดังกล่าวศาลจะวินิจฉัยว่าไม่อาจถือว่าพ. ขับรถโดยประมาทก็ตาม การพิพากษาคดีนี้ก็ไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีก่อน.
คดีก่อนพนักงานอัยการฟ้อง พ. ว่าขับรถยนต์โดยประมาทตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฝ่ายเดียว จำเลยไม่ได้ถูกฟ้องด้วยดังนี้แม้ในคดีดังกล่าวศาลจะวินิจฉัยว่าไม่อาจถือว่าพ. ขับรถโดยประมาทก็ตาม การพิพากษาคดีนี้ก็ไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีก่อน.