คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทำกิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8606/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการส่งมอบการครอบครองที่ดิน กรณีสัญญาซื้อขายและการทำกินต่างดอกเบี้ย
โจทก์ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทตลอดมาตั้งแต่เวลาทำสัญญาซื้อขายในลักษณะเป็นเจ้าของโดยจำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้าน ถือว่าจำเลยได้ส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์แล้วตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขาย โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทโดยซื้อมาจากจำเลย จำเลยให้การต่อสู้ว่าให้โจทก์ทำกินในที่ดินพิพาทต่างดอกเบี้ย เท่ากับอ้างว่าสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทยังคงอยู่กับจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยเรื่องสิทธิครอบครองว่าเป็นของผู้ใด แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 เห็นสมควรวินิจฉัยให้โดยฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทแล้วพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้เป็นว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5400/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีที่ฟ้องแย่งคืนที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์ข้ออ้างการมอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ใช่จำเลย
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินคืนจากจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่าโจทก์มอบที่ดินให้จำเลยทั้งสองทำกินต่างดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยทั้งสองแล้ว ถือว่าจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธโดยมิได้ตั้งประเด็นขึ้นมาใหม่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยทั้งสองแล้วนั้นเป็นเพียงเหตุผลของการปฏิเสธเท่านั้น โจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนข้ออ้างตามคำฟ้องของโจทก์ที่ว่า โจทก์มอบที่ดินให้จำเลยทั้งสองทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยทั้งสองที่จะต้องนำสืบพิสูจน์ว่าลายมือชื่อของผู้ขายในหนังสือสัญญาขายที่ดินเป็นของโจทก์ อ. เป็นผู้พิมพ์หนังสือสัญญาขายที่ดินและเป็นผู้จดทะเบียนซื้อขายที่พิพาทย่อมเป็นพยานบุคคลที่ได้เห็นหรือทราบข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่จะเบิกความเป็นพยานนั้นโดยตรง จึงเป็นประจักษ์พยาน ไม่ใช่พยานชั้นสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดิน: การอนุญาตให้ครอบครองเพื่อทำกิน ไม่ถือเป็นการยกให้สิทธิครอบครอง
โจทก์มิได้ยกที่ดินพิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยโจทก์เพียงแต่อนุญาตให้จำเลยเข้าครอบครองทำกินเท่านั้น การที่จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการครอบครองเพื่อตนแต่เป็นการครอบครองแทนโจทก์ สิทธิครอบครองที่ดินยังเป็นของโจทก์โจทก์มีสิทธิให้จำเลยออกไปเสียจากที่ดินพิพาทได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินเพื่อทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ทำให้ได้สิทธิครอบครอง หากไม่ได้แจ้งเปลี่ยนลักษณะการยึดถือตามกฎหมาย
ประเด็นข้อพิพาทซึ่งปรากฏจากคำฟ้องและคำให้การแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยไว้ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องย้อนสำนวน. การครอบครองที่พิพาทเพื่อทำกินต่างดอกเบี้ยเป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่พิพาทแม้จะครอบครองที่พิพาทมาช้านานเท่าใดก็ไม่อาจยกเอาการแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1375ขึ้นมาอ้างอิงได้นอกจากจะได้มีการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามมาตรา1381ก่อนจึงจะอ้างสิทธิครอบครองตามมาตรา1375ขึ้นมาอ้างอิงได้. การที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ยึดถือครอบครองที่พิพาทของเจ้าของที่พิพาทไว้เพื่อทำกินต่างดอกเบี้ยได้ไปขอให้ทางการออกน.ส.3แล้วต่อมาเจ้าของที่พิพาทได้ไปคัดค้านไว้กรณีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทโดยบอกกล่าวไปยังเจ้าของที่พิพาทว่าตนไม่มีเจตนาที่จะยึดถือที่พิพาทไว้แทนเจ้าของที่พิพาทอีกต่อไปดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา1381แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(วรรคนี้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่3/2529).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มรดกตกทอด การแบ่งทรัพย์สินร่วมกัน และค่าเสียหายจากการกีดกันการทำกิน
ที่พิพาทเป็นมรดกตกทอดแต่โจทก์ทั้งสอง จำเลยทั้งสองและพระภิกษุ ส. ผู้เป็นทายาท และนับแต่วันที่เจ้ามรดกตายจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทจากจำเลยยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี ยังอยู่ภายในอายุความที่พระภิกษุ ส.จะสึกจากสมณเพศมาเรียกร้องขอแบ่งได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1622 ดังนี้ ต้องแบ่งที่พิพาทออกเป็น 5 ส่วน โจทก์ได้คนละ 1 ใน 5
เมื่อยังไม่ได้แบ่งที่พิพาทกัน โจทก์ทั้งสอง จำเลยทั้งสอง และส.เป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกัน โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้และเรียกค่าเสียหายเพื่อการที่จำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าทำนาตั้งแต่พ.ศ. 2517 ทำให้โจทก์ขาดรายได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองแบ่งนาพิพาทให้โจทก์ทั้งสองกึ่งหนึ่ง และให้ใช้ค่าเสียหายปีละ 1,500 บาท นับแต่ปี 2516 จนถึงปีที่จำเลยยอมแบ่งนาให้โจทก์ จำเลยมิได้ฎีกาว่าจำเลยไม่ต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ เพราะการที่จำเลยเข้าทำนาในที่พิพาทที่ตนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยนั้น ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ คงฎีกาเพียงว่าที่ศาลอุทธรณ์ให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตั้งแต่ปี 2516 เป็นการพิพากษาเกินคำขอเท่านั้น จึงไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้เงินไม่มีกำหนดเวลาชำระคืน: ผู้ให้กู้มีสิทธิเรียกเงินคืนได้ทันที และสิทธิในการทำกินต่างดอกเบี้ยสิ้นสุดเมื่อมีคำพิพากษา
กู้เงินไม่มีกำหนดเวลาชำระคืน ผู้ให้กู้เรียกให้ชำระเงินได้โดยพลัน ไม่จำต้องบอกกล่าวก่อนฟ้อง
สัญญากู้มอบที่สวนให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิทำกินต่างดอกเบี้ยต่อไปตั้งแต่วันศาลพิพากษาให้จำเลยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีจนกว่าจะชำระเสร็จ ชั้นฎีกาไม่มีข้อโต้แย้งว่าโจทก์มีสิทธิทำกินต่างดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่ จึงต้องถือตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จำเลยต้องเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันพิพากษา ส่วนการทำกินต่างดอกเบี้ย เมื่อพิพากษาแล้วต่อไปไม่คืนสวน เป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินโดยมิชอบและการเรียกร้องค่าเสียหายจากการบุกรุกทำกิน แม้ผู้ให้แบ่งที่ดินไม่มีสิทธิทำกินเอง ก็ยังคงได้รับความเสียหาย
การที่โจทก์แบ่งนาพิพาทให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรและบุตรอื่นทำกิน. มิได้ทำให้โจทก์หมดสิทธิหรือขาดประโยชน์ในที่พิพาท. เมื่อจำเลยที่ 2 เข้าทำนาพิพาท.โจทก์ห้ามแต่จำเลยที่ 2 ไม่ฟัง. เป็นการทำให้โจทก์เสียหายไม่ได้ทำนาแล้ว. แม้โจทก์อายุมาก. ทำนาเองไม่ได้. ก็ไม่เป็นเหตุให้อ้างได้ว่าโจทก์ไม่เสียหาย.
โจทก์มีคำขอท้ายฟ้อง. ขอให้สั่งเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่นาระหว่างนายคอบกับจำเลยที่ 1 เท่านั้น. ซึ่งข้อเท็จจริงได้ความว่านายคอยเป็นผู้ทำนิติกรรมการโอนกับจำเลยที่ 1. ไม่ปรากฏว่ามีบุคคลชื่อนายคอยในสำนวน.แสดงว่าเป็นคำขอที่พิมพ์คลาดเคลื่อน. ศาลสั่งเพิกถอนนิติกรรมการโอนระหว่างนายคอบและจำเลยที่ 1 เสียได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้โดยมีเงื่อนไขทำกิน และการเพิกถอนการให้เนื่องจากเนรคุณ/ไม่อุปถัมภ์
โจทก์จดทะเบียนยกที่ดินให้แก่จำเลยโดยตกลงกันว่า โจทก์ ยังครอบครองทำกินตลอดไป และโจทก์ยังครอบครองอยู่ โจทก์ไป ห้ามจำเลยมิให้ขายที่ดิน ขายแล้วโจทก์จะเอาอะไรกิน จำเลยว่า มีสิทธิขายได้ และด่าโจทก์ว่า 'อีดอกทองอีแก่ อีหัวหงอก กูจะขาย มึงอยากได้ให้ไปฟ้องเอาถือว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง
โจทก์ห้ามมิให้จำเลยขายที่ดินเพราะโจทก์ไม่มีที่ทำกิน จำเลยก็ยืนยันจะขายจนเกิดเหตุรุนแรงขึ้นพอถือได้ว่า เป็นการบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถให้ได้โจทก์ขอเพิกถอนการให้ได้.โดยไม่ต้องรอให้จำเลยขายที่ดินไปเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกทำกินในที่ดินของผู้อื่น แม้เจ้าของไม่ได้เข้าทำเอง ก็ถือเป็นการละเมิดและเรียกค่าเสียหายได้
เมื่อปรากฏว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้เข้าทำด้วยตนเองก็ดีการที่จำเลยบุกรุกเข้าทำในที่นาพิพาทจึงเป็นการละเมิดโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินหลังการโอนสิทธิทำกินต่างดอกเบี้ย
การยึดถือที่ดินไว้ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้อันเป็นทางยึดถือแทนเจ้าของที่ดินนั้น อาจจะเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ โดยบอกกล่าวไม่เจตนาจะยึดถือแทนต่อไปก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นการถูกแย่งการครอบครอง เจ้าของที่ดินจะต้องฟ้องเสียภายใน 1 ปี นับแต่ได้รับบอกกล่าวให้ทราบเช่นนั้น
สามีผู้ยึดถือที่ดินของผู้อื่นในฐานะยึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ได้เอาที่ดินนั้นโอนทะเบียนยกให้ภรรยาของตนเสีย โดยเจ้าของที่ดินไม่ทราบ จนเมื่อเจ้าของที่ดินมาขอไถ่ที่ดินคืน จึงทราบเช่นนี้ เจ้าของที่ดินยังมีสิทธิฟ้องเอาคืนการครอบครองภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันทราบ
โจทก์ฟ้องเรียกคืนการครอบครองที่ดินจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดีขาดอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1375 เช่นนี้ จำเลยเป็นฝ่ายอ้าง จึงมีหน้าที่นำสืบว่าโจทก์ฟ้องเกิน 1 ปี
of 2