พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5564/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนการครอบครองที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญฯ โดยการส่งมอบทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ขาดที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์และได้ส่งมอบการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ ครอบครองแล้วจริง แต่จากการที่ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน ย่อมโอนการครอบครองกันได้โดยเพียงส่งมอบทรัพย์สินที่ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378 การซื้อขายที่ดินพิพาทจึงเป็นไปโดยชอบ ฉะนั้นโจทก์จึงมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทการที่โจทก์จำเลยซื้อขายที่ดินพิพาทโดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จะเป็นโมฆะหรือไม่ ไม่เป็นเหตุให้โจทก์เสียสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทที่โจทก์ซื้อจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ การส่งมอบการครอบครองเป็นหลักฐานสิทธิ และสิทธิในการฟ้องขับไล่
จำเลยที่ 1 ขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์และส่งมอบการครอบครองของที่ดินพิพาทให้โจทก์เข้าครอบครองแล้ว ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินย่อมโอนการครอบครองกันได้เพียงการส่งมอบทรัพย์สินที่ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378 โจทก์จึงมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยไม่จำต้องไปทำหนังสือหรือจดทะเบียนโอนสิทธิครอบครองกันต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
แม้หนังสือซื้อขายที่ดินพิพาทเป็นโมฆะเพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท การที่จำเลยบุกรุกเข้ามาทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองได้ และเมื่อจำเลยบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทแต่ละครั้งไม่เกิน 1 ปี โจทก์ย่อมไม่ขาดสิทธิที่จะฟ้องขับไล่เรียกการครอบครองที่ดินพิพาทคืนจากจำเลย
แม้หนังสือซื้อขายที่ดินพิพาทเป็นโมฆะเพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท การที่จำเลยบุกรุกเข้ามาทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองได้ และเมื่อจำเลยบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทแต่ละครั้งไม่เกิน 1 ปี โจทก์ย่อมไม่ขาดสิทธิที่จะฟ้องขับไล่เรียกการครอบครองที่ดินพิพาทคืนจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2014/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ: ศาลพิพากษาให้สิทธิครอบครองได้ ไม่เกินคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ยังไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือที่พิพาท เพราะไม่มีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้จำเลยจะฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่ระบุแสดงสภาพที่ดินว่าติดที่ดินผู้ใด แต่ละด้านกว้างยาวเท่าใดและแจ้งการครอบครองเมื่อใด ไม่ได้ เพราะเหตุที่จำเลยยกขึ้นอ้างว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนี้เป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน ศาลก็พิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน ศาลก็พิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 577/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบไม่สมบูรณ์ตามฟ้อง และสิทธิครอบครองที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ
ที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอ้างว่าจำเลยกับพวกบุกรุกเข้าทำการเพาะปลูกพืชไร่ในที่พิพาทซึ่งโจทก์ครอบครองทำประโยชน์อยู่ อันเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่าจำเลยเข้าไปในที่พิพาทโดยไม่มีสิทธิที่จะอ้างได้ แต่กลับนำสืบว่าจำเลยเข้าไปในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิการเช่าจากโจทก์ กรณีเป็นที่เห็นได้ว่าโจทก์นำสืบไม่สมสภาพข้อหาข้ออ้างในคำฟ้อง และเป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นคำฟ้อง อันไม่ชอบที่จะนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาหลังมรณะและการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ
ที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ เป็นของโจทก์กับสามีสามีโจทก์ตายไป 7 ปีแล้ว แต่ก่อนตายสามีโจทก์ได้เรียกบุตรทุกคนมาสั่งต่อหน้าว่าที่พิพาทนี้ถ้าสามีโจทก์ตายให้เป็นของโจทก์หรือถ้าโจทก์ตายก่อนก็ให้เป็นของสามีโจทก์ เมื่อสามีโจทก์ตายแล้วโจทก์ก็ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนเองตามที่สามีโจทก์สั่งไว้จำเลยผู้เป็นบุตรคนหนึ่งมิได้ครอบครองที่พิพาท เมื่อโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเป็นของตนมาตั้งแต่สามีตายเกิน 1 ปีแล้วและที่พิพาทเป็นที่มือเปล่า ทายาทอื่นจึงเรียกเอาไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 สิทธิที่จะรับมรดกของจำเลยจึงเป็นอันหมดไปจะอ้างว่ายังเป็นมรดกของบิดาอยู่อีกไม่ได้ ที่พิพาทย่อมเป็นของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์: ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญและไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
ที่พิพาทไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินและไม่ได้ใช้เป็นที่บ้านอยู่อาศัย ทั้งไม่เป็นที่ดินซึ่งได้รับความคุ้มครองตาม ก.ม. ลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 การฟ้องคดี เพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองต้องใช้บทอายุความตาม ป.พ.พ.ม. 1375 คือ ต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง
โจทก์เสียค่าขึ้นศาลสำหรับค่าเสียหายที่ฟ้องเรียกมาในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิม เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 1,200 บาท และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้าน ทั้งในชั้นฎีกาโจทก์ก็ขอให้พิพากษาตามศาลชั้นต้น เช่นนี้ เรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาจากโจทก์เพียงในทุนทรัพย์ 1,200 บาทเท่านั้น ไม่ใช่ในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิม.
โจทก์เสียค่าขึ้นศาลสำหรับค่าเสียหายที่ฟ้องเรียกมาในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิม เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 1,200 บาท และโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้าน ทั้งในชั้นฎีกาโจทก์ก็ขอให้พิพากษาตามศาลชั้นต้น เช่นนี้ เรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาจากโจทก์เพียงในทุนทรัพย์ 1,200 บาทเท่านั้น ไม่ใช่ในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ และการคำนวณค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่พิพากษา
ที่พิพาทไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินและไม่ได้ใช้เป็นที่บ้านอยู่อาศัย ทั้งไม่เป็นที่ดินซึ่งได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองต้องใช้บทอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 คือ ต้องฟ้องภายใน1 ปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง
โจทก์เสียค่าขึ้นศาลสำหรับค่าเสียหายที่ฟ้องเรียกมาในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิมเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 1,200 บาทและโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านทั้งในชั้นฎีกาโจทก์ก็ขอให้พิพากษาตามศาลชั้นต้น เช่นนี้ เรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาจากโจทก์เพียงในทุนทรัพย์ 1,200 บาทเท่านั้น ไม่ใช่ในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิม
โจทก์เสียค่าขึ้นศาลสำหรับค่าเสียหายที่ฟ้องเรียกมาในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิมเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ค่าเสียหายเพียง 1,200 บาทและโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านทั้งในชั้นฎีกาโจทก์ก็ขอให้พิพากษาตามศาลชั้นต้น เช่นนี้ เรียกค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาจากโจทก์เพียงในทุนทรัพย์ 1,200 บาทเท่านั้น ไม่ใช่ในทุนทรัพย์ 2,000 บาท ตามฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154-155/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญให้ผู้อื่น ทำให้ผู้รับได้สิทธิครอบครองและมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกได้
ยกที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญมอบการครอบครองให้แล้ว ผู้รับย่อมได้สิทธิครอบครองโดยมิต้องทำหนังสือและจดทะเบียนการให้ เมื่อมีผู้บุกรุกรบกวน ผู้รับย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญเหนือสิทธิการสับสร้างเดิม แม้โจทก์เคยยื่นยกกรรมสิทธิ์ให้จำเลย
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้โก่นสร้างที่พิพาทแล้วครอบครองเป็นเจ้าของมาแต่แรกแต่ปรากฎตามคำพยานโจทก์เองว่าเมื่อ พ.ศ.2492 โจทก์ยื่นคำร้องยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่บุคคลที่สาม จำเลยคัดค้านว่าที่ดินนั้นเป็นของจำเลยสับสร้างมา อำเภอจึงไม่ทำการโอนให้และโจทก์หาได้เรียกคืนการครอบครองจากจำเลยและต่อมาโจทก์กลับไปอาศัยจำเลยอยู่อีก ที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ จำเลยย่อมได้สิทธิโดยการครอบครอง โจทก์ฟ้องขับไล่ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินโดยการครอบครอง การสับสร้าง และผลของการยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ผู้อื่น
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้โก่นสร้างที่พิพาทแล้วครอบครองเป็นเจ้าของมาแต่แรก แต่ปรากฏตามคำพยานโจทก์เองว่าเมื่อ พ.ศ.2492โจทก์ยื่นคำร้องยกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่บุคคลที่สาม จำเลยคัดค้านว่าที่ดินนั้นเป็นของจำเลยสับสร้างมา อำเภอจึงไม่ทำการโอนให้และโจทก์หาได้เรียกคืนการครอบครองจากจำเลยและต่อมาโจทก์กลับไปอาศัยจำเลยอยู่อีก ที่พิพาทเป็นที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ จำเลยย่อมได้สิทธิโดยการครอบครอง โจทก์ฟ้องขับไล่ไม่ได้