คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ธุระจัดหา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6065/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีค้าประเวณีเด็กหญิง อายุเกิน 15 ปี: ศาลแก้เป็นผิดฐานธุระจัดหา ยินยอม มีโทษจำคุก
จำเลยพาผู้เสียหายมากรุงเทพมหานครแล้วพาผู้เสียหายไปพักโรงแรมที่จำเลยทำหน้าที่เป็นแม่บ้านอยู่ประมาณ 3 เดือน จำเลยมิได้ชักนำผู้เสียหายไปค้าประเวณีในทันที ขณะจำเลยกระทำความผิดนั้น ผู้เสียหายมีอายุยังไม่เกินสิบห้าปี จำเลยจึงมีความผิดฐานพรากผู้เสียหายไปเสียจากบิดาโดยปราศจากเหตุอันสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคแรก
แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุกว่าสิบห้าปีโดยหญิงนั้นสมัครใจยินยอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 วรรคสอง และตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีฯ มาตรา 9 วรรคสอง ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีฯ อันเป็นบทที่มีโทษหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 286แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในฎีกาโดยชัดแจ้ง ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ประกอบมาตรา 215และ 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานค้าประเวณีและธุระจัดหาอนาจารเด็ก เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
จำเลยเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง และเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้วิธีข่มขืนใจทั้งการใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขืนใจด้วยประการอื่น เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่น และเป็นเจ้าของกิจการสถานค้าประเวณี ความผิดทั้งสองฐานดังกล่าว เป็นความผิดที่อาศัยเจตนาต่างกัน มีองค์ประกอบความผิดที่ต่างกัน จึงเป็นการกระทำหลายกรรมต่างกันหาใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8170/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานเป็นธุระจัดหาฯ และหน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นคนละกรรมกัน แม้จะต่อเนื่องกัน
การกระทำความผิดฐานเป็นธุระจัดหา ฯ และฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังตาม ป.อ. มาตรา 283 วรรคสาม กับมาตรา 310 วรรคแรก แม้จะเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกัน แต่สามารถแยกเจตนาในการกระทำความผิดออกจากกัน องค์ประกอบในการกระทำผิดก็ต่างกัน ทั้งการกระทำความผิดฐานหนึ่งก็ไม่จำต้องกระทำความผิดอีกฐานหนึ่งก่อน จึงเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9634/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธุระจัดหาหรือชักพาเพื่อการอนาจาร แม้ยินยอม ก็เป็นความผิดตาม ป.อ.มาตรา 282
จำเลยบอกว่ามีคู่ชายหญิงพร้อมจะแลกเปลี่ยนคู่นอน แต่ต้องสมัครเป็นสมาชิกโดยเสียเงินค่าสมาชิก พร้อมทั้งนำหลักฐานคือทะเบียนสมรสและทะเบียนบ้านมาแสดง ต่อมาจำเลยแจ้งว่ามีคู่ที่จะแลกเปลี่ยนคู่นอนแล้วและได้นัดพบ เพื่อทำความรู้จักกัน จำเลยเป็นผู้ติดต่อให้ผู้อื่นทำการแลกเปลี่ยนคู่นอนกันได้และบุคคลทั้งสองได้ตกลงแลกเปลี่ยน คู่นอนกับสายลับของเจ้าพนักงานตำรวจแล้ว การที่จำเลยได้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารมาโดยตลอด แสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งลามกอนาจาร อันขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดีของประชาชน และจำเลยเป็นผู้ติดต่อชักชวนให้สมาชิกมาพบกันเพื่อมีการตกลงแลกเปลี่ยนคู่นอนกัน ซึ่งแม้สมาชิกจะตกลงยินยอมตามความสมัครใจกันเอง การกระทำของจำเลยก็ถือว่าเป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้หญิงนั้นจะยินยอมก็ตาม อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 282 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9634/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธุระจัดหาหรือชักพาเพื่อการอนาจาร แม้ผู้ถูกกระทำยินยอม ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 282
จำเลยบอกว่ามีคู่ชายหญิงพร้อมจะแลกเปลี่ยนคู่นอน แต่ต้องสมัครเป็นสมาชิก โดยเสียเงินค่าสมาชิก พร้อมทั้งนำหลักฐานคือทะเบียนสมรสและทะเบียนบ้านมาแสดง การที่จำเลยได้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารมาโดยตลอด แสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งลามกอนาจารอันขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดีของประชาชน และจำเลยเป็นผู้ติดต่อชักชวนให้สมาชิกมาพบกันเพื่อมีการตกลงแลกเปลี่ยนคู่นอนกับสายลับของเจ้าพนักงานตำรวจ แม้สมาชิกจะตกลงยินยอมตามความสมัครใจกันเอง การกระทำของจำเลยก็ถือว่าเป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงแม้หญิงนั้นจะยินยอมก็ตามอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจารและการกระทำความผิดฐานเป็นธุระจัดหาพาไปเพื่อการอนาจาร
ผู้เสียหายทั้งสี่มีอายุอยู่ระหว่างตั้งแต่ 12 ปี ถึง 16 ปี อยู่ในความปกครองของบิดามารดา จำเลยทั้งสามชักชวนให้ผู้เสียหายทั้งสี่ไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในภาคใต้แล้วพาไปประกอบอาชีพโสเภณี การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการร่วมกันพรากผู้เสียหายทั้งสี่ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อการอนาจาร ทั้งผู้เสียหายทั้งสี่เพียงแต่เต็มใจไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคใต้ มิได้เต็มใจไปค้าประเวณี จึงถือไม่ได้ว่าผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย
แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า จำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานเป็นธุระจัดหาพาไปเพื่อการอนาจารตาม ป.อ. มาตรา 283 วรรคสอง 1 กรรมและมาตรา 283 วรรคสาม 3 กรรม และฐานพรากเด็กและผู้เยาว์ตาม ป.อ.มาตรา 317 วรรคสาม 3 กรรม และมาตรา 319 วรรคหนึ่ง 1 กรรม แต่โจทก์บรรยายฟ้องโดยไม่มีรายละเอียดให้เห็นว่า โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษทุกกรรม ศาลจะลงโทษจำเลยทั้งสามให้แต่ละกรรมนอกเหนือจากคำฟ้องและคำขอของโจทก์หาได้ไม่จึงลงโทษจำเลยทั้งสามตาม ป.อ. มาตรา 283 วรรคสาม กรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร – การกระทำผิดฐานเป็นธุระจัดหาพาไปเพื่อการอนาจาร และการลงโทษตามบทบัญญัติที่โจทก์ฟ้อง
ผู้เสียหายทั้งสี่มีอายุอยู่ระหว่างตั้งแต่12ปีถึง16ปีอยู่ในความปกครองของบิดามารดาจำเลยทั้งสามชักชวนให้ผู้เสียหายทั้งสี่ไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในภาคใต้แล้วพาไปประกอบอาชีพโสเภณีการกระทำดังกล่าวจึงเป็นการร่วมกันพรากผู้เสียหายทั้งสี่ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อการอนาจารทั้งผู้เสียหายทั้งสี่เพียงแต่เต็มใจไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคใต้มิได้เต็มใจไปค้าประเวณีจึงถือไม่ได้ว่าผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานเป็นธุระจัดหาพาไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา283วรรคสอง1กรรมและมาตรา283วรรคสาม3กรรมและฐานพรากเด็กและผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา317วรรคสาม3กรรมและมาตรา319วรรคหนึ่ง1กรรมแต่โจทก์บรรยายฟ้องโดยไม่มีรายละเอียดให้เห็นว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษทุกกรรมศาลจะลงโทษจำเลยทั้งสามให้แต่ละกรรมนอกเหนือจากคำฟ้องและคำขอของโจทก์หาได้ไม่จึงลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา283วรรคสามกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดหาเพื่อการอนาจาร: การกระทำที่ไม่เข้าข่ายธุระจัดหา
ร้านเกิดเหตุเป็นร้านขายสุราอาหาร ไม่ใช่สำนักโสเภณีที่เจ้าพนักงานตำรวจปลอมตัวไปเป็นลูกค้าขอร่วมประเวณีกับ บ. ก็เป็นการพูดจาชักชวนกัน และตกลงกันเองระหว่างทั้งสองคน ไม่ปรากฎว่าจำเลยเข้าไปมีส่วนจัดการเลย การที่จำเลยสั่งให้หญิงบริการไปบริการลูกค้าเป็นปกติของการค้า ส่วนที่จำเลยรับเงินจาก บ. เป็นเพียงทำหน้าที่พนักงานเก็บเงินของร้าน จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่ง บ. เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จัดหางานโดยรู้ว่าเป็นการค้าประเวณี ร่วมกันเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาเพื่อการอนาจาร
จำเลยรู้อยู่ว่าห้องอาหารที่อยู่ในโรงแรมนั้น นอกจากขายอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังจัดให้มีการค้าประเวณีด้วย จำเลย ได้แนะนำชี้ชวนผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ให้ไปทำงานใน ตำแหน่งรีเซฟชั่นหรือพนักงานต้อนรับและพนักงานเสิร์ฟ ที่ห้องอาหาร ดังกล่าวร่วมกับนาย ก. และนาง ท. จึงเป็นการร่วมกันกระทำความผิด ฐานเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 582/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ แต่มีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาเด็กเพื่ออนาจาร
ขณะชักชวนเด็กหญิงทั้งสามอายุไม่เกิน 13 ปี และเกิน13 ปี ให้ไปกับจำเลยเด็กหญิงทั้งสามไม่ได้อยู่ในความปกครองดูแลของมารดาเสียแล้ว โดยนัดแนะกันหลบหนีมารดาออกจากบ้านเพื่อไปหางานทำ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการพรากเด็กหญิงทั้งสามไปเสียจากบิดามารดา ไม่มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317,318
การที่จำเลยชักชวนเด็กหญิงทั้งสามไปอยู่ด้วยอ้างว่าจะหัดลิเกให้แต่ก็มิได้หัดให้ กลับจะให้ค้าประเวณี โดยขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะส่งไปต่างจังหวัดจนเด็กหญิงคนหนึ่งจำต้องยอมไปกับชายและชายนั้นพยายามจะกระทำมิดีมิร้ายในระหว่างทาง ดังนี้ จำเลยกระทำการเป็นธุระจัดหาหรือชักพาเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ไปเพื่อการอนาจาร เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 วรรคสาม
of 2