พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448-1449/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 "นา" หมายความว่าที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ ส่วนคำว่า "พืชไร่" นั้น หมายความว่า พืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นอย่างหนึ่ง กับพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนอีกอย่างหนึ่ง
ที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ใช้ปลูกข้าว แต่ได้ปลูกพริก หอม กะเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ มีคันดินโดยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วปลูกมะม่วงและกล้วยบนคันดินนั้นภายในยกเป็นร่องสวนมีน้ำอยู่ข้างๆร่องปลูกมะละกอบนร่องทุกร่องมีเครื่องสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมหลังร่องที่ยก ตอนน้ำท่วมหรือใกล้จะท่วมไม่ปลูกพืช ดังนี้ แสดงว่าพืชที่ปลูกต้องการน้ำน้อย เมื่อฟังว่าเป็นพืชมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนด้วยแล้วก็เป็นพืชไร่ ที่พิพาทจึงเป็น "นา" ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4
ที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ใช้ปลูกข้าว แต่ได้ปลูกพริก หอม กะเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ มีคันดินโดยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วปลูกมะม่วงและกล้วยบนคันดินนั้นภายในยกเป็นร่องสวนมีน้ำอยู่ข้างๆร่องปลูกมะละกอบนร่องทุกร่องมีเครื่องสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมหลังร่องที่ยก ตอนน้ำท่วมหรือใกล้จะท่วมไม่ปลูกพืช ดังนี้ แสดงว่าพืชที่ปลูกต้องการน้ำน้อย เมื่อฟังว่าเป็นพืชมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนด้วยแล้วก็เป็นพืชไร่ ที่พิพาทจึงเป็น "นา" ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา โดยพิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา" หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่า พืชต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิยาม 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา: พืชไร่คือพืชที่ต้องการน้ำน้อย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา"หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่าพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมพิพาทกรรมสิทธิ์นา คดีหลังเรียกค่าเสียหายจากผลกระทบเดิม
คดีก่อนมีประเด็นในเรื่องที่โจทก์ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์นาพิพาท ให้ขับไล่ และห้ามไม่ให้จำเลยเข้าไปเกี่ยวข้องกับนาพิพาทแม้คดีนี้จะมีประเด็นแต่เพียงเรื่องค่าสินไหมทดแทนก็ตาม แต่ประเด็นที่จะต้องพิจารณาก็เนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน โจทก์มีทางเรียกค่าสินไหมทดแทน สำหรับค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นก่อนโจทก์ฟ้องคดีเรื่องก่อนและที่จะเกิดขึ้นต่อไป กรณีเช่นนี้ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 วรรคแรก ที่ห้ามมิให้คู่ความเดียวกันฟ้องกันอีก ฟ้องโจทก์คดีเรื่องนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องคดีเรื่องก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมพิพาทกรรมสิทธิ์นา คดีหลังเรียกค่าเสียหายจากกรรมสิทธิ์เดียวกัน
คดีก่อนมีประเด็นในเรื่องที่โจทก์ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์นาพิพาท ให้ขับไล่ และห้ามไม่ให้จำเลยเข้าไปเกี่ยวข้องกับนาพิพาท แม้คดีนี้จะมีประเด็นแต่เพียงเรื่องค่าสินไหมทดแทนก็ตาม แต่ประเด็นที่จะต้องพิจารณาก็เนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน โจทก์มีทางเรียกค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นก่อนโจทก์ฟ้องคดีเรื่องก่อน และที่จะเกิดขึ้นต่อไป กรณีเช่นนี้ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 วรรคแรก ที่ห้ามมิให้คู่ความเดียวกันฟ้องกันอีก ฟ้องโจทก์คดีเรื่องนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องคดีเรื่องก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตวงข้าวค่าเช่านาไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หากมีสิทธิเรียกร้องค่าเช่า
ความผิดฐานลักทรัพย์ผู้กระทำจะต้องเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริตผู้เสียหายเช่านาจำเลยโดยตกลงให้ข้าวแก่จำเลยปีละ 108 ถังเป็นค่าเช่าผู้เสียหายไม่ชำระค่าเช่า จำเลยจึงไปตวงข้าวจากลานนวดข้าวในนาผู้เสียหายไป 108 ถัง ข้าวในนาของผู้เสียหายมีอยู่มากกว่าที่จำเลยมาตวงเอาไป จำเลยตวงเอาข้าวไป 108 ถัง เท่าจำนวนค่าเช่านาที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับชำระจากผู้เสียหาย จะว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตลักข้าวของผู้เสียหายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายนาและการบังคับตามสัญญา เมื่อจำเลยบิดพลิ้วไม่ยอมโอนขาย
จำเลยกู้เงินมารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ จำเลยตกลงยกนาให้มารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ชำระหนี้แทนเงินมารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ยอมรับ แต่ให้จำเลยโอนนานั้นให้แก่โจทก์ จำเลยตกลงโจทก์จำเลยจึงได้ไปทำคำขอทำสัญญาซื้อขายนานั้นที่อำเภอดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาจะซื้อขายนานั้นแล้ว โดยหักเงินที่จำเลยเป็นหนี้มารดาโจทก์และน้องชายโจทก์เป็นราคานานั้นเมื่อจำเลยไม่ยอมโอนขาย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองนาและการแบ่งผลประโยชน์ ไม่ถือเป็นการเช่าธรรมดา เจ้าของนาเดิมมีแต่สิทธิเก็บกิน
เจ้าของนายกนาพิพาทให้ผู้รับ ต่อมาผู้รับยอมให้เจ้าของนาเดิมครอบครองนาโดยผู้รับยอมเช่านา แบ่งผลประโยชน์ให้เจ้าของนาเดิมหนึ่งในสี่ จนตลอดชั่วชีวิตของเจ้าของนาเดิม เช่นนี้ ถือว่า ผู้รับยังมิได้สละสิทธิครอบครอง ผู้รับยังเป็นเจ้าของนาพิพาทอยู่กรณีจึงมิใช่เป็นการเช่าธรรมดา เจ้าของนาเดิมมีแต่เพียงสิทธิเก็บกินเท่านั้น ฉะนั้นเจ้าของนาเดิมจะเรียกร้องเอานาพิพาทไปเป็นของตนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทกรรมสิทธิ์นาและการลักทรัพย์: ศาลฎีกายืนยกฟ้องเนื่องจากขาดเจตนาทุจริต
ได้ความว่าโจทก์หาว่าจำเลยสมคบกันลักเกี่ยวข้าวในนาของผู้เสียหายหายไปแต่ปรากฏว่านาที่จำเลยเก็บเกี่ยวข้าวไปเป็นนามือเปล่า ผู้เสียหายถือว่าเป็นของตนโดยได้รับมรดกตกทอดมาจากบิดาผู้เสียหายและพรรพวกได้ทำมา ฝ่ายจำเลยก็ถือว่าเป็นของตนโดยได้ทำนิติกรรมที่อำเภอซื้อมาจากพวกจำเลยด้วยกันทั้งสองฝ่ายจะได้ทำนารายนี้ตรงไหนและจะล้ำเหลื่อมกันอย่างไรไม่ได้ความชัด พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวต่างก็แย่งกันเก็บเกี่ยวและไปร้องต่อเจ้าพนักงานว่าอีกฝ่ายหนึ่งลักข้าวของตน เพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาทุจริตลักเกี่ยวข้าวไปตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทกรรมสิทธิ์นาและเจตนาทุจริต: ศาลยกฟ้องคดีลักทรัพย์เนื่องจากความไม่ชัดเจนของกรรมสิทธิ์และขาดเจตนา
ได้ความว่าโจทก์หาว่าจำเลยสมคบกันลักเกี่ยวข้าวในนาของผู้เสียหายไปแต่ปรากฏว่านาที่จำเลยเก็บเกี่ยวข้าวไปเป็นนามือเปล่าผู้เสียหายถือว่าเป็นของตนโดยได้รับมรดกตกทอดมาจากบิดาผู้เสียหายและพรรคพวกได้ทำมาฝ่ายจำเลยก็ถือว่าเป็นของตนโดยได้ทำนิติกรรมที่อำเภอซื้อมาจากพวกจำเลยด้วยกันทั้งสองฝ่ายจะได้ทำนารายนี้ตรงไหนและจะล้ำเหลื่อมกันอย่างไรไม่ได้ความชัด พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวต่างก็แย่งกันเก็บเกี่ยวและไปร้องต่อเจ้าพนักงานว่าอีกฝ่ายหนึ่งลักข้าวของตนเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาทุจริตลักเกี่ยวข้าวไปตามฟ้อง