คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป้องกันความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ, การฟ้องคดีก่อนกำหนด, การละเมิด, การป้องกันความเสียหาย, การชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าตามรายงานประจำวันกำหนดให้จำเลยปฎิบัติตามข้อตกลงภายในวันที่30เมษายน2534โจทก์นำคดีมาฟ้องก่อนกำหนดจึงไม่มีอำนาจฟ้องดังนั้นข้อที่จำเลยฎีกาว่ารายงานประจำวันเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความทำให้มูลหนี้ละเมิดระงับเป็นข้อที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้จึงไม่เป็นประเด็นที่ต้องวินิจฉัยแม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยมาก็เป็นการวินิจฉัยโดยมิชอบถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ ตามรายงานประจำวันจำเลยรับว่าจะดำเนินการป้องกันความเสียหายแก่ที่ดินของโจทก์โดยจะทำให้แล้วเสร็จภายในวันที่30เมษายน2534และรับว่าจะไม่ขุดดินในแนวสโลปอีกแต่หลังจากทำบันทึกตามรายงานประจำวันดังกล่าวเมื่อวันที่24มิถุนายน2531แล้วจำเลยไม่ปฎิบัติตามข้อตกลงในรายงานประจำวันดังกล่าวโดยยังกลับขุดดินทำให้ที่ดินของโจทก์เสียหายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ขึ้นอีกโจทก์จึงฟ้องจำเลยได้ ตามรายงานประจำวันระบุว่าจำเลยยอมรับผิดชอบในความเสียหายในเนื้อที่ดินของฝ่ายโจทก์และผู้เสียหายรายอื่นทุกแปลงและจะกระทำการต่างๆเพื่อป้องกันการเลื่อนไหลของดินฉะนั้นที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยดำเนินการนำดินมาถมและทำคันดินก็เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อที่ดินของฝ่ายโจทก์อีกถือได้ว่าตรงตามความประสงค์ของคู่กรณีในรายงานประจำวันดังกล่าวจึงเป็นวิธีการที่ทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นหมดสิ้นไปและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอีกที่เหมาะสมแก่พฤติการณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5807/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดกั้นร่องน้ำเพื่อป้องกันความเสียหายในที่ดินของตน แม้จะทำให้ที่ดินของผู้อื่นเสียหาย ก็ไม่ต้องรับผิด
ที่นาจำเลยตั้งอยู่เหนือที่นาโจทก์ ปกติน้ำจะไหลจากที่นาโจทก์ระบายผ่านที่นาจำเลย การที่จำเลยปิดร่องน้ำในที่นาจำเลยเพื่อมิให้ดินไหลเข้ามาทำความเสียหายแก่ต้นข้าวในที่นาของจำเลย เป็นการป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะก่อความเสียหายแก่โจทก์จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5807/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น จำเลยไม่ต้องรับผิด
ที่นาจำเลยตั้งอยู่เหนือที่นาโจทก์ ปกติน้ำจะไหลจากที่นาโจทก์ระบายผ่านที่นาจำเลย การที่จำเลยปิดร่องน้ำในที่นาจำเลยเพื่อมิให้ดินไหลเข้ามาทำความเสียหายแก่ต้นข้าวในที่นาของจำเลยเป็นการป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะก่อความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1498-1499/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยาย การปิดกั้นทางสาธารณะ และสิทธิในการป้องกันความเสียหาย
การที่เจ้าของที่ดินยอมให้โจทก์และประชาชนทั่วไปใช้ทางพิพาทสัญจรไปมาเป็นเวลาช้านานหลายสิบปีเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าเจ้าของที่ดินได้อุทิศที่ดินดังกล่าวให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้ว
ทางพิพาทเป็นทางสาธารณะ จำเลยปิดกั้น โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ ใช้รถยนต์ผ่านเข้าออกไม่ได้ โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ย่อมได้รับความเสียหาย
เมื่อจำเลยที่ 6 ทำรั้วปิดกั้นทางพิพาทซึ่งเป็นทางสาธารณะเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 ใช้ทางพิพาทเข้าออกบ้านของโจทก์ที่ 2 ไม่ได้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ที่ 2 ใช้ทางพิพาทเข้าออกบ้านของโจทก์ที่ 2 ไม่ได้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ที่ 2 การที่โจทก์ที่ 2 รื้อรั้วที่จำเลยที่ 6 ปิดกั้นออก เพื่อจะได้ใช้ทางพิพาทต่อไป จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายแม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยที่ 6 โจทก์ที่ 2 ก็ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2255/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเพื่อป้องกันความเสียหายจากการทำรูปเลียนแบบ ไม่เป็นการละเมิด
จำเลยรับจ้างหล่อรูปเหมือน เสร็จแล้วต้องส่งคณะกรรมการจัดจำหน่าย จำเลยจะจำหน่ายเองไม่ได้ เมื่อจำเลยเห็นโจทก์หล่อรูปอย่างเดียวกับของจำเลย จำเลยจึงไปแจ้งความต่อตำรวจเพื่อให้เป็นพยานว่าจำเลยมิใช่เป็นผู้ทำ เป็นการใช้สิทธิป้องกันความเสียหายอันจะเกิดขึ้นแก่ตน มิใช่จงใจแกล้งให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ตำรวจคุมตัวผู้จัดการสำนักงานของโจทก์ไปสถานีตำรวจเป็นเรื่องของตำรวจที่จะวินิจฉัยสั่งการ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน: สิทธิในการห้ามนำรถยนต์ออกจากบ้านเพื่อป้องกันบ้านพัง
รถยนต์ของโจทก์ชนบ้านจำเลย โจทก์จะนำรถยนต์ออกจากบ้านจำเลยแต่เสาและไม้ที่นำไปเพื่อค้ำบ้านจำเลยไม่เพียงพอที่จะทำให้บ้านของจำเลยไม่พังลงมา จะต้องรื้อบ้านก่อนจึงจะนำรถยนต์ออกจากบ้านได้ฉะนั้นที่จำเลยห้ามไม่ให้โจทก์เอารถยนต์ออกจากบ้านในวันนั้น จึงเป็นการกระทำเพื่อมิให้บ้านจำเลยพังลงมาทั้งหลังเป็นการป้องกันมิให้จำเลยได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจำเลยมีสิทธิโดยชอบ ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างติดกัน: สิทธิของเจ้าของที่ดินและหน้าที่ในการป้องกันความเสียหาย
ตึกของโจทก์และจำเลยอยู่ห่างกัน 2 เมตร 50 เซนติเมตรช่องว่างระหว่างตึกเป็นที่ดินของจำเลย จำเลยจึงชอบที่จะใช้ประโยชน์ในที่ดินของจำเลยได้ การที่ฝาผนังตึกของโจทก์ชิดกับเขตที่ดินของจำเลยนี้ โจทก์ย่อมคาดหมายได้ว่าฝาผนังตึกของโจทก์ต้องมีสภาพเป็นกำแพงรั้วกั้นเขตที่ดินโจทก์และจำเลย เป็นธรรมดาที่การวางสิ่งของของจำเลยในที่ดินของจำเลยอาจจะไปติดกับฝาผนังตึกของโจทก์ได้ การที่จำเลยใช้ประโยชน์จากฝาผนังตึกนี้โดยไม่ปรากฏว่าทำให้โจทก์เสียหายประการใด จึงไม่เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์
เมื่อฝาผนังตึกของโจทก์สูงกว่าอาคารของจำเลย จึงเป็นธรรมดาที่น้ำฝนจากหลังคาและฝาผนังตึกของโจทก์ย่อมจะไหลลงไปสู่ทรัพย์สินของจำเลย ทำให้ทรัพย์สินของจำเลยเสียหายโจทก์จะต้องจัดการป้องกันหรือแก้ไข แต่โจทก์มิได้จัดการฉะนั้น การที่จำเลยพอกปูนซีเมนต์เชื่อมหลังคาของจำเลยกับผนังตึกของโจทก์จึงเป็นการป้องกันความเสียหายอันจะเกิดขึ้นแก่จำเลย หาใช่จำเลยใช้สิทธิไม่สุจริตมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ประการใดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งข้อมูลพฤติการณ์หลอกลวงของบุคคลให้ธนาคารทราบเพื่อป้องกันความเสียหาย ไม่เป็นหมิ่นประมาท
จำเลยที่ 2 ในฐานะเลขาธิการ ได้แจ้งข่าวการประชุมของสมาคมธนาคารไทย จำเลยที่ 1 ตามมติของที่ประชุม โดยทำเป็นหนังสือเวียนลับเฉพาะถึงสมาชิก แจ้งให้ทราบถึงพฤติการณ์ของบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ไปขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตจากธนาคารสมาชิกแล้วไม่มาติดต่อขอรับเอกสารไปรับของทำให้ธนาคารสมาชิกได้รับความเสียหาย โดยในหนังสือเวียนได้ระบุชื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งมีชื่อโจทก์รวมอยู่ด้วย เพื่อมิให้ธนาคารสมาชิกได้รับความเสียหายดังที่มีมาอีก เช่นนี้ ถือได้ว่าการแจ้งข่าวดังกล่าวเป็นการแสดงข้อความโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในลำเหมือง: การครอบครองและการป้องกันความเสียหายจากการปิดกั้นลำเหมือง
เหมืองพิพาทเป็นลำเหมืองที่จำเลยกับพวกช่วยกันขุดและจำเลยได้ครอบครองโดยใช้น้ำจากเหมืองพิพาทตลอดมา แม้โจทก์จะได้ครอบครองและแจ้งการครอบครองที่ดินของโจทก์ทั้งสองฟากเหมืองพิพาท ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะถือได้ว่าเหมืองพิพาทเป็นของโจทก์
เมื่อโจทก์ได้ปิดกั้นลำเหมืองพิพาทเป็นเหตุให้พวกจำเลยไม่มีน้ำใช้ทำนาพวกจำเลยจึงได้รื้อออก เช่นนี้ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยหาต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อป้องกันความเสียหายในคดีอาญา ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่จำเลยมีหนังสือถึงผู้บังคับบัญชาสูงสุดของโจทก์โดยมุ่งประสงค์ชี้แจงให้ทราบว่า จำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาต่อศาลแล้ว ขอให้หาทางป้องกันมิให้โจทก์ทำหลักฐานว่าในวันกล่าวหาโจทก์ปฏิบัติราชการอยู่ และหาทางป้องกันมิให้การกระทำผิดตามที่ได้ฟ้องไว้เกิดขึ้นอีก เช่นนี้ เป็นการกระทำโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม เพื่อป้องกันส่วนได้เสียของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(1)แล้ว จำเลยไม่มีความผิด.
of 2