พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าจ้างและการผัดผ่อนการชำระหนี้ไม่ถือเป็นการยอมรับหนี้
จำเลยเอางานที่รับเหมาจากกรมชลประทานมาว่าจ้างให้โจทก์ทำให้อายุความฟ้องเรียกสินจ้างมีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) นับแต่โจทก์มีสิทธิรับเงินตามเงื่อนไขในสัญญา การที่โจทก์ไปขอคิดบัญชีกับจำเลย แต่จำเลยขอผัดผ่อน ฟังไม่ได้ว่าจำเลยรับสภาพหนี้อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารมีหน้าที่คืนเงินฝากให้ทายาทหลังผู้ฝากเสียชีวิต การขอผัดผ่อนเพื่อรอคดีถึงที่สุดไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
ผู้ฝากเงินไว้กับธนาคารมีนิติสัมพันธ์กับธนาคารตามลักษณะฝากทรัพย์. ผู้ฝากจะถอนเงินคืนก่อนถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ไม่ได้. และธนาคารผู้รับฝากจะส่งเงินคืนก่อนถึงเวลานั้นก็ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 673. แต่เมื่อผู้ฝากตาย. ธนาคารมีหน้าที่ต้องคืนเงินให้แก่ทายาทตามมาตรา 665.
คำพิพากษาที่ตั้งผู้จัดการมรดก. มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น. เพราะไม่ใช่คำพิพากษาเกี่ยวด้วยฐานะหรือความสามารถของบุคคล.
ผู้จัดการมรดกขอเบิกเงินของเจ้ามรดกที่ฝากไว้กับธนาคาร.ธนาคารขอผัดจ่ายให้ภายใน 1 เดือน. เพื่อให้คดีขอตั้งผู้จัดการมรดกขาดอายุอุทธรณ์. ทั้งธนาคารก็มีเงินพร้อมจะจ่ายให้ได้. ไม่ถือว่าธนาคารผิดสัญญาหรือทำละเมิดต่อผู้จัดการมรดก.
คำพิพากษาที่ตั้งผู้จัดการมรดก. มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น. เพราะไม่ใช่คำพิพากษาเกี่ยวด้วยฐานะหรือความสามารถของบุคคล.
ผู้จัดการมรดกขอเบิกเงินของเจ้ามรดกที่ฝากไว้กับธนาคาร.ธนาคารขอผัดจ่ายให้ภายใน 1 เดือน. เพื่อให้คดีขอตั้งผู้จัดการมรดกขาดอายุอุทธรณ์. ทั้งธนาคารก็มีเงินพร้อมจะจ่ายให้ได้. ไม่ถือว่าธนาคารผิดสัญญาหรือทำละเมิดต่อผู้จัดการมรดก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผัดผ่อนการไถ่ถอนที่ดินขายฝากโดยผู้ซื้อ ไม่ถือว่าผู้ขายผิดนัดสิทธิไถ่ถอน
ผู้ขายฝากขอไถ่ถอนที่ดินซึ่งขายฝากไว้ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาผู้ซื้อขอผัดผ่อนประวิงเวลาไปเรื่อยจนพนกำหนดไถ่ถอนคืน ดังนี้ จะถือว่าผู้ขายผิดนัดไม่ใช้สิทธิขอไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากภายในกำหนดหาได้ไม่ และไม่เป็นการขยายเวลาไถ่ถอนจากสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผัดผ่อนการไถ่ถอนที่ดินขายฝากของผู้ซื้อ ทำให้สิทธิการไถ่ถอนของผู้ขายไม่ระงับ แม้พ้นกำหนดสัญญา
ผู้ขายฝากขอไถ่ถอนที่ดินซึ่งขายฝากไว้ภายในกำหนดเวลาตามสัญญา ผู้ซื้อขอผัดผ่อนประวิงเวลาไปเรื่อย จนพ้นกำหนดไถ่ถอนคืน ดังนี้ จะถือว่าผู้ขายผิดนัดไม่ใช้สิทธิขอไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากภายในกำหนดหาได้ไม่ และไม่เป็นการขยายเวลาไถ่ถอนจากสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496 ด้วย (อ้างฎีกา 339/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำร้องขอผัดผ่อนชำระค่าธรรมเนียมของโจทก์อนาถาหลังศาลมีคำสั่งให้ชำระ และผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาถูกศาลพิพากษาให้เป็นผู้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าสวมสิทธิเป็นโจทก์แทน จำเลยร้องขอให้ศาลสั่งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมเพราะมีกองทรัพย์สินอยู่กว่า 50,000 บาทศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมแต่เริ่มฟ้องมาชำระภายใน 1 เดือน ในวันครบกำหนด 1 เดือนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องว่า เงินในกองทรัพย์สินของโจทก์ผู้ล้มละลายมีไม่พอจะเสียค่าธรรมเนียม ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมนั้นเสียและให้โจทก์ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้ต่อไป คดีได้ความดังนี้ ศาลชอบที่จะได้สั่งคำร้องขอของโจทก์ในข้อจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาต่อไปนั้นเสียก่อน การที่ศาลไปถือ (ในวันรุ่งขึ้น) บัดนี้เกินกำหนดแล้ว โจทก์ไม่ชำระค่าธรรมเนียมและไม่ได้ขอผัดผ่อน ถือว่าโจทก์ไม่ดำเนินคดีตามที่ศาลสั่ง เป็นการทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีเสียนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ
นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156นั้นแม้ศาลจะไม่อนุญาตให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมมาแล้ว และไม่มีการอุทธรณ์คำสั่งนั้นภายใน 7 วันก็ตามคู่ความฝ่ายนั้นก็ยังขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่โดยเฉพาะในข้อที่ว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอได้ดังนี้ คำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 1 เดือนแม้โจทก์มิได้อุทธรณ์เมื่อโจทก์ก็ยังยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในข้อที่ว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมได้อีก ดังที่โจทก์ได้กระทำมาในคำร้องนั้นแล้ว ศาลก็ชอบที่จะได้พิจารณาและมีคำสั่งในข้อนี้ก่อน
นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156นั้นแม้ศาลจะไม่อนุญาตให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมมาแล้ว และไม่มีการอุทธรณ์คำสั่งนั้นภายใน 7 วันก็ตามคู่ความฝ่ายนั้นก็ยังขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่โดยเฉพาะในข้อที่ว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอได้ดังนี้ คำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 1 เดือนแม้โจทก์มิได้อุทธรณ์เมื่อโจทก์ก็ยังยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในข้อที่ว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมได้อีก ดังที่โจทก์ได้กระทำมาในคำร้องนั้นแล้ว ศาลก็ชอบที่จะได้พิจารณาและมีคำสั่งในข้อนี้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งป่วยผ่านตัวแทนเพื่อขอผัดผ่อนการตรวจเลือกทหาร ถือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
การที่จำเลยซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมีจดหมายล่วงหน้าถึงนายอำเภอซึ่งเป็นกรรมการตรวจคัดเลือกทหารอยู่ด้วยคนหนึ่งว่าจำเลยป่วยมาให้คณะกรรมการตรวจคัดเลือกไม่ได้ เพื่อให้แจ้งต่อคณะกรรมการด้วยนั้นถือได้ว่าจำเลยได้จัดให้มีผู้แทนมาแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกในวันตรวจคัดเลือกตามความหมายของ มาตรา16 แล้ว จำเลยย่อมได้รับการยกเว้นโทษตาม มาตรา27(7) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 ส่วนการที่นายอำเภอหลงลืมไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการตรวจคัดเลือกทหารนั้นมิใช่ความผิดของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1500(2) และผลของการผัดผ่อนการฟ้อง
เหตุขอหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1500 (2) นั้น เมื่อไม่ได้ยกขึ้นอ้างฟ้องร้องเสียในกำหนด 3 เดือน สิทธิฟ้องร้องย่อมระงับไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1509
การที่โจทก์ยอมให้จำเลยผัดไปโดยอ้างว่า จำเลยขอผัดผ่อนไว้ (ขอผัดการหย่า อย่าเพิ่งฟ้องร้อง) ย่อมไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้อายุความตาม ก.ม.ในเรื่องนี้ยืดออกไปได้
การที่โจทก์ยอมให้จำเลยผัดไปโดยอ้างว่า จำเลยขอผัดผ่อนไว้ (ขอผัดการหย่า อย่าเพิ่งฟ้องร้อง) ย่อมไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้อายุความตาม ก.ม.ในเรื่องนี้ยืดออกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1509 การผัดผ่อนไม่ทำให้ขยายอายุความ
เหตุขอหย่าตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1500(2) นั้น เมื่อไม่ได้ยกขึ้นอ้างฟ้องร้องเสียในกำหนด 3 เดือนสิทธิฟ้องร้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1509
การที่โจทก์ยอมให้จำเลยผัดไปโดยอ้างว่า จำเลยขอผัดผ่อนไว้(ขอผัดการหย่า อย่าเพิ่งฟ้องร้อง) ย่อมไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้อายุความตาม กฎหมายในเรื่องนี้ยืดออกไปได้
การที่โจทก์ยอมให้จำเลยผัดไปโดยอ้างว่า จำเลยขอผัดผ่อนไว้(ขอผัดการหย่า อย่าเพิ่งฟ้องร้อง) ย่อมไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้อายุความตาม กฎหมายในเรื่องนี้ยืดออกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฉ้อโกง: เริ่มนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและตัวผู้กระทำผิด แม้มีการผัดผ่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าที่ดินเป็นของจำเลยจะจำนองโจทก์ ๆ หลงเชื่อจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าไป ครั้นต่อมาปรากฎว่าที่ดินมีชื่อบุตรจำเลยเป็นเจ้าของ จำเลยได้หลอกลวงว่าจะขออนุญาตศาลจำนองในคำร้องจำเลยอ้างว่าจะเอาเงินไปซื้อที่ดินใหม่และใช้จ่ายการศึกษาของบุตร แต่จำเลยรับกับเจ้าพนักงานศาลว่าเอาไปใช้หนี้ส่วนตัว ศาลจึงยกคำร้อง โจทก์จึงทราบชัดว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตฉ้อโกงโจทก์ เช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ว่าที่ดินมีชื่อบุตรในโฉนด นับจากวันนั้นพ้นสามเดือนโจทก์จึงไปร้องทุกข์ คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1666/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฉ้อโกง: เริ่มนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและตัวผู้กระทำผิด แม้มีการผัดผ่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าที่ดินเป็นของจำเลยจะจำนองโจทก์โจทก์หลงเชื่อจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าไป ครั้นต่อมาปรากฏว่าที่ดินมีชื่อบุตรจำเลยเป็นเจ้าของ จำเลยได้หลอกลวงว่าจะขออนุญาตศาลจำนอง ในคำร้องจำเลยอ้างว่าจะเอาเงินไปซื้อที่ดินใหม่และใช้จ่ายการศึกษาของบุตร แต่จำเลยรับกับเจ้าพนักงานศาลว่าเอาไปใช้หนี้ส่วนตัว ศาลจึงยกคำร้อง โจทก์จึงทราบชัดว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตฉ้อโกงโจทก์ เช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดตั้งแต่วันที่โจทก์รู้ว่าที่ดินมีชื่อบุตรในโฉนด นับจากวันนั้นพ้นสามเดือนโจทก์จึงไปร้องทุกข์ คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว