พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายเงินกำไรออกจากประเทศไทย ผู้จำหน่ายต้องเป็นผู้ส่งเงินกำไรเอง ไม่ใช่ผู้แทนในการซื้อขาย
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ (ใช้บังคับระหว่างปี พ.ศ. 2509ถึง พ.ศ. 2510) ที่บัญญัติว่า "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดจำหน่ายเงินกำไร หรือเงินประเภทอื่นใดที่กันไว้จากกำไร หรือที่ถือได้ว่าเป็นเงินกำไร ออกไปจากประเทศไทย ให้เสียภาษีเงินได้ ฯลฯ" นั้นหมายความว่า ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไรและเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงหรือที่ถือได้ว่าเป็นกำไร โจทก์เป็นเพียงผู้ทำการแทนทำการติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยในการขายสินค้าแทนบริษัทอาตาก้า จำกัด ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อติดต่อได้ลูกค้าในประเทศไทยแล้ว โจทก์จะแจ้งให้บริษัทนั้นทราบว่ามีลูกค้าในประเทศไทยต้องการซื้อสินค้าชนิดใด แล้วบริษัทดังกล่าวจะติดต่อทำสัญญากับลูกค้ารับเงินจากลูกค้า และส่งสินค้าให้ลูกค้าเอง โจทก์เพียงแต่ได้รับค่านายหน้าจากผู้ขายเท่านั้น ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินของลูกค้า ไม่ถือว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงิน ซึ่งลูกค้าส่งไปเป็นค่าซื้อสินค้าบริษัทอาตาก้า จำกัด ในประเทศญี่ปุ่นเอง อันจะถือได้ว่าเป็นการจำหน่ายเงินกำไร โจทก์จึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา70 ทวิอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้จากการจำหน่ายกำไรออกนอกประเทศ ต้องเป็นผู้จำหน่ายกำไรจริง และเป็นกำไรสุทธิที่หักต้นทุนแล้ว
กรมสรรพากรมีคำสั่งให้โจทก์เสียภาษี โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ ดังนี้ นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่แล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2683/2517)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทย ดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทย ดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้จากการจำหน่ายกำไรออกนอกประเทศ ต้องเป็นผู้จำหน่ายกำไรจริง และเป็นกำไรสุทธิหลังหักต้นทุน
กรมสรรพากรมีคำสั่งให้โจทก์เสียภาษี โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ดังนี้ นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่แล้วโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2683/2517)
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทยดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70ทวิ นั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร และเงินที่จำหน่ายนั้นต้องเป็นกำไรโดยแท้จริงซึ่งหักต้นทุนออกแล้ว โจทก์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ม. ลูกค้าเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าและชำระเงินค่าสินค้าต่อบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โจทก์ยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ของบริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำการค้าในประเทศไทยดังนี้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไร เงินที่ลูกค้าส่งไปให้แก่บริษัท ม. ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินค่าซื้อสินค้า ไม่ใช่กำไร โจทก์จึงไม่มีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นรายการและเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทยด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพักเก็บสุราข้ามจังหวัดของผู้จำหน่ายสุราที่ได้รับอนุญาต: ไม่ถือเป็นการผิดกฎหมายหากมีใบอนุญาตและยังไม่ได้ส่งไปยังร้านปลายทาง
ผู้ได้รับอนุญาตเป็นผู้จำหน่ายสุราขายส่งมีหน้าที่ต้องทำบัญชีน้ำสุร ที่ได้รับตามใบขนโดยจดแจ้งสุราตามที่รับเข้าและที่ขนออกจากร้าน ถ้าละเลยไม่ทำก็ดี หรือไม่ลงบัญชีให้ถูกต้องก็ดี ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน และพ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 แต่ถ้ารับเอาสุราที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในจังหวัดอืนมาพักไว้ในร้านเพื่อจะส่งไปที่ร้านต่างจังหวัด ซึ่งได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุราได้อีกต่อหนึ่ง ดังนี้ เรียกได้ว่า เป็นการเอาสุรามาพักไว้ เพราะยังหาได้ขนส่งไปถึงสำนักงานหรือร้านในจังหวัดที่รับอนุญาตให้ขายส่งนั้นไม่และการที่เอาสุรามาพักเช่นนี้ก็มีใบอนุญาตให้เก็บสุรานอกสถานที่ได้ด้วยแล้ว ก็ย่อมยังไม่เป็นผิดตามบทกฎหมายที่กล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบัญชีสุราของผู้จำหน่ายส่งและการพักเก็บสุราเพื่อส่งต่อ
ผู้ได้รับอนุญาตเป็นผู้จำหน่ายสุราขายส่งมีหน้าที่ต้องทำบัญชีน้ำสุราที่ได้รับตามใบขนโดยจดแจ้งสุราตามที่รับเข้าและที่ขนออกจากร้านถ้าละเลยไม่ทำก็ดี หรือไม่ลงบัญชีให้ถูกต้องก็ดี ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นใน และพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 แต่ถ้ารับเอาสุราที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในจังหวัดอื่นมาพักไว้ในร้านเพื่อจะส่งไปที่ร้านต่างจังหวัด ซึ่งได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุราได้อีกต่อหนึ่งดังนี้ เรียกได้ว่า เป็นการเอาสุรามาพักไว้เพราะยังหาได้ขนส่งไปถึงสำนักงานหรือร้านในจังหวัดที่รับอนุญาตให้ขายส่งนั้นไม่ และการที่เอาสุรามาพักเช่นนี้ก็มีใบอนุญาตให้เก็บสุรานอกสถานที่ได้ด้วยแล้วก็ย่อมยังไม่เป็นผิดตามบทกฎหมายที่กล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาสูบเกินราคาควบคุม การพิสูจน์สถานะผู้จำหน่ายยาสูบเพื่อความผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ
ฟ้องคดีอาญาที่หาว่าจำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาควบคุมนั้น หากในฟ้องไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่า จำเลยเป็นผู้ทำกิจการจำหน่ายยาสูบให้แก่ผู้บริโภค ทั่ว ๆ ไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะอาจเป็นการขายแต่ครั้งคราวเดียวซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบตาม พ.ร.บ.ยาสูบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาสูบเกินราคาควบคุม การพิสูจน์ความเป็นผู้จำหน่ายยาสูบรายค้า
ห้องคดีอาญาที่หาว่าจำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาควบคุมนั้น
หากในฟ้องไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้ทำกิจการจำหน่ายยาสูบให้แก่ผู้บริโภคทั่วๆ ไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะอาจเป็นการขายแต่ครั้งคราวเดียวซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ
หากในฟ้องไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้ทำกิจการจำหน่ายยาสูบให้แก่ผู้บริโภคทั่วๆ ไปแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะอาจเป็นการขายแต่ครั้งคราวเดียวซึ่งยังไม่ถือว่าเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องจำหน่ายยาสูบเกินราคาต้องระบุตัวผู้จำหน่าย มิฉะนั้นไม่สามารถลงโทษได้
ฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาแต่มิได้ระบุว่าจำเลยเป็นผู้จำหน่าย ดังนี้ จะลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายยาสูบเกินราคาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาสูบ มาตรา 19: ผู้จำหน่ายยาสูบเท่านั้น
พระราชบัญญัติยาสูบ มาตรา19 ซึ่งลงโทษผู้จำหน่ายยาสูบเกินราคาที่อธิบดีสรรพสามิตกำหนดนั้น ใช้บังคับเฉพาะผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาแต่ไม่ได้ระบุว่าจำเลยเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ ดังนี้ ย่อมไม่มีทางลงโทษจำเลยได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายยาสูบเกินราคาแต่ไม่ได้ระบุว่าจำเลยเป็นผู้ทำการจำหน่ายยาสูบ ดังนี้ ย่อมไม่มีทางลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายบุหรี่โดยไม่ได้รับอนุญาตและราคาสูงกว่ากำหนด: จำเลยไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.ยาสูบ หากไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นผู้จำหน่าย
ฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายบุหรี่โดยไม่ได้รับอนุญาตและเกินราคาที่อธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนด ดังนี้ คดีไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติยาสูบ มาตรา 19, และ 40 เพราะไม่ได้ระบุว่าจำเลยเป็นผู้จำหน่ายยาสูบ