พบผลลัพธ์ทั้งหมด 40 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2548 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนในการพยายามฆ่า และอายุความความผิดพกพาอาวุธ
การฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ผู้กระทำความผิดได้คิดไตร่ตรองทบทวนแล้วจึงตกลงใจกระทำความผิด หาใช่เป็นการกระทำในลักษณะปัจจุบันทันด่วนไม่ พฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองตะโกนให้ของลับแล้วเดินออกจากร้านอาหารไปโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายมาก่อน และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าหลังจากที่จำเลยทั้งสองได้ออกจากร้านอาหารไปแล้ว จำเลยที่ 1 ได้ตระเตรียมการเพื่อฆ่าผู้เสียหาย การที่จำเลยที่ 1 กลับมาที่ร้านอาหารแล้วใช้อาวุธปืนยิงไปที่ผู้เสียหายในเวลาต่อเนื่องกัน จึงไม่พอที่จะให้รับฟังว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ความผิดข้อหาพาอาวุธปืนตาม ปอ. มาตรา 371 ซึ่งมีระวางโทษปรับไม่เกิน 100 บาท นั้น มีอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 95 (5) คดีนี้จำเลยที่ 1 กระทำความผิดวันที่ 15 มิถุนายน 2537 นับถึงวันฟ้องคือวันที่ 4 พฤศจิกายน 2542 คดีของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ในความผิดข้อหาดังกล่าว จึงเป็นอันขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (6) ชอบที่ศาลจะต้องยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดข้อหาดังกล่าวตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้ยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษาแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
ความผิดข้อหาพาอาวุธปืนตาม ปอ. มาตรา 371 ซึ่งมีระวางโทษปรับไม่เกิน 100 บาท นั้น มีอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 95 (5) คดีนี้จำเลยที่ 1 กระทำความผิดวันที่ 15 มิถุนายน 2537 นับถึงวันฟ้องคือวันที่ 4 พฤศจิกายน 2542 คดีของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ในความผิดข้อหาดังกล่าว จึงเป็นอันขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (6) ชอบที่ศาลจะต้องยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดข้อหาดังกล่าวตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้ยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษาแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1875/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดหลายกรรมต่างกัน และการรอการลงโทษ
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่รับใบอนุญาต เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำความผิดเป็นคนละเจตนาแตกต่างกัน และเป็นความผิดต่างฐานกัน แม้จำเลยจะกระทำความผิดทั้งสองฐานนี้ในวาระเดียวกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91
แม้ความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ จะเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง และ ป.อ. มาตรา 371 ต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด มิได้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 371 และตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ดังกล่าวมิได้มีบทบัญญัติให้ริบอาวุธปืนก็ตาม แต่อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนจึงเป็นทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิด ซึ่งโจทก์ได้ขอให้ริบและอ้าง ป.อ. มาตรา 32 มาท้ายฟ้องแล้ว จึงริบอาวุธปืนของกลางได้
การที่ศาลสั่ริบอาวุธปืนของกลางตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ แม้จะมิได้ระบุกฎหมายที่ให้อำนาจริบไว้ก็ตาม ถือว่าศาลได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับของกลางครบถ้วนแล้วตาม ป.วิ.อ. มาตรา 186 (9)
แม้ความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ จะเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง และ ป.อ. มาตรา 371 ต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด มิได้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 371 และตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ดังกล่าวมิได้มีบทบัญญัติให้ริบอาวุธปืนก็ตาม แต่อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนที่ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนจึงเป็นทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิด ซึ่งโจทก์ได้ขอให้ริบและอ้าง ป.อ. มาตรา 32 มาท้ายฟ้องแล้ว จึงริบอาวุธปืนของกลางได้
การที่ศาลสั่ริบอาวุธปืนของกลางตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ แม้จะมิได้ระบุกฎหมายที่ให้อำนาจริบไว้ก็ตาม ถือว่าศาลได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับของกลางครบถ้วนแล้วตาม ป.วิ.อ. มาตรา 186 (9)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4367/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าแม้ปืนชำรุด, ความผิดพกพาอาวุธปืน, ศาลลดโทษรอการลงโทษ
จำเลยมีเจตนาฆ่าพวกผู้เสียหาย การที่จำเลยใช้อาวุธปืนเล็งยิงผู้เสียหายทั้งสี่ในระยะกระชั้นชิดแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า แต่อาวุธปืนนั้นมีสภาพชำรุดใช้การไม่ได้ จึงไม่สามารถใช้ยิงพวกผู้เสียหายทั้งสี่ให้ถึงแก่ความตายได้ กรณีต้องปรับด้วย ป.อ. มาตรา 81
ความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง , 72 ทวิ วรรคสอง กฎหมายมิได้จำกัดเฉพาะว่าอาวุธปืนนั้นจะต้องใช้ยิงได้จึงเป็นความผิด และตามความคาดคิดของบุคคลทั่วไป หากไม่ล่วงรู้มาก่อนย่อมต้องนึกว่าอาวุธปืนดังกล่าวสามารถประทุษร้ายต่อชีวิตและร่างกายได้ แม้อาวุธปืนนั้นไม่อาจใช้ยิงได้ คนร้ายก็อาจนำไปใช้ประกอบอาชญากรรมทั่วไปได้ หากจะแปลว่าต้องใช้บังคับเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้ยิงได้เท่านั้น ผู้มีเจตนาร้ายอาจอาศัยช่องว่างของกฎหมายแยกชิ้นส่วนปืนออกแล้วพกพานำไปประกอบเข้าด้วยกันในภายหลัง โดยถือว่าการพาไปเช่นนั้นไม่เป็นความผิดความประสงค์ของบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวก็จะไร้ผล ดังนั้น เมื่ออาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธตามความหมายของกฎหมายและจำเลยพาติดตัวไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแล้ว แม้อาวุธปืนนั้นใช้ยิงไม่ได้ก็ถือว่าจำเลยกระทำความผิดแล้ว
ความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง , 72 ทวิ วรรคสอง กฎหมายมิได้จำกัดเฉพาะว่าอาวุธปืนนั้นจะต้องใช้ยิงได้จึงเป็นความผิด และตามความคาดคิดของบุคคลทั่วไป หากไม่ล่วงรู้มาก่อนย่อมต้องนึกว่าอาวุธปืนดังกล่าวสามารถประทุษร้ายต่อชีวิตและร่างกายได้ แม้อาวุธปืนนั้นไม่อาจใช้ยิงได้ คนร้ายก็อาจนำไปใช้ประกอบอาชญากรรมทั่วไปได้ หากจะแปลว่าต้องใช้บังคับเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้ยิงได้เท่านั้น ผู้มีเจตนาร้ายอาจอาศัยช่องว่างของกฎหมายแยกชิ้นส่วนปืนออกแล้วพกพานำไปประกอบเข้าด้วยกันในภายหลัง โดยถือว่าการพาไปเช่นนั้นไม่เป็นความผิดความประสงค์ของบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวก็จะไร้ผล ดังนั้น เมื่ออาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธตามความหมายของกฎหมายและจำเลยพาติดตัวไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแล้ว แม้อาวุธปืนนั้นใช้ยิงไม่ได้ก็ถือว่าจำเลยกระทำความผิดแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7601/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและพกพาอาวุธปืนในพื้นที่หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
สถานที่เกิดเหตุที่จำเลยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงโจทก์ร่วมเกิดที่ร้านขายอาหารของโจทก์ร่วม ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลนาชุมเห็ดอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง อยู่ห่างถนนสายลำปลอก-นาโยง ประมาณ 8 เมตรจึงเป็นหมู่บ้านตามความหมายของคำว่า หมู่บ้านแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 และตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะเวลากลางคืนเป็นอันตรายร้ายแรง ไม่สมควรรอการลงโทษ
พฤติการณ์ที่จำเลยพาอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปตามถนนในหมู่บ้านและทางสาธารณะในเวลากลางคืนนั้นนับว่าเป็นอันตรายต่อผู้อื่นเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นกรณีที่ร้ายแรง ไม่สมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2053/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและในเวลากลางคืน ศาลฎีกาไม่เห็นควรให้รอการลงโทษ
นอกจากจำเลยจะมีอาวุธปืน และกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดย ไม่ ชอบ ด้วย กฎหมายแล้ว จำเลยยังพาอาวุธปืนพร้อมกระสุนปืนติดตัวไปตาม ถนน สาธารณะในเมืองในเวลากลางคืนอีกด้วย พฤติการณ์แห่งคดีจึงยังไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4534/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดฐานมีอาวุธปืนและการพกพาอาวุธในที่สาธารณะ จำเป็นต้องมีหลักฐานแสดงว่าอาวุธปืนนั้นไม่ได้ขออนุญาต
ในความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ โจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความว่าอาวุธปืนกระบอกที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหายเป็นอาวุธปืนที่จำเลยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นหลักฐาน แม้จำเลยจะมิได้นำสืบปฏิเสธว่า อาวุธปืนนั้นจำเลยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนแล้วและจำเลยได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว คดีก็ไม่อาจลงโทษความผิดทั้งสองฐานนี้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านจึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพกพาวัตถุระเบิดในเมือง แม้ไม่มีเจตนาทำร้าย แต่พฤติการณ์ร้ายแรง ศาลไม่รอการลงโทษ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 78 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 การที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 แต่เพียงกระทงเดียวไม่ได้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 อีกกระทงหนึ่งแม้จะไม่ถูกต้อง ก็นับว่าเป็นการลงโทษสถานเบาและเป็นคุณแก่จำเลย
การที่จำเลยพาลูกระเบิดที่มีอำนาจทำลายในรัศมี 10 เมตร เข้าในเขตกรุงเทพซึ่งมีประชาชนหนาแน่น หากเกิดระเบิดขึ้นย่อมเกิดความเสียหายมากกว่าปกติ แม้จำเลยไม่มีเจตนานำลูกระเบิดไปก่อเหตุร้าย แต่เหตุร้ายจากลูกระเบิดอาจเกิดได้ตลอดเวลาโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรงควรแก่การปราบปรามการที่จำเลยมีความประพฤติไม่เคยเสียหาย ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนหรือเคยเป็นอาสาสมัครทหารพราน ถือได้ว่ามีคุณความดีมาก่อน และมีภาระต้องเลี้ยงดูบิดามารดา แต่เมื่อเทียบกับพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่ควรรอการลงโทษ.(ที่มา-ส่งเสริม)
การที่จำเลยพาลูกระเบิดที่มีอำนาจทำลายในรัศมี 10 เมตร เข้าในเขตกรุงเทพซึ่งมีประชาชนหนาแน่น หากเกิดระเบิดขึ้นย่อมเกิดความเสียหายมากกว่าปกติ แม้จำเลยไม่มีเจตนานำลูกระเบิดไปก่อเหตุร้าย แต่เหตุร้ายจากลูกระเบิดอาจเกิดได้ตลอดเวลาโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงเป็นพฤติการณ์ที่ร้ายแรงควรแก่การปราบปรามการที่จำเลยมีความประพฤติไม่เคยเสียหาย ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนหรือเคยเป็นอาสาสมัครทหารพราน ถือได้ว่ามีคุณความดีมาก่อน และมีภาระต้องเลี้ยงดูบิดามารดา แต่เมื่อเทียบกับพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่ควรรอการลงโทษ.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5509/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการพกพาในที่สาธารณะ แม้ไม่มีหลักฐานอาวุธปืนไม่ได้จดทะเบียน แต่ก็มีความผิด
จำเลยกับพวกร่วมกันมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนดังกล่าวไปใช้ยิงผู้ตาย และผู้เสียหายในทางสาธารณะ แม้โจทก์ไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลาง แต่ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยรับว่าไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนมาก่อน ซึ่งมีพนักงานสอบสวนเบิกความยืนยันและจำเลยก็ มิได้ถามค้านหรือนำสืบหักล้างแต่อย่างใด ย่อมฟังได้ว่า จำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อเท็จจริงยังไม่อาจฟังได้ด้วยว่าอาวุธปืนที่จำเลย มีโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นอาวุธปืนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและ ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับตามที่โจทก์ฟ้อง จึงลงโทษ จำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ในครอบครองไม่ได้ คงลงโทษได้ แต่เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5509/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการพกพาอาวุธในที่สาธารณะ ศาลจำกัดบทลงโทษเฉพาะข้อหาพกพา
จำเลยกับพวกร่วมกันมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนดังกล่าวไปใช้ยิงผู้ตาย และผู้เสียหายในทางสาธารณะแม้โจทก์ไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลาง แต่ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยรับว่าไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนมาก่อน ซึ่งมีพนักงานสอบสวนเบิกความยืนยันและจำเลยก็ มิได้ถามค้านหรือนำสืบหักล้างแต่อย่างใด ย่อมฟังได้ว่า จำเลยมี อาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อเท็จจริงยังไม่อาจฟังได้ด้วยว่าอาวุธปืนที่จำเลย มีโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นอาวุธปืนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและ ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับตามที่โจทก์ฟ้อง จึงลงโทษ จำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ในครอบครองไม่ได้ คงลงโทษได้ แต่เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น