คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พ.ร.บ.ขนส่งทางบก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 17 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4302/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้ขับรถที่กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ร.บ.ขนส่งทางบกแก้ไขโทษหนักกว่ากฎหมายยาเสพติด
ขณะที่จำเลยกระทำความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนและปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถ ซึ่งเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท มี พ.ร.บ.การขนส่งทางบก (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2542 มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา127 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การขนส่งทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 และให้เพิ่มความในวรรคสองของมาตรา127 ทวิ ว่า "ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 102(3 ทวิ)หรือ (3 ตรี) ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษหรือกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท แล้วแต่กรณี แต่ถ้าผู้นั้นเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ต้องระวางโทษสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทแล้วแต่กรณี อีกหนึ่งในสาม"จึงต้องลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 127 ทวิวรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตาม ป.อ.มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งไม่ประจำทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 1.6 ตัน เข้าข้อยกเว้น พ.ร.บ.ขนส่งทางบกไม่ได้ หากมีเจตนาเพื่อรับจ้าง
ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 4(1) และ (3) ให้คำจำกัดความ "การขนส่ง" หมายความว่าการขนคน สัตว์ หรือสิ่งของโดยทางบกด้วยรถและ"ขนส่งไม่ประจำทาง" หมายความว่า การขนส่งเพื่อสินจ้างโดยไม่จำกัดเส้นทาง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า วันเกิดเหตุจำเลยนำรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคลซึ่งมีน้ำหนัก1,400 กิโลกรัม ไปจอดที่สถานีรถไฟศรีสะเกษจำเลยตกลงรับจ้างค.และอ. พร้อมกระเป๋าและสิ่งของขึ้นรถคันดังกล่าวเพื่อเดินทางไปส่งที่ตำบลดวนใหญ่ ในราคาค่าจ้าง 150 บาทค.และอ. นำกระเป๋าและสิ่งของขึ้นไปวางบนรถจำเลยแล้วแต่ยังไม่ทันออกเดินทางก็ถูกจับเสียก่อนถือได้ว่าจำเลยได้ประกอบการขนส่งแบบไม่ประจำทางสำเร็จแล้ว แม้ยังไม่ได้รับค่าจ้างจากผู้โดยสารก็ตาม เมื่อจำเลยประกอบการขนส่งไม่ประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา 23 วรรคหนึ่งประกอบด้วย มาตรา 126 ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2537 มาตรา 5 บัญญัติว่า "พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่ (2) การขนส่งโดย (ข) รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัมตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ซึ่งมิได้ใช้ประกอบการขนส่งเพื่อสินจ้าง" หมายความว่าการนำรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกิน 1,600 กิโลกรัมมาประกอบการขนส่งที่ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ ตามมาตรา 5 นี้ ต้องเป็นกรณีที่ผู้ประกอบการขนส่งหรือผู้ขนส่งมิได้กระทำเพื่อสินจ้างจากผู้โดยสารหรือผู้ให้ส่งสิ่งของหรือสัตว์ แต่กรณีของจำเลยเป็นการประกอบการขนส่งเพื่อสินจ้างจากผู้โดยสารจึงไม่เข้าข้อยกเว้น จำเลยจึงมีความผิดตามมาตราดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2406/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้น พ.ร.บ.ขนส่งทางบก รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 12 ที่นั่ง และน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กก. ไม่ต้องขออนุญาต
ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2523มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ. 2522 และให้ใช้ความใหม่แทน มีผลว่าพระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 12 คน รวมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกิน 1,600 กิโลกรัมด้วย รถยนต์จำเลยมีลักษณะเป็นรถยนต์นั่งสองแถวประเภทส่วนบุคคลที่นั่ง 11 คน น้ำหนักรถ 1,200กิโลกรัม จึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวการที่จำเลยนำรถยนต์คันดังกล่าววิ่งรับส่งคนโดยสารเพื่อรับจ้างอย่างรถยนต์โดยสารประจำทางจึงไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3852/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้น พ.ร.บ.ขนส่งทางบก: น้ำหนักรถเกิน 1.6 ตัน ไม่ต้องขออนุญาต
รถยนต์ที่จำเลยใช้เป็นพาหนะในการขนส่งมีน้ำหนักไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม เป็นการขนส่งที่พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 5(2) ยกเว้นมิให้ใช้บังคับดังนี้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 23,93,126,151 แห่งกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3271/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้น พ.ร.บ.ขนส่งทางบก: รถยนต์ส่วนบุคคลน้ำหนักไม่เกิน 1.6 ตัน ไม่ต้องขออนุญาตประกอบการขนส่ง
พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 5 ซึ่งแก้ไขโดย(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2523 มาตรา 4 กำหนดให้รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม ไม่ต้องถูกควบคุมตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบกฯ เมื่อรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่จำเลยใช้บรรทุกขนส่งคนโดยสารมีน้ำหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม จึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับของ พ.ร.บ. ดังกล่าว แม้จำเลยจะนำรถคันนั้นมาประกอบการขนส่งประจำทางบรรทุกคนโดยสารเพื่อสินจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบกฯ มาตรา 23 ประกอบด้วยมาตรา 126.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำ, ความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก, และข้อเท็จจริงต่างจากฟ้องโจทก์ ศาลฎีกายกฟ้อง
เมื่อข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอุทธรณ์ ไม่มีผลทำให้การวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลจากพยานหลักฐานที่โจทก์จำเลยนำสืบกันมาเปลี่ยนแปลงเป็นประการอื่นแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าวให้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี
แม้คดีนี้กับคดีก่อนจะเป็นการกระทำอันเดียวกันข้อหาอย่างเดียวกัน และศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในคดีก่อนเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว แต่เมื่อมิใช่จำเลยคนเดียวกันจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษฐานประกอบการขนส่งไม่ประจำทางข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยประกอบการขนส่งส่วนบุคคล ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหานี้ตามที่โจทก์ฟ้องได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษียานยนต์: การเสียภาษีตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก และอำนาจเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของกรมการขนส่งทางบก
บทบัญญัติมาตรา 167 วรรคแรกแห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ .2522 มีความหมายว่ารถยนต์ที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้ และครบกำหนดเวลาที่ได้เสียภาษีไว้แล้ว ก็ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อรถตามฟ้องเสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้ในปี 2522 และครบกำหนดเมื่อสิ้นปีนั้น รถคันดังกล่าวจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีรถยนต์ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เป็นต้นไป เมื่อรถคันนั้นไม่เสียภาษี กรมการขนส่งทางบกซึ่งมีหน้าที่ในการนี้ย่อมมีอำนาจเรียกเก็บภาษีย้อนหลังไปจนถึงวันที่จะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งไม่เกี่ยวกับภาษีที่ค้างชำระตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2473 ที่จะต้องชำระก่อนถึงวันที่ต้องชำระภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ได้
รถตามฟ้องเจ้าของเดิมเคยนำมาขออนุญาตประกอบการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 ขณะนั้นกรมการขนส่งทางบกมีอำนาจเพียงพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่ง ไม่มีอำนาจในการรับจดทะเบียนรถยนต์บรรทุก การที่โจทก์ขอให้กรมการขนส่งทางบกโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และขอเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการจดทะเบียนใหม่ โจทก์จะเสียภาษีนับแต่งวดที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นไปดังที่มาตรา 86 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 บัญญัติไว้หาได้ไม่ เมื่อไม่มีการจดทะเบียนรถใหม่ โจทก์จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และค่าเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้น พ.ร.บ.ขนส่งทางบก: น้ำหนักรถเกิน 1.6 ตัน ไม่เข้าข่ายความผิด
แม้จำเลยจะนำรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคลมาประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเรียกเก็บเงินเพื่อสินจ้าง แต่โจทก์มิได้นำสืบว่ารถคันดังกล่าวมีน้ำหนักรถเท่าใด จึงฟังไม่ได้ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลคันที่จำเลยขับเป็นรถที่มีน้ำหนักเกินกว่าหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัมรถคันดังกล่าวจึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23 ประกอบมาตรา 126.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้น พ.ร.บ.ขนส่งทางบก: น้ำหนักรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 1.6 ตัน
แม้จำเลยจะนำรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคลมาประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเรียกเก็บเงินเพื่อสินจ้าง แต่โจทก์มิได้นำสืบว่ารถคันดังกล่าวมีน้ำหนักรถเท่าใดจึงฟังไม่ได้ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลคันที่จำเลยขับเป็นรถที่มีน้ำหนักเกินกว่าหนึ่งพัน หกร้อยกิโลกรัม รถคันดังกล่าวจึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับของ พ.ร.บ. การขนส่งทางบก ฯ การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 23 ประกอบมาตรา126 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้น พ.ร.บ.ขนส่งทางบก: น้ำหนักรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 1.6 ตัน ไม่เข้าข่ายความผิด
แม้จำเลยจะนำรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคลมาประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเรียกเก็บเงินเพื่อสินจ้าง แต่โจทก์มิได้นำสืบว่ารถคันดังกล่าวมีน้ำหนักรถเท่าใด จึงฟังไม่ได้ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลคันที่จำเลยขับเป็นรถที่มีน้ำหนักเกินกว่าหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัมรถคันดังกล่าวจึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23 ประกอบมาตรา 126
of 2