คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องคดีอนาถา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอฟ้องคดีอนาถาหลังศาลสั่งยกคำร้องแล้ว ถือเป็นปัญหาที่ยุติ ไม่สามารถขอพิจารณาใหม่ได้
เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องของโจทก์ที่ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เนื่องจากคดีของโจทก์ไม่มีมูลที่จะฟ้องร้องแล้ว
โจทก์ต้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคท้าย แต่โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าคดีของตนมีมูลที่จะฟ้องร้องและเป็นคนยากจน ดังนั้น ปัญหาที่ว่าคดีโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องหรือไม่ จึงยุติแล้วตามคำสั่งศาลชั้นต้น ถ้าหากศาลจะอนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมและได้ความว่าโจทก์เป็นคนยากจนก็ตาม ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของโจทก์ จึงไม่มีเหตุที่จะพิจารณาคำขอของโจทก์นั้นใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอนาถาและการยุติของคำสั่งศาล การยื่นคำร้องใหม่เพื่อขอแสดงหลักฐานเพิ่มเติมหลังพ้นกำหนดอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์ที่ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาเนื่องจากคดีของโจทก์ไม่มีมูลที่จะฟ้องร้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย กลับยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าคดีของตนมีมูลที่จะฟ้องร้องและเป็นคนยากจน ดังนั้นปัญหาที่ว่าคดีโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องหรือไม่ ย่อมยุติแล้วตามคำสั่งศาลชั้นต้น ถึงหากศาลจะอนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมและได้ความว่าโจทก์เป็นคนยากจน ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของโจทก์ จึงไม่มีเหตุที่จะพิจารณาคำขอของโจทก์นั้นใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอฟ้องคดีอนาถา: การแก้ไขกระบวนพิจารณาหลังศาลฎีกาตัดสินถึงที่สุด และการกำหนดเวลาชำระค่าขึ้นศาล
ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาเพราะโจทก์มอบอำนาจให้ ก.ผู้ฟ้องคดีแทนเป็นผู้สาบานตัว โจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว และเมื่อศาลฎีกาให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งแล้ว คำสั่งศาลฎีกาดังกล่าวจึงถึงที่สุด โจทก์จะยื่นคำร้องต่อศาลภาษีอากรอีกเพื่อขอให้กรรมการบริษัทสาบานตัวประกอบคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เพื่อชี้แจงว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาล อันเป็นการขอแก้ไขกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องที่ไม่ถูกต้องเสียใหม่ ย่อมไม่อาจทำได้เพราะไม่มีคำร้องโจทก์เหลืออยู่ให้ดำเนินการแก้ไขกระบวนพิจารณาเสียใหม่ได้ และคำร้องดังกล่าวมิได้ร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคสี่
เมื่อศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่รับคำร้องและนัดไต่สวนโจทก์ที่ขอให้ศาลภาษีอากรกลางอนุญาตให้โจทก์นำกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์เข้าสาบานตัว แล้วมีคำสั่งใหม่เป็นให้ยกคำร้องโจทก์ศาลจะต้องกำหนดเวลาให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลมาชำระในเวลาอันสมควร จะมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ไปทันทีหาชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอฟ้องคดีอนาถาและการชำระค่าขึ้นศาล ศาลมีอำนาจแก้ไขกระบวนพิจารณาและกำหนดเวลาชำระค่าธรรมเนียมใหม่ได้
คำร้องของโจทก์ฉบับลงวันที่28ตุลาคม2535เพียงแต่ขอต่อศาลให้อนุญาตโจทก์นำกรรมการบริษัทของโจทก์เข้าสาบานตัวให้คำชี้แจงว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลประกอบคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ฉบับลงวันที่13กันยายน2534เท่านั้นมิได้ร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา156วรรคสี่เมื่อศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ฉบับลงวันที่13กันยายน2534และศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์แล้วคำสั่งดังกล่าวจึงถึงที่สุดโจทก์จะให้กรรมการบริษัทโจทก์สาบานตัวประกอบคำร้องดังกล่าวอีกอันเป็นการขอแก้ไขกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องที่ไม่ถูกต้องนั้นเสียใหม่ย่อมไม่อาจจะทำได้เพราะไม่มีคำร้องโจทก์เหลืออยู่สำหรับให้โจทก์ดำเนินการแก้ไขกระบวนพิจารณาเสียใหม่ได้ โจทก์ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่28ตุลาคม2535ก่อนครบกำหนดเวลาที่จะต้องนำเงินค่าขึ้นศาลมาชำระตามคำสั่งศาลฎีกาโดยโจทก์เจตนาที่จะให้ศาลภาษีอากรกลางไต่สวนพยานโจทก์และมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาได้ต่อไปเมื่อศาลภาษีอากรกลางสั่งรับคำร้องและนัดไต่สวนโจทก์จึงหลงผิดว่ายังไม่ต้องชำระค่าขึ้นศาลตามคำสั่งศาลฎีกาโดยรอฟังผลการไต่สวนและคำสั่งศาลภาษีอากรกลางที่จะมีคำสั่งต่อไปโจทก์จึงมิได้ชำระค่าขึ้นศาลตามกำหนดเวลาที่ศาลฎีกากำหนดไว้เมื่อศาลภาษีอากลางเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวแล้วมีคำสั่งใหม่เป็นให้ยกคำร้องของโจทก์ฉบับลงวันที่28ตุลาคม2535จึงต้องกำหนดเวลาให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลมาชำระในเวลาอันสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4486/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินการฟ้องคดีอนาถาต้องมีการสืบพยาน หากไม่มีสิทธิยื่นคำร้องใหม่ไม่ได้
ชั้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ในศาลชั้นต้นไม่มีการสืบพยานโจทก์เลยแม้แต่ปากเดียว กรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ โจทก์จะยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3269/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอนาถา หากอุทธรณ์ไม่ทัน ศาลไม่อนุญาตให้ขอพิจารณาใหม่ได้
โจทก์ยื่นฟ้องพร้อมกับคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา และโจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคห้า แต่โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกินกำหนด7 วัน นับแต่วันมีคำสั่งและศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์นั้นแล้ว โจทก์จะกลับมาขอให้ศาลพิจารณาคำขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถานั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าโจทก์เป็นคนยากจนตามมาตรา 156 วรรคสี่อีก หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4658/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ยกคำขอฟ้องคดีอนาถา หลังไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอฟ้องคดีชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย จำเลยได้ร้องขอต่อศาลให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่โดยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานที่จำเลยนำมาแสดงแล้วยังคงเห็นว่าจำเลยไม่ใช่คนยากจน ให้ยกคำร้องขอของจำเลย คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอของจำเลยในกรณีเช่นนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 156 วรรคสี่ มิได้บัญญัติว่าให้เป็นที่สุด จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ภายใน 7 วัน นับแต่วันศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2277/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอฟ้องคดีอนาถาและการยุติของประเด็นคดี การนำเสนอหลักฐานเพิ่มเติมเฉพาะเรื่องความยากจน
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์ที่ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยไม่เชื่อว่าโจทก์เป็นคนยากจน และคดีของโจทก์ไม่มีมูลที่จะฟ้องร้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 7 วัน กลับยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าเป็นคนยากจนอีก แม้ตามคำร้องจะแสดงให้เห็นด้วยว่าโจทก์ประสงค์นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าคดีของตนมีมูลที่จะฟ้องร้องก็ตาม แต่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 อนุญาตให้ผู้ขอนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมในข้อที่ว่าตนเป็นคนยากจนแต่ประการเดียวเท่านั้น ดังนั้นปัญหาที่ว่าคดีโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องหรือไม่ ย่อมยุติแล้วตามคำสั่งศาลชั้นต้นแม้ได้ความว่าโจทก์เป็นคนยากจน ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของโจทก์จึงไม่มีเหตุที่จะพิจารณาคดีของโจทก์ใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอนาถาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนสาบานตัวตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกระบวนการพิจารณาไม่ชอบ
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยมิได้มีการสาบานตัวให้คำชี้แจงว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดถ้อยคำสาบานไว้และส่งสำเนาไปให้อีกฝ่ายหนึ่งพร้อมกับคำฟ้อง เป็นเรื่องที่โจทก์และเจ้าหน้าที่ศาลมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม ฉะนั้น กระบวนพิจารณาในเรื่องการขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาทั้งหมดตลอดจนคำสั่งหรือคำพิพากษาในเรื่องนี้จึงไม่ชอบ เมื่อความปรากฏขึ้นในชั้นฎีกาศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเสียใหม่ให้ถูกต้องแล้วไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอนาถาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการสาบานตัวตามกฎหมาย มิฉะนั้นกระบวนการพิจารณาไม่ชอบ
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาโดยมิได้มีการสาบานตัวให้คำชี้แจงว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลให้พนักงานเจ้าหน้าที่จดถ้อยคำสาบานไว้และส่งสำเนาไปให้อีกฝ่ายหนึ่งพร้อมกับคำฟ้องเป็นเรื่องที่โจทก์และเจ้าหน้าที่ศาลมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมฉะนั้นกระบวนพิจารณาในเรื่องการขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาทั้งหมดตลอดจนคำสั่งหรือคำพิพากษาในเรื่องนี้จึงไม่ชอบเมื่อความปรากฏขึ้นในชั้นฎีกาศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเสียใหม่ให้ถูกต้องแล้วไต่สวนคำร้องและมีคำสั่งใหม่
of 2