คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มาตรา 72

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 23 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงต่อเนื่อง: การกระทำผิดต่อผู้ข่มเหงตามมาตรา 72
การที่ผู้ตายใช้มีดไล่ฟันจำเลย นับว่าเป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม แม้จำเลยจะเป็นภริยาผู้ตาย ผู้ตายก็หามีสิทธิที่จะกระทำแก่จำเลยเช่นนั้นไม่ พฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุผลให้เชื่อว่าจำเลยเกิดความโกรธคือบันดาลโทสะการที่จำเลยกระทำแก่ผู้ตายในทันทีเมื่อกลับมาถึงบ้านและพบผู้ตาย อันเป็นระยะเวลาห่างจากถูกข่มเหงเพียง 2 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงเศษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จำเลยต้องหลบหนีจากการที่ถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงจนถึงกับต้องไปแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าการข่มเหงยังอยู่ในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันอยู่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: การกระทำผิดต่อผู้ข่มเหงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ผู้ตายเมาสุรามากกลับมาบ้าน ผู้ตายเอะอะหาเรื่องจำเลยหลายเรื่อง และกล่าวหาว่าจำเลยเอามีดของผู้ตายไปซ่อน ผู้ตายบอกให้จำเลยออกจากบ้านมิเช่นนั้นจะสับให้เป็นชิ้น แล้วใช้มีดดังกล่าวไล่ฟันจำเลยก่อน จำเลยวิ่งไป บ้านน้องผู้ตายซึ่งอยู่ใกล้กัน มีผู้ตายถือมีดวิ่งติดตามไป จำเลยต้องหลบหนีออกไปซ่อนตัวข้างต้นมะขามในทุ่งนา ผู้ตายหาจำเลยไม่พบจึงกลับบ้าน ปิดบ้านล็อกกุญแจนอน ต่อมาจำเลยกลับบ้าน แอบมองทางรอยแตกเห็นผู้ตายหลบอยู่ จึงใช้ลูกกุญแจไขเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไป แล้วจำเลยใช้มีดฟันผู้ตายด้วยความโมโหที่ถูกผู้ตายวิ่งไล่ทำร้ายอยู่เป็นประจำการที่ผู้ตายใช้มีดไล่ฟันจำเลย นับว่าเป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม แม้จำเลยจะเป็นภริยาผู้ตาย ผู้ตายก็หามีสิทธิที่จะกระทำแก่จำเลยเช่นนั้นไม่ ดังนี้ เมื่อจำเลยเกิดความโกรธ คือบันดาลโทสะ และจำเลยกระทำแก่ผู้ตายในทันทีเมื่อกลับมาถึงบ้านและพบผู้ตาย อันเป็นระยะเวลาห่างจากถูกข่มเหงเพียง 2 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงเศษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จำเลยต้องหลบหนีจากการที่ถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงจนถึงกับต้องไปแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าการข่มเหงยังอยู่ในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันอยู่ จึงตกอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ว่าจำเลยกระทำผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น การกระทำของจำเลยต้องด้วยบทบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากพฤติการณ์สบประมาทและการเยาะเย้ยท้าทายของผู้ตายและชู้รักเข้าข่ายเหตุลดโทษตามมาตรา 72
ผู้ตาย นาย พ. และจำเลยรู้จักชอบพอกัน ผู้ตายอยู่กินฉันสามีภรรยากับจำเลย วันเกิดเหตุผู้ตายพาจำเลยไปบ้านนาย พ.ขณะที่จำเลยกับนาย พ.คุยกันตามลำพังจำเลยถามนายพ.ว่าผู้ตายมานอนค้างคืนกับนาย พ.หรือไม่นายพ. ตอบว่าผู้ตายมานอนค้างคืนกับนาย พ. และจะแต่งงานกัน จำเลยเรียกผู้ตายมาถามผู้ตายบอกว่ามานอนกับนาย พ. ทุกวัน จำเลยจึงพูดขึ้นว่าทำไมจึงหลอกกัน แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ฟังได้ว่าจำเลยกระทำไปเพราะโกรธผู้ตายที่ผู้ตายหลอก และไปนอนค้างคืนกับนาย พ.โดยจำเลยไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ตายกับนายพ. มีสัมพันธ์สวาทกัน การที่ผู้ตายไปนอนค้างคืนกับนาย พ. และยังบอกจำเลยต่อหน้านาย พ.อย่างปราศจากความยำเกรงจำเลยจึงเป็นการเยาะเย้ยท้าทายจำเลยว่าได้ทำชู้กันอยู่เรื่อย ๆ จำเลยจะทำไม อันเป็นการยั่วยุอารมณ์ของจำเลย ถือได้ว่าเป็นการสบประมาทจำเลยอย่างร้ายแรงโดยมิได้คาดคิดมาก่อน ย่อมเหลือวิสัยที่จำเลยจะอดกลั้นโทสะไว้ได้เป็นการกดขี่ข่มเหงในทางจิตใจอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยบันดาลโทสะขาดความยับยั้งชั่งใจ กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2298/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกยิงก่อน: การกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เสพสุราอยู่ในลักษณะมึนเมาและอาจจะมีเหตุกินใจกันมาก่อน จำเลยที่ 1 ได้ใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 2 ได้รับบาดเจ็บจำเลยที่ 2 จึงยิงจำเลยที่ 1 เป็นการแก้แค้น การกระทำของจำเลยที่ 2 ไม่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนตามกฎหมาย แต่การที่จำเลยที่ 2 ถูกจำเลยที่ 1 ยิงก่อนถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมการกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2792/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากพฤติการณ์ชู้และการเย้ยหยัน: การกระทำที่ถูกกดขี่ข่มเหงทางจิตใจตามมาตรา 72
จำเลยกับนาง ก. ผู้ตายเป็นสามีภรรยากันประมาณ 16 ปีโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรด้วยกัน 3 คน อยู่กินร่วมเรือนเดียวกันจนถึงวันเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ 2 ปี ผู้ตายกับ ท. สนิทสนมกันชอบไปเล่นการพนันด้วยกันและเป็นชู้กัน เวลาจำเลยไม่อยู่บ้าน ท.มาหลับนอนในห้องเดียวกับผู้ตายที่บ้านจำเลย บุตรจำเลยก็เห็นคนอื่นก็เล่าลือกัน จำเลยเคยขอร้องทั้งผู้ตายและ ท. ไม่ให้เกี่ยวข้องกันก็ไม่มีใครเชื่อ ยังนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กันไปมาเสมอเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจของจำเลยเป็นอย่างยิ่งจำเลยมิใช่คนดุร้าย วันเกิดเหตุ ท. ให้ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปส่งบ้านจำเลยแลเห็นจำเลยขณะจำเลยกำลังเดินไปตามซอยทางเข้าบ้านก็มิได้ส่งผู้ตายลงตรงนั้นกลับขับขี่รถผ่านจำเลยไปห่างเพียง 1 วา ด้วยความทระนงองอาจปราศจากความยำเกรงจำเลยผู้เป็นสามีเป็นการเย้ยหยันสบประมาทอย่างร้ายแรง พฤติการณ์เช่นนี้นับได้ว่าเป็นการกระทำที่กดขี่ข่มเหงในทางจิตใจของจำเลยอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เมื่อจำเลยพบเห็นภาพดังกล่าวโดยบังเอิญโดยมิได้คาดคิดไม่สามารถอดกลั้นโทสะไว้ได้จึงใช้ปืนยิงผู้ตายกับ ท. ไปในทันทีทันใด ดังนี้ กรณีต้องด้วยมาตรา 72 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 38/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 98/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกทำร้าย: การแทงหลังถูกตบหน้าเข้าข่ายมาตรา 72
จำเลยเกิดปากเสียง ด่าทอแล้วใช้มือผลักซึ่งกันและกันกับพวกคนหนึ่งของผู้ตาย ผู้ตายเข้าห้ามให้แยกกันและใช้มือตบหน้าจำเลยไป 1 ที โดยมิได้แสดงอาการว่าจะทำร้ายจำเลยด้วยอาวุธอะไรต่อไปอีก จำเลยได้ชักมีดออกแทงผู้ตายไปทันทีถูกผู้ตายเป็นแผลฉกรรจ์ถึง 3 แผล ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตนเองให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึงหาได้ไม่และการที่ผู้ตายใช้มือตบหน้าจำเลยก่อนเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยแทงทำร้ายผู้ตายไปในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำความผิดด้วยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2303/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดโทษความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืน ต้องลงโทษทั้งจำและปรับตามวรรคหนึ่งของมาตรา 72
การที่จำเลยมีปลอกกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 7 จะต้องระวางโทษตามมาตรา 72 วรรคหนึ่ง มิใช่วรรคสอง เพราะวรรคสองเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา 7 เฉพาะกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงเท่านั้น เมื่อวรรคหนึ่งมีบทกำหนดโทษจำคุกและปรับจึงต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า เปลี่ยนเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา 72 จากบันดาลโทสะ
จำเลยถูกยิง แล้วเห็นคนที่ยิงวิ่งออกไปจากใต้ถุนเลี้ยวไปทางทิศใต้แล้วเลี้ยวไปทางทิศตะวันตก จำได้ว่าเป็นโจทก์ร่วม จำเลยจึงได้ยิงตามไปถูกโจทก์ร่วมเช่นนี้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายที่จำเลยได้รับนั้นผ่านพ้นไปแล้ว พฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยได้ยิงโจทก์ร่วมตอบไปนั้นก็เพราะบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ปัญหานี้ แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
หมายเหตุ คดีนี้มีจำเลยหลายคน จำเลยในที่นี้หมายถึงจำเลยที่ 1 (ดูข้อเท็จจริง)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากพฤติกรรมข่มเหงอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้กระทำผิดได้ตามมาตรา 72
ผู้ตายวิ่งไล่น้องสาวจำเลยเพื่อจะข่มขืนจนมาถึงเรือนจำเลย แล้วร้องด่าท้าทายขู่เข็ญข้างนอกเรือนจำเลยอยู่ตลอดเวลา จนจำเลยระงับโทสะไม่อยู่ คว้ามีดพร้าลงจากเรือนไล่ตามหลังผู้ตายไปทันในระยะทางประมาณ 8 เส้น และฟันผู้ตายตรงนั้นเช่นนี้ นับว่าเป็นพฤติการณ์ถึงขนาดอันถึอได้ว่าเป็นการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และเป็นการกระทำลงในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันถือได้ว่าเป็นการกระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะจากเหตุข่มเหงอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ผู้ตายวิ่งไล่น้องสาวจำเลยเพื่อจะข่มขืนจนมาถึงเรือนจำเลยแล้วร้องด่าท้าทายขู่เข็ญข้างนอกเรือนจำเลยอยู่ตลอดเวลา จนจำเลยระงับโทสะไม่อยู่ คว้ามีดพร้าลงจากเรือนไล่ตามหลังผู้ตายไปทันในระยะทางประมาณ 8 เส้น และฟันผู้ตายตรงนั้นเช่นนี้ นับว่าเป็นพฤติการณ์ถึงขนาดอันถือได้ว่าเป็นการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และเป็นการกระทำลงในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันถือได้ว่าเป็นการกระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
of 3