พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2548
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าและภาระการพิสูจน์ในคดีภาษีอากร ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลภาษีอากรกลาง
ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 20 และข้อกำหนดคดีภาษีอากร พ.ศ. 2544 ข้อ 15 ได้กำหนดให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า 30 วัน เมื่อระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยานดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว ถ้าคู่ความซึ่งมิได้ยื่นบัญชีระบุพยาน แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้ คู่ความดังกล่าวนั้นอาจยื่นคำร้องพร้อมทั้งบัญชีระบุพยานไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนพิพากษาคดี ขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้
ข้อเท็จจริงปรากฏตามสำนวนว่า โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันชี้สองสถานนั้นเอง อันเป็นการยื่นบัญชีระบุพยาน เมื่อระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยานได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยโจทก์แถลงด้วยวาจาว่าเข้าใจผิดในข้อกฎหมายเกี่ยวกับวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร จึงไม่ได้ทำคำร้องหรือยื่นบัญชีระบุพยานตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อกรณีนี้กฎหมายบังคับให้ทำเป็นคำร้องแต่โจทก์กลับแถลงด้วยวาจาจึงเป็นการไม่ชอบ โจทก์จะอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดของโจทก์ย่อมไม่อาจรับฟังได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่โจทก์ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดได้
โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอ้างว่ากรณีของโจทก์มีเหตุสมควรงดหรือลดเบี้ยปรับ ภาระการพิสูจน์ให้เห็นเป็นดังข้ออ้าง ย่อมตกแก่โจทก์
ข้อเท็จจริงปรากฏตามสำนวนว่า โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันชี้สองสถานนั้นเอง อันเป็นการยื่นบัญชีระบุพยาน เมื่อระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นบัญชีระบุพยานได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยโจทก์แถลงด้วยวาจาว่าเข้าใจผิดในข้อกฎหมายเกี่ยวกับวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร จึงไม่ได้ทำคำร้องหรือยื่นบัญชีระบุพยานตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อกรณีนี้กฎหมายบังคับให้ทำเป็นคำร้องแต่โจทก์กลับแถลงด้วยวาจาจึงเป็นการไม่ชอบ โจทก์จะอ้างว่าเป็นความเข้าใจผิดของโจทก์ย่อมไม่อาจรับฟังได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่โจทก์ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดได้
โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอ้างว่ากรณีของโจทก์มีเหตุสมควรงดหรือลดเบี้ยปรับ ภาระการพิสูจน์ให้เห็นเป็นดังข้ออ้าง ย่อมตกแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8120/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกต้อง แต่ยื่นล่าช้า ศาลพิพากษายืนตามคำวินิจฉัยเดิม
แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่โจทก์ยื่นเมื่อวันที่24 มิถุนายน 2536 นั้น เป็นฉบับที่โจทก์ยื่นปกติมิใช่ฉบับยื่นเพิ่มเติม แม้โจทก์มิได้ยื่นตามกำหนดเวลาตามประมวลรัษฎากร มาตรา 83 วรรคสอง ก็ตาม แต่ผลการตรวจสอบปรากฏว่า ยอดขายที่ต้องเสียภาษี ภาษีขาย ยอดซื้อที่เสียภาษีแล้ว ภาษีซื้อ ภาษีที่ชำระเงิน และภาษีสุทธิที่ชำระเกิน ตรงตามแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่โจทก์ยื่นไว้ทุกรายการ เช่นนี้ แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มฉบับดังกล่าวซึ่งโจทก์ยื่นปกติสำหรับเดือนภาษีมีนาคม 2536จึงมิได้มีข้อผิดพลาดหรือมีการแสดงรายการภาษีไว้ไม่ถูกต้องและไม่เป็นเหตุให้จำนวนภาษีในเดือนภาษีมีนาคม 2536คลาดเคลื่อนไปแต่อย่างใด ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินให้โจทก์เสียเบี้ยปรับตามมาตรา 89(4) และคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ชอบ ส่วนปัญหาที่ว่าโจทก์ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนภาษีมีนาคม 2536 ภายในกำหนดเวลาโจทก์จะต้องรับผิด หรือไม่อย่างไร ไม่เป็นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1937/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: เหตุสมควร & การอนุญาตศาล
แม้คู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในเวลากำหนด ป.วิ.พ.มาตรา 88 วรรคท้าย ก็มิได้ตัดโอกาสที่จะยื่นบัญชีระบุพยานเสียทีเดียว คงให้โอกาสแก่คู่ความฝ่ายที่มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานได้ หากปรากฏตามคำร้องขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานว่ามีเหตุสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้ และถ้าศาลเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรมจำเป็นที่จะต้องสืบพยานเช่นว่านั้น ศาลก็อนุญาตตามคำร้อง
โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานอ้างเหตุว่า ส.ทนายความคนก่อนของโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนตัวออกจากเป็นทนายความโดยไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบ เป็นเหตุให้ ส.ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความตั้งแต่วันนั้นและจากวันดังกล่าว ส.ก็ไม่ได้มาศาล ดังนี้เมื่อการไม่ยื่นบัญชีระบุพยานเป็นความบกพร่องของทนายความซึ่งโจทก์ไม่อาจทราบได้ จึงนับว่ามีเหตุอันสมควรที่โจทก์ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดได้ และเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นที่กำหนดไว้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม ทั้งจำเลยก็ไม่ได้สืบพยานแต่ประการใดกรณีไม่อาจทำให้จำเลยเสียเปรียบ จึงชอบที่รับบัญชีระบุพยานโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป
โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นบัญชีระบุพยานอ้างเหตุว่า ส.ทนายความคนก่อนของโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนตัวออกจากเป็นทนายความโดยไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบ เป็นเหตุให้ ส.ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความตั้งแต่วันนั้นและจากวันดังกล่าว ส.ก็ไม่ได้มาศาล ดังนี้เมื่อการไม่ยื่นบัญชีระบุพยานเป็นความบกพร่องของทนายความซึ่งโจทก์ไม่อาจทราบได้ จึงนับว่ามีเหตุอันสมควรที่โจทก์ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดได้ และเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นที่กำหนดไว้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม ทั้งจำเลยก็ไม่ได้สืบพยานแต่ประการใดกรณีไม่อาจทำให้จำเลยเสียเปรียบ จึงชอบที่รับบัญชีระบุพยานโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาคำขอพิจารณาใหม่หลังบังคับคดี: ต้องยื่นภายใน 15 วันนับจากปิดประกาศ หากล่าช้าต้องมีเหตุผล
เมื่อมีการปิดประกาศคำบังคับหน้าศาลวันที่ 8 ตุลาคม 2535คำบังคับจะมีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา 15 วัน ได้ล่วงพ้นไปแล้วตาม ป.วิ.พ.มาตรา 79 วรรคสอง หากจำเลยจะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันนับจากวันที่ 24 ตุลาคม 2535 ถ้าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอภายในระยะเวลาดังกล่าวก็จำต้องระบุเหตุแห่งการที่ยื่นคำขอมาล่าช้า แต่คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยลงวันที่ 25 มกราคม 2536 ซึ่งเกินกำหนดเวลาดังกล่าว และมิได้ระบุเหตุผลที่ยื่นล่าช้า กำหนดเวลาที่จะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่กรณีนี้หาใช่หกเดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยวิธีอื่นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาคำขอพิจารณาใหม่หลังคำบังคับ: ยื่นล่าช้าและไม่แจ้งเหตุ ศาลยกคำร้อง
เมื่อมีการปิดประกาศคำบังคับหน้าศาลวันที่8ตุลาคม2535คำบังคับจะมีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา15วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา79วรรคสองหากจำเลยจะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน15วันนับจากวันที่24ตุลาคม2535ถ้าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอภายในระยะเวลาดังกล่าวก็จำต้องระบุเหตุแห่งการที่ยื่นคำขอมาล่าช้าแต่คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยลงวันที่25มกราคม2536ซึ่งเกินกำหนดเวลาดังกล่าวและมิได้ระบุเหตุผลที่ยื่นล่าช้ากำหนดเวลาที่จะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่กรณีนี้หาใช่หกเดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยวิธีอื่นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอพิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน 15 วันนับจากวันปิดประกาศคำบังคับ หากล่าช้าต้องระบุเหตุผล
เมื่อมีการปิดประกาศคำบังคับหน้าศาลวันที่8ตุลาคม2535คำบังคับจะมีผลใช้ได้ต่อเมื่อกำหนดเวลา15วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา79วรรคสองหากจำเลยจะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ต้องยื่นภายใน15วันนับจากวันที่24ตุลาคม2535ถ้าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอภายในระยะเวลาดังกล่าวก็จำต้องระบุเหตุแห่งการที่ยื่นคำขอมาล่าช้าแต่คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยลงวันที่25มกราคม2536ซึ่งเกินกำหนดเวลาดังกล่าวและมิได้ระบุเหตุผลที่ยื่นล่าช้ากำหนดเวลาที่จะยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่กรณีนี้หาใช่หกเดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยวิธีอื่นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5453/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุอันสมควรยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: ความรับผิดชอบของทนาย, การปล่อยเวลา, และการติดตามผล
ตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 วรรคสี่ ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานนั้นคู่ความเพียงแต่แสดงให้เห็นเป็นที่พอใจแก่ศาลได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาได้ก็เป็นอันเพียงพอแล้ว หาจำต้องอ้างแสดงเหตุถึงขนาดว่ากรณีมีเหตุสุดวิสัยไม่ การที่ทนายจำเลยมอบบัญชีระบุพยานให้ ส. ก่อนวันสุดท้ายโดยให้ ส. นำไปยื่นในวันสุดท้าย แต่ ส. ไม่ได้นำบัญชีระบุพยานไปยื่นต่อศาลเนื่องจาก ส. ได้รับโทรศัพท์ทางไกลให้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพราะมารดาป่วยหนัก จึงออกเดินทางกลับต่างจังหวัดอย่างกะทันหัน โดย ส. มิได้แจ้งให้ทนายจำเลยทราบนั้น แสดงให้เห็นว่าทนายจำเลยไม่ระมัดระวังเอาใจใส่รับผิดชอบคดีของตน เพราะแทนที่จะรีบยื่นบัญชีระบุพยานเสียแต่เนิ่น ๆ แต่กลับปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนถึงก่อนวันสุดท้าย จึงมอบให้ ส. ไปยื่นบัญชีระบุพยานแทนตนและทนายจำเลยก็มิได้ติดตามสอบถาม ส. ว่าผลการดำเนินการเป็นอย่างไรจึงเป็นความบกพร่องผิดพลาดของทนายจำเลย ถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุอันสมควรที่จำเลยไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานตามกำหนดเวลาในข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 วรรคสี่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4766/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าในคดีภาษีอากร แม้ศาลเลื่อนชี้สองสถาน ก็ยังต้องยึดกำหนดเวลาเดิม
โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลภาษีอากรกลางก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่า 7 วัน แต่ได้ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน ศาลสั่งว่ารอไว้สั่งวันนัดชี้สองสถานครั้นถึงวันนัดชี้สองสถานศาลสอบจำเลยแล้ว จำเลยคัดค้านศาลจึงนัดไต่สวนคำร้องของ โจทก์ โดยเลื่อนการชี้สองสถานในวันดังกล่าวไป เพื่อทำการไต่สวนคำร้องก่อน การที่ไม่ได้มีการชี้สองสถานจริง ๆ จึงเกิดจากเหตุที่โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลา กรณีเช่นนี้จะถือเอาการชี้สองสถานจริง ๆ เป็นหลักในการนับระยะเวลายื่นบัญชีระบุพยานตามข้อกำหนดคดีภาษีอากร ข้อ 8 วรรคหนึ่งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าและผลกระทบต่อการนำสืบพยานในคดีแพ่ง
จำเลยที่ 3 ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันอ้างว่าเป็นเพราะความพลั้งเผลอและหลงลืมของทนาย กรณีไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะรับบัญชีระบุพยานของจำเลยที่ 3 ที่ยื่นเกินกำหนดนั้น และกรณีเช่นนี้จำเลยที่ 3 ย่อมไม่อาจนำพยานหลักฐานของตนเข้าสืบ และไม่อาจสาบานตนเข้าเบิกความเป็นพยานตนเองได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5312/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้าทำให้ไม่อาจสืบพยานได้ ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลล่าง
ผู้ร้องอ้างว่ามิได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน เพราะทนายผู้ร้องไม่ได้อ่านหมายนัดสืบพยานโจทก์โดยเข้าใจว่าเป็นหมายนัดชี้สองสถานนั้น เป็นข้ออ้างที่ปราศจากเหตุผลไม่อาจรับฟังได้ไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะรับบัญชีระบุพยานของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 และผู้ร้องไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้เพราะต้องห้ามตามมาตรา 87