คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รักษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5273/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางภารจำยอมอาจเกิดขึ้นได้แม้มีทางออกอื่น และการถมดินเพื่อรักษาทางภารจำยอมไม่ถือเป็นการละเมิด
ที่ดินแปลงหนึ่งแม้มีทางออกสู่ถนนสาธารณะแล้วก็อาจก่อให้เกิดทางภารจำยอมทางอื่นโดยอายุความอีกได้ การที่เจ้าของสามยทรัพย์ถมทางภารจำยอมให้สูงเท่ากับทางสาธารณะเพื่อเป็นการรักษาและใช้ทางภารจำยอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1391ไม่เป็นการละเมิดต่อเจ้าของภารยทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนภารจำยอมเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาและใช้สิทธิภารจำยอม แม้ได้มาโดยอายุความ
การจดทะเบียนภารจำยอมเป็นการอันจำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภารจำยอมประการหนึ่งตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1391 ฉะนั้น แม้จะได้ภารจำยอมโดยอายุความก็ตาม โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของสามยทรัพย์ก็ชอบจะเรียกให้จำเลยที่ 1 เจ้าของภารยทรัพย์จดทะเบียนภารจำยอมแก่ตนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อความเสียหายจากทรัพย์สินสูญหาย: การรักษาความระมัดระวังตามวิสัยวิญญูชน
จำเลยเข้าเวรรักษาราชการตาม หน้าที่ และปฏิบัติอย่างที่เคยปฏิบัติมาก่อน กับได้ ใช้ ความระมัดระวังตาม วิสัยเช่น วิญญูชนทั่วไปจะพึงปฏิบัติในการดูแล ทรัพย์สินของตน แล้ว เมื่อปรากฏว่าคนร้ายได้ เล็ดลอดเข้าไปในอาคารโรงเรียน และงัดประตูเก็บเครื่องพิมพ์ดีดลักเอาเครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนไปในขณะที่จำเลยทั้งสามนอนหลับ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เครื่องพิมพ์ดีดของโรงเรียนสูญหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันชีวิตไม่เป็นโมฆียะ แม้ผู้เอาประกันเคยรักษาอาการแพ้และหวัด ไม่ได้เจ็บป่วยด้วยโรคหืดโดยตรง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต สภาพแห่งข้อหาคือสัญญาประกันชีวิต คำขอบังคับคือจำนวนเงินที่โจทก์เรียกร้องข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาคือการที่จำเลยรับประกันชีวิตร.ผู้ตายโดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์และร.ตายโดยอุบัติเหตุโจทก์ได้บรรยายฟ้องในข้อที่กล่าวนี้ชัดแจ้งถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสองฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ ส่วนข้อที่ว่าสัญญาเป็นโมฆียะและจำเลยบอกล้างแล้ว เป็นเรื่องที่จำเลยจะยกขึ้นปฏิเสธฟ้องโจทก์ซึ่งถ้าหากจำเลยยกขึ้นก็เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องกล่าวโดยแจ้งชัดถึงข้อเท็จจริงที่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ หาใช่หน้าที่ของโจทก์จะต้องบรรยายฟ้องแก้คำให้การของจำเลยไว้ล่วงหน้าไม่ฉะนั้น การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าผู้ตายมิได้ป่วยด้วยโรคหืดหลอดลมหรือคออักเสบมาก่อน หรือหากเคยป่วยโดยโรคดังกล่าวมาก่อนก็มีเหตุหลายประการดังที่โจทก์บรรยายในฟ้องที่ทำให้สัญญาไม่เป็นโมฆียะ จึงเป็นการบรรยายเกินเลยจากที่กฎหมายบังคับ แม้ข้อที่ว่า ร.ป่วยจริงหรือไม่โจทก์ยกขึ้นอ้างขัดกันก็ไม่ทำให้ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ผู้ตายมิได้เป็นโรคหืด แต่มีอาการหอบหืดซึ่งเป็นอาการของการแพ้อากาศ และอาการดังกล่าวได้หายไปก่อนที่ผู้ตายยื่นคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว ผู้ตายไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นครั้งคราวด้วยเรื่องหวัดและแพ้อากาศซึ่งมิใช่โรคที่ระบุในแบบสอบถามให้ผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบ เห็นได้ว่าหากจำเลยทราบถึงการที่ผู้ตายเคยไปตรวจและรับการรักษาที่โรงพยาบาลและประวัติการเจ็บป่วยของผู้ตายดังกล่าวแล้วก็ไม่เป็นเหตุจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมรับประกันชีวิตผู้ตายหรือเรียกเบี้ยประกันภัยให้สูงขึ้น การที่ผู้ตายได้แจ้งในแบบสอบถามขณะเอาประกันชีวิตว่า ไม่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเคยปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคหรืออาการของโรคหืด จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมทรัพย์สินมีสิทธิจัดการทรัพย์สินเพื่อรักษาความถาวรได้ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรง
โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ได้ร่วมกันซื้อที่ดินและปลูกบ้านพิพาทด้วยเงินที่ทำมาหากินได้มาด้วยกันจึงเป็นเจ้าของร่วมกัน ต่อมาจำเลยรื้อบ้านปลูกใหม่ เพราะห้องน้ำและตัวบ้านชำรุด การก่อสร้างใหม่ใช้ส่วนประกอบของบ้านเดิมผสมสร้างด้วยเพื่ออยู่อาศัยและทำการค้าตามเดิม ดังนี้จำเลยในฐานะภรรยาโจทก์และเป็นเจ้าของบ้านร่วมกับโจทก์มีสิทธิจัดการดังกล่าวเพื่อรักษาบ้านให้ถาวรขึ้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1358 การกระทำของจำเลยไม่เป็นการละเมิด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ที่โจทก์ฎีกาว่า หากศาลเห็นว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของบ้านพิพาทร่วมกันขอให้พิพากษาให้จำเลยใช้ราคาบ้านครึ่งหนึ่งนั้น โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแต่ต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนิยามคำว่า 'ยา' ตาม พ.ร.บ.ขายยา พิจารณาจากความมุ่งหมายในการใช้ ไม่ใช่ผลลัพธ์การรักษา
คำว่า 'ยา' ตามพระราชบัญญัติการขายยา พ.ศ.2493มาตรา4 นั้น หาได้อยู่ที่ว่าวัตถุนั้นจะบำบัดรักษาหรือป้องกันโรคได้จริงหรือไม่ แต่อยู่ที่ความมุ่งหมายในการใช้ฉะนั้น กำไลแหวน และสร้อย ซึ่งมุ่งหมายจะใช้เพื่อบำบัดรักษาและป้องกันโรคจึงเป็นยาตามความหมายแห่งกฎหมายดังกล่าวและเมื่อผู้ใดโฆษณาหรือขายวัตถุเหล่านี้โดยมิได้รับอนุญาตก็ย่อมมีความผิด(ประชุมใหญ่ ครั้งที่42/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยอายุความและสิทธิในการรักษา/ใช้ประโยชน์ แม้ไม่มีคำพิพากษา
คำพิพากษาที่ให้บุคคลหนึ่งเปิดทางภาระจำยอมผ่านที่ดินนั้น ย่อมไม่ผูกพัน เจ้าของที่ดินข้างเคียงคนอื่นซึ่งเป็นบุคคลภายนอก แม้ขณะทำแผนที่พิพาทจะปรากฎเส้นทางภาระจำยอมผ่านที่ดินของบุคคลนั้น และบุคคลนั้นได้มาอยู่รู้เห็นในการทำแผนที่พิพาทอยู่ด้วยก็ตาม
ผู้ที่ได้ทางภาระจำยอมมาโดยอายุความแล้วนั้น ย่อมมีสิทธิขุดโค่นหัวคันนาซึ่งอยู่ในเส้นทางอันเป็นภาระจำยอมนั้นได้เท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภาระจำยอมนั้น โดยไม่จำเป็นต้องให้มีคำพิพากษาว่าที่ดินนั้นตกเป็นภาระจำยอมเสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้น้ำมนต์รักษาโรคจิต ไม่ถือเป็นการประกอบโรคศิลปะตามกฎหมาย
จำเลยใช้น้ำมนต์ให้ผู้ป่วยเป็นโรคจิตอาบและกินและรับเงินเป็นค่ารักษาเป็นค่าน้ำมนตร์ในการรักษาบำบัดโรคของผู้ป่วย ดังนี้ ไม่ใช่เป็นการบำบัดโรคด้วยจิตวิเคราะห์ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเป็นอันตรายสาหัส: บาดแผลลึกต้องรักษาต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อการทำงาน
ใช้มีดหรือขวานไม่ปรากฎชัดฟันเขาถูกที่หน้าผากเป็นบาดแผลกว้าง 2 ซ.ม. ยาว 7 ซ.ม. ลึก 1 ซ.ม. แพทย์ลงความ เห็นว่าอาการสาหัสรักษาเกินกว่า 20 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่า ต้องรักษาอยู่ประมาณ 60 วันจึงหาย ระหว่างรักษา ทำงานการไม่ได้เพราะเสียวเดี๋ยวนี้งานเบาทำได้ งานหนักทำไม่ได้ แม้แพทย์ผู้รักษาจะเบิกความว่า บาดแผลผู้ เสียหายรักษา 10 วัน หายก็ดี แต่ก็ว่าบาดแผลข้างในยังไม่หาย ต้องทำการรักษากันอยู่ตลอดมา เพราะเกี่ยวกับเส้น ประสทอีกด้วย ดังนี้ วินิจฉัยว่า เป็นบาดแผลถึงสาหัสตามกฎหมาย./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 282/2485

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ตำรวจในการรักษาของกลางจากการจับกุม
ตำรวจจับผู้ลักเล่นไพ่แล้วยักยอกเงินของกลางไว้มีผิดตามมาตรา 131เพราะเมื่อมีหน้าที่จับกุมก็ต้องถือว่ามีหน้าที่รักษาของกลางด้วย
of 2