คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รู้การละเมิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4025/2545 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: เริ่มนับจากวันที่รู้การละเมิดและตัวผู้กระทำ
จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2532 และวันที่ 9 ตุลาคม2533 ตามลำดับ โจทก์ทราบมาโดยตลอดว่า ผู้กระทำละเมิดในครั้งนี้คือจำเลย เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2540 จึงต้องถือว่าค่าเสียหายเกี่ยวกับที่ดินและแผงค้าตามฟ้องที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 24 เมษายน 2539 เกิน 1 ปี แล้วเป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีละเมิด: การรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นสำคัญ
จำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ขับรถบรรทุกไปในทางการ ที่จ้างของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทเป็นเหตุให้ตู้คอนเทนเนอร์ ที่บรรทุกไปเกี่ยวสายเคเบิลโทรศัพท์ของโจทก์ได้รับความเสียหายต่อมาวันที่ 30 สิงหาคม 2536 โจทก์มีหนังสือทวงถามเรียกให้ จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายลงวันที่ 30 สิงหาคม 2536 หนังสือดังกล่าวลงนามโดยส. หัวหน้ากองบำรุงรักษาที่ 1 ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย มีข้อความ ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิด และให้จำเลยที่ 2 นำเงินค่าเสียหายไปชำระ หากไม่ชำระโจทก์จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แสดงอยู่ ในตัวว่าโจทก์ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ ค่าสินไหมทดแทนแล้ว ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ส. ได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้แทนโจทก์โดยชอบ และถือได้ว่าโจทก์รู้ถึงการ ละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างช้าที่สุด ในวันที่ 30 สิงหาคม 2536 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 30กันยายน 2537 พ้นกำหนด 1 ปี ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีละเมิด: การรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้กระทำละเมิดเป็นจุดเริ่มต้นนับอายุความ
จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอันเป็นการละเมิดต่อกรมโจทก์ โจทก์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทำการสอบสวนแล้วได้รายงานให้โจทก์ทราบว่าจำเลยทำละเมิดและจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ ซึ่ง ธ. รองอธิบดีปฏิบัติราชการแทนอธิบดีโจทก์ได้บันทึกลงในรายงานฉบับนี้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2535 ให้กองนิติการพิจารณาเสนอด้วย ธ. จึงทราบตามรายงานแล้วว่า จำเลยทำละเมิดและจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ ตั้งแต่วันดังกล่าว เมื่อ ธ. เป็นผู้แทนของโจทก์จึงต้องถือว่าโจทก์ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ที่จะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2536 แล้ว โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2536 เกิน 1 ปี จึงขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: เริ่มนับจากวันที่รู้การละเมิดหรือวันที่ทำละเมิด
การเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิด ป.พ.พ. มาตรา 448วรรคแรก กำหนดวิธีการกับอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงไม่ใช่วิธีนับอายุความทั่วไป ตาม ป.พ.พ. มาตรา 169 เดิม (มาตรา 193/12) โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยทั้งสี่จงใจหรือประมาทเลินเล่อปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตั้งแต่วันที่ 1มิถุนายน 2521 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2523 มูลละเมิดย่อมเกิดอย่างช้าที่สุดในวันที่ 30 เมษายน 2523 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 15เมษายน 2534 ซึ่งล่วงพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิดแล้วคดีโจทก์ย่อมขาดอายุความ จำเลยที่ 1 ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายในเรื่องอายุความซึ่งจำเลยทั้งสี่ก็ได้ยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นเป็นข้อต่อสู้ฟ้องโจทก์ว่าขาดอายุความ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยทั้งสี่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 507/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีละเมิด: เริ่มนับเมื่อผู้เสียหายรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้กระทำผิด
วันที่ 9 กันยายน 2526 จำเลยขับรถยนต์ของกองทัพเรือโจทก์ไปตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ชนกำแพงเรือนจำทหารเรือ ทำให้รถยนต์และกำแพงเสียหาย โจทก์ตั้งกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดทางแพ่ง กรรมการสอบสวนแล้วมีความเห็นแจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2527ว่า กรณีไม่สมควรมีผู้หนึ่งผู้ใดต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเพราะมีเหตุสุดวิสัย ตามความเห็นดังกล่าวไม่ปรากฏว่าได้มีการละเมิดหรือมีผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในขณะนั้น โจทก์จึงไม่อาจรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน โจทก์ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังทราบ กระทรวงการคลังเสนอเรื่องให้คณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดทางแพ่งซึ่งตั้ง ขึ้นโดยคณะรัฐมนตรีพิจารณา คณะกรรมการพิจารณาแล้วมีความเห็นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2528ว่า จำเลยขับรถโดยประมาทต้องรับผิดทางแพ่ง กระทรวงการคลังได้แจ้งเรื่องให้โจทก์ทราบ ถือว่าโจทก์เพิ่งรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนหลังวันดังกล่าว โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2529 ยังไม่เกิน 1 ปี จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4735/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การรู้ตัวผู้รับผิดและวันที่รู้ถึงการละเมิดเป็นสำคัญ
ผู้บัญชาการทหารอากาศมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบพัสดุสูญหายโดยมิได้ระบุให้แจ้งชัดว่าหาผู้รับผิดชอบในทางแพ่งทางอาญาหรือทางวินัย และจากรายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการมีความเห็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดทางวินัยฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ส่วนความรับผิดทางแพ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งต่อไป คณะกรรมการสอบสวนชุดดังกล่าวจึงไม่ใช่คณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดในทางแพ่งดังนั้น ยังถือไม่ได้ว่าผู้บัญชาการทหารอากาศผู้แทนโจทก์ได้รู้ถึงตัวผู้พึงจะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่สั่งลงทัณฑ์จำเลยทั้งสอง ต่อมาเมื่อผู้บัญชาการทหารอากาศมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นทำการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดในทางแพ่ง คณะกรรมการสอบสวนแล้วมีความเห็นว่าจำเลยทั้งสอง จะต้องรับผิดในทางแพ่ง แล้วรายงานผลการสอบสวนต่อผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้บัญชาการทหารอากาศสั่งการให้จำเลยทั้งสองรับผิดในทางแพ่ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน2523 ดังนี้ ต้องถือว่าผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้แทนโจทก์รู้ตัวผู้พึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดในวันดังกล่าว โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2524 ยังไม่พ้น 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ที่พึงจะใช้ค่าสินไหมทดแทนฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้รับผิดชอบเป็นจุดเริ่มต้นนับอายุความ
โจทก์ทราบถึงเหตุที่สินค้าขาดจำนวนจากน้ำหนักที่จำเลยแจ้งในรายงานการตรวจสอบสินค้าว่าเป็นเพราะจำเลยคำนวณและรายงานน้ำหนักสินค้าผิดพลาด ถือได้ว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดของจำเลยแล้ว การที่โจทก์ว่าจ้างบริษัท ว.ทำการตรวจสอบในภายหลังนั้น เป็นเพียงการตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานว่าจำเลยคำนวณผิดพลาดอย่างไร เพื่อนำมาเป็นพยานหลักฐานในคดีเท่านั้น การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่รู้ถึงการละเมิดและตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: จุดเริ่มต้นนับจากวันที่ประธานกรรมการ (ผู้แทนโจทก์) รู้ถึงการละเมิดและตัวผู้รับผิดชอบ
สุขาภิบาลโจทก์มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีนายอำเภอท้องที่เป็นประธานกรรมการมีหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารกิจการของโจทก์ตาม พ.ร.บ. สุขาภิบาลประธานกรรมการโจทก์จึงเป็นผู้แทนของโจทก์ตามกฎหมาย ดังนี้ อายุความละเมิดตามป.พ.พ. มาตรา 448 วรรคแรกเริ่มนับตั้งแต่วันที่ประธานกรรมการโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึง ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน มิใช่วันที่ผู้ว่าราชการจังหวัดร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิดนิติบุคคล: เริ่มนับเมื่อประธานกรรมการทราบการละเมิดและผู้กระทำละเมิด
โจทก์มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีนายอำเภอท้องที่ที่โจทก์ตั้งอยู่เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง มีหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารกิจการของโจทก์ตามพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495ประธานกรรมการโจทก์จึงเป็นผู้แทนโจทก์ตามกฎหมาย อายุความละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคแรกเริ่มนับตั้งแต่วันที่ประธานกรรมการโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน มิใช่วันที่ผู้ว่าราชการจังหวัดร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเสียหายจากละเมิด: เริ่มนับแต่วันรู้การละเมิดและตัวผู้รับผิด แม้ไม่ทราบที่อยู่ก็เริ่มนับได้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่การละเมิดมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448
เมื่อโจทก์ทราบว่ารถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยในวันเกิดเหตุแล้ว แม้จะยังไม่ทราบที่อยู่ของจำเลยก็ดี ก็ถือได้ว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้พึงจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 แล้ว
of 2