คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ร่วมกันกระทำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5578/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดร่วมกัน: การกระทำต้องมีเจตนาเดียวกัน ไม่ใช่แค่ความโกรธเหมือนกัน
การกระทำอันจะถือว่าร่วมกันกระทำนั้น นอกจากร่วมกันในส่วนของการกระทำแล้ว ยังต้องมีเจตนาร่วมกันด้วย แต่จากทางนำสืบของโจทก์ได้ความเพียงว่า คำพูดของผู้ตายทำให้จำเลยกับพวกทุกคนเกิดความไม่พอใจ ซึ่งเป็นความไม่พอใจของแต่ละคน ทำให้ทุกคนโกรธและเจตนาทำร้ายต่อผู้ตายเหมือนกัน กรณีเป็นเรื่องต่างคนต่างทำร้ายผู้ตาย ไม่ใช่เกิดจากเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้ตาย เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำร้ายผู้ตาย แต่อย่างใด พยานหลักฐานโจทก์จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกับพวกฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2335/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดอาวุธปืนเป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำได้ แม้ไม่ได้เป็นผู้มีหรือพาอาวุธปืนโดยตรง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดที่ร่วมกันกระทำด้วยกันได้ มิใช่เป็นความผิดเฉพาะตัวของผู้มีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเราและพรากผู้เยาว์: การกระทำร่วมกันของจำเลยและการมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่ออนาจาร
ส. มารดาผู้เสียหายได้อนุญาตให้จำเลยทั้งสองพาผู้เสียหายไปเดิน เที่ยวเท่านั้น เมื่อผู้เสียหายจะกลับบ้านจำเลยทั้งสองไม่ยอมให้กลับ แต่พาผู้เสียหายไปยังบ้านที่เกิดเหตุ จึงเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองทำไปโดยลำพังจะถือว่า ส. รู้เห็นยินยอมไม่ได้จำเลยทั้งสองมีเจตนาพาผู้เสียหายไปบ้านเกิดเหตุเพื่อให้ พ.ร่วมประเวณี การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ตาม ป.อ. มาตรา 318 วรรคสาม จำเลยทั้งสองได้ช่วย กันจับมือผู้เสียหายไว้ให้ พ. ข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยทั้งสองจึงเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาฐานประมาทเลินเล่อจากการลักทรัพย์และการก่อเพลิงไหม้ร่วมกัน
ในการลักทรัพย์เอาน้ำมันเบนซิน จำเลยที่ 2 และที่ 3 เตรียมถังใส่น้ำมันมาหลายใบ เมื่อดูด น้ำมันเต็ม ถังหนึ่งแล้วจะต้องเปลี่ยนสายยางไปใส่ถังใหม่ ในการเปลี่ยนสายยางต้องถอด สายไฟออกจากขั้วแบตเตอรี่ ที่ต่อระหว่างปั้ม น้ำมันกับแบตเตอรี่ ขณะเกิดเหตุดูดน้ำมันได้ 4 ถังแล้ว จำเลยที่ 2 เป็นผู้ดึง สายไฟออกจากขั้วแบตเตอรี่เพื่อจะเปลี่ยนยางไปใส่ถังที่ 5 ก็เกิดประกายไฟขึ้นเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ขณะนั้นจำเลยที่ 3 กำลังชะโงกหน้าเข้าไปดู น้ำมันในถังที่อยู่ในรถว่าเต็ม ถังหรือยังเช่นนี้แม้จำเลยที่ 3 จะมิได้เป็นคนถอดสายไฟแต่พฤติการณ์ที่จำเลยที่3 กับจำเลยที่ 2 ร่วมกันมาลักทรัพย์ด้วยวิธีดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยประมาทที่จำเลยที่ 3 ได้ร่วมกระทำด้วย เพราะแบตเตอรี่ เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและน้ำมันเป็นวัตถุที่ติดไฟได้ง่าย ทั้งวิธีการลักน้ำมันของจำเลยทั้งสองทำให้เกิดไอระเหย ของน้ำมันกระจายอยู่ทั่วไป เป็นการง่ายต่อการเกิดเพลิงไหม้การกระทำของจำเลยที่ 3 จึงเป็นความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันพยายามฆ่า: การกระทำโดยมีเจตนาเพื่อให้พวกทำร้ายผู้อื่น และการใช้กำลังจนอาจถึงแก่ชีวิต
จำเลยกับ ส.มีมีดปลายแหลมยาวประมาณหนึ่งคืบคนละเล่มเข้าไปที่นางป.และนายจ.สามีภรรยานอนอยู่ จำเลยใช้มีด จี้ที่หน้าอกนายจ.พูดว่าอย่าร้องถ้าร้องแทงตาย จ.ขัดขืนแย่งมีดกับจำเลยและถีบจำเลยจำเลยจึงแทงนายจ.มีบาดแผลที่ฝ่ามือ ทรวงอก นิ้วชี้ โคนขาขวา ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกัน ส.พวกของจำเลยได้ใช้มีดแทงนางป.ถูกที่หน้าอกทะลุเข้าช่องอก แขนขวา แขนซ้าย และศีรษะด้านซ้ายบาดเจ็บสาหัส แม้จำเลยจะแทงผู้เสียหายบาดเจ็บเล็กน้อย แต่การที่จำเลยใช้มีดขู่นายจ.ไม่ให้ร้องก็เพื่อความสะดวกในการที่พวกของจำเลยทำร้ายนางป.อันมีลักษณะเป็นการร่วมกันกระทำ อาวุธที่ใช้และอวัยวะส่วนที่ถูกทำร้ายอาจทำให้ผู้เสียหายทั้งสองถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันขว้างระเบิดสังหารในงานฉลองผ้าป่า ความรับผิดทางอาญาจากการกระทำ
จำเลยทั้งสองขึ้นรำวงแล้วจำเลยที่ 1 ลวนลามสาวรำวงจนถูกถีบ จำเลยที่ 1 ลงจากเวทีไปทุบหลอดไฟและดึงแผงไฟข้างเวทีทหารที่รักษาการณ์มาห้าม แล้วเกิดชุลมุนต่อสู้กันสักพักหนึ่งจึงแยกจากกันจำเลยทั้งสองออกจากบริเวณงาน แล้วกลับมาอีกเปลี่ยนเสื้อใหม่อยู่ได้ชั่วครู่ก็ออกจากบริเวณงาน เดินเลี้ยวไปหลังเวทีรำวง ต่อมามีผู้ขว้างลูกระเบิดสังหารไปตกที่พื้นดินที่พวกทหารยืนอยู่บริเวณเวทีรำวง เป็นเหตุให้มีคนตายและบาดเจ็บหลายคน จำเลยทั้งสองรับสารภาพชั้นจับกุมและสอบสวน โดยสมัครใจนำชี้ที่เกิดเหตุ และแสดงท่าทางให้ถ่ายภาพประกอบคำรับสารภาพ ดังนี้ ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4), 83 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2213-2214/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำร่วมกันเพื่อเอาทรัพย์ผู้อื่นไปโดยไม่ยินยอม และข่มขู่คุกคามเพื่อป้องกันการทวงคืน ถือเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
จำเลยที่ 1 หยิบแว่นตาจากกระเป๋าเสื้อผู้เสียหายขณะนั่งอยู่ในร้านขายอาหารไปใส่ส่องกระจกดู แล้วจำเลยทั้งสามเดินออกจากร้านไป ไม่คืนแว่นตา เมื่อผู้เสียหายไปขอคืน จำเลยที่ 1 ไม่คืนให้ กลับให้จำเลยที่ 2 เอาแว่นตาไป ผู้เสียหายขอคืนจากจำเลยที่ 2 ๆ ไม่ให้ จำเลยที่ 3 คว้าเอาไปอีกต่อหนึ่งต่อหน้าผู้เสียหาย แล้วพากันขึ้นรถประจำทางไป ผู้เสียหายตามไปทวงคืนอีก จำเลยที่ 2 ที่ 3 พูดว่า อย่าตามมานะ ถ้าตามจะเจ็บตัว ต่อมาในวันเกิดเหตุนั้นเอง จำเลยที่ 3 เอาแว่นตาไปจำนำ ดังนี้ จำเลยทั้งสามต้องมีความผิดฐานปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 40/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันพยายามทำร้ายร่างกาย: การสมทบกำลังและความรับผิดร่วม
จำเลยทั้งสองร่วมวงเสพสุรากันจำเลยที่ 2 พูดว่าจะทำร้ายผู้เสียหายจำเลยที่ 2 ไปหาผู้เสียหายจำเลยที่ 1 ก็ตามไปด้วย และยืนอยู่ด้วยเป็นการสมทบกำลังให้จำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 2 ถือมีดตรงเข้าจะแทงผู้เสียหายและวิ่งไล่แทงผู้เสียหายซึ่งยืนห่างในระยะ 1 วา สามารถจะทำร้ายได้หากผู้เสียหายโดดหนีและวิ่งขึ้นเรือนได้ทัน จึงแทงไม่ได้สมความตั้งใจเป็นความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย จำเลยที่ 1 วิ่งไล่ไปด้วยถือว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดร่วมกัน
การกระทำที่ก่อให้เกิดความกลัวหรือตกใจรวมอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายแล้วและเป็นความผิดที่มีโทษเบากว่า จึงลงโทษฐานพยายามทำร้ายร่างกายอันเป็นบทหนักกว่าแต่บทเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันในละเมิด: การร่วมกันกระทำละเมิดทำให้ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด แม้แยกแยะความเสียหายไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดร่วมในผลที่บุตรผู้เยาว์ของจำเลยกระทำละเมิดจำเลยไม่อุทธรณ์ในข้อนี้ ทั้งยังแก้อุทธรณ์ยอมรับว่าศาลชั้นต้นพิพากษาชอบแล้ว จำเลยฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 432 วรรคท้าย เป็นบทบัญญัติสำหรับแยกความรับผิดชอบ ระหว่างผู้ละเมิดด้วยกัน มิใช่ว่ารับผิดต่อเจ้าหนี้ ซึ่งมีวรรค + บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่า ต้องร่วมกันรับผิดใช้ คำว่า "ร่วมกันใช้มีความหมายว่า แต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิง แต่เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากคนใดทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ ถึงกระนั้น ลูกหนี้ทั้งหมดก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 291
การทำให้ทรัพย์เขาเสียหายโดยผิดกฎหมายเป็นละเมิด เมื่อร่วมกันกระทำ ก็เป็นการร่วมกันทำละเมิด และต้องร่วมกันรับผิด กฎหมายมุ่งหมายถึงการกระทำ มิใช่ดูผลของความเสียหายว่า แยกกันได้หรือไม่ แม้จะไม่รู้ตัวว่าคนไหนก่อให้เกิดเสียหาย แต่ถ้าเป็นพวกที่ทำละเมิดร่วมกันแล้ว ก็ต้องรับผิดร่วมกันทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์มาตรา 432

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบคิดฆ่าผู้อื่น: การกระทำร่วมกันของจำเลยทั้งสองบ่งชี้ถึงเจตนาฆ่า
จำเลยทั้งสองเดินเข้ามาหานายบุญช่วย(ผู้ตาย)ด้วยกันโดยจำเลยที่ 2 มีสาเหตุเป็นอริอยู่กับนายบุญช่วยและจำเลยที่ 1 ก็ถือมีดปลายแหลมมาด้วยเมื่อจำเลยที่ 2 เข้าเตะนายบุญช่วยๆ กระโดดหนีจำเลยที่ 1 ถือมีดตามนายบุญช่วยติดไป จำเลยที่2 ก็ตามไปด้วยจนจำเลยที่ 1 แทงนายบุญช่วยล้มลงขาดใจตายทันทีแล้วจำเลยทั้งสองจึงหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการสมคบกับจำเลย ที่ 1 ฆ่านายบุญช่วยตาย
of 2