คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลเดิม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8612/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องเกี่ยวกับการบังคับคดีต้องยื่นต่อศาลเดิม ไม่ใช่ฟ้องคดีใหม่ แม้เคยมีคำสั่งยกคำร้องแล้ว
คำฟ้องโจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ดำเนินการบังคับคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากโจทก์จำเลยตกลงกันว่าให้โจทก์ชำระหนี้ตามคำพิพากษาเพียง 360,000 บาท นอกนั้นไม่ติดใจดำเนินการบังคับคดีกับโจทก์ โจทก์ชำระหนี้ให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิบังคับคดีกับโจทก์ ขอให้เพิกถอนการบังคับคดีเสีย แม้โจทก์จะกล่าวมาในคำฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายอันเป็นข้อโต้แย้งสิทธิของโจทก์มาด้วย แต่โจทก์มิได้มีคำขอบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจากการที่จำเลยผิดสัญญา คำฟ้องโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่เกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล โจทก์ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลในคดีเดิม มิใช่ฟ้องเป็นคดีใหม่
ตามคำร้องของโจทก์ที่ยื่นในคดีเดิมเป็นเรื่องที่อ้างว่าการดำเนินการบังคับคดีในคดีเดิมไม่ชอบด้วยกฎหมายและขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการยึดทรัพย์ เป็นคำร้องขอที่เสนอเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลซึ่งคำฟ้องหรือคำร้องขอนั้นจำต้องมีคำวินิจฉัยของศาลก่อนที่การบังคับคดีจะได้ดำเนินไปโดยครบถ้วนและถูกต้องและได้ยื่นต่อศาลชั้นต้นในคดีเดิมซึ่งเป็นศาลที่ได้พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 302 ซึ่งศาลชั้นต้นชอบที่จะนัดพร้อมเพื่อสอบถามคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อนที่จะได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาด แต่เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องโดยมิได้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวน โจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ คำสั่งศาลชั้นต้นจึงเป็นที่สุดแล้ว แต่โจทก์ก็ยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีต่อศาลชั้นต้นในกรณีดังกล่าวอีกได้เพราะเป็นกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีตามมาตรา 148 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องเพิกถอนคำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถต่อศาลเดิม และการรับทราบคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความ-สามารถต่อศาลชั้นต้นเดียวกันกับที่มีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความอนุบาลของผู้คัดค้าน โดยแนบคำร้องและคำสั่งในคดีที่ผู้คัดค้านขอให้ศาลสั่งว่าผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถมาพร้อมคำร้อง แม้ปรากฏว่ามีการลงเลขคดีดำใหม่ในคำร้องก็เป็นเพียงทางปฏิบัติในทางธุรการของศาล ถือได้ว่าผู้ร้องได้เสนอคำร้องต่อศาลในคดีที่ได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นคนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7 (4) แล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำส่งสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้าน ต่อมาผู้ร้องนำพนักงานเดินหมายไปส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้ผู้คัดค้าน ณ ภูมิลำเนาของผู้คัดค้านโดยผู้ที่อยู่ในบ้านเดียวกับผู้คัดค้านรับไว้แทน ถือว่าผู้คัดค้านทราบเรื่องที่ผู้ร้องยื่นคำร้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอใหม่ ไม่เปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลเดิม เว้นแต่มีบัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง
พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวง พ.ศ. 2517 บัญญัติให้ศาลแขวงชลบุรีมีเขตอำนาจครอบคลุมท้องที่อำเภอบ้านบึงจึงมีเขตอำนาจรวมถึงกิ่งอำเภอหนองใหญ่ซึ่งเป็นท้องที่ส่วนหนึ่งของอำเภอบ้านบึงในขณะนั้น แม้ต่อมาจะมีพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอหนองใหญ่ ฯลฯ พ.ศ. 2524 ให้ตั้งกิ่งอำเภอหนองใหญ่เป็นอำเภอหนองใหญ่ก็ตาม แต่พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอหนองใหญ่ ฯลฯ พ.ศ.2524 มิได้บัญญัติไว้ว่าบรรดาคดีของท้องที่กิ่งอำเภอหนองใหญ่ที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลแขวงชลบุรีก่อนตั้งอำเภอหนองใหญ่จะให้อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลใดอำเภอหนองใหญ่จึงยังคงอยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวงชลบุรีดังเดิม
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเขตอำนาจของศาลแขวงชลบุรีไม่คลุมถึงอำเภอหนองใหญ่ ให้ศาลจังหวัดชลบุรีประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาและศาลจังหวัดชลบุรีได้สั่งประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาและพิพากษาคดีไปแล้ว ดังนี้ ถือได้ว่าศาลจังหวัดชลบุรีใช้ดุลพินิจยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14 (2) แล้วศาลฎีกาจึงไม่อาจพิพากษาให้ไม่ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: การเปลี่ยนแปลงฐานะกิ่งอำเภอเป็นอำเภอ ไม่กระทบเขตอำนาจศาลเดิม เว้นแต่มีบัญญัติเปลี่ยนแปลงไว้โดยชัดแจ้ง
พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวง พ.ศ.2517 บัญญัติให้ศาลแขวงชลบุรีมีเขตอำนาจครอบคลุมท้องที่อำเภอบ้านบึง จึงมีเขตอำนาจรวมถึงกิ่งอำเภอหนองใหญ่ซึ่งเป็นท้องที่ส่วนหนึ่งของอำเภอบ้านบึงในขณะนั้น แม้ต่อมาจะมีพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอหนองใหญ่ฯลฯ พ.ศ.2524 ให้ตั้งกิ่งอำเภอหนองใหญ่เป็นอำเภอหนองใหญ่ก็ตาม แต่พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอหนองใหญ่ฯลฯพ.ศ.2524 มิได้บัญญัติไว้ว่าบรรดาคดีของท้องที่กิ่งอำเภอหนองใหญ่ที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลแขวงชลบุรีก่อนตั้งอำเภอหนองใหญ่จะให้อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลใดอำเภอหนองใหญ่จึงยังคงอยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวงชลบุรีดังเดิม
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเขตอำนาจของศาลแขวงชลบุรีไม่คลุมถึงอำเภอหนองใหญ่ ให้ศาลจังหวัดชลบุรีประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา และศาลจังหวัดชลบุรีได้สั่งประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาและพิพากษาคดีไปแล้ว ดังนี้ ถือได้ว่าศาลจังหวัดชลบุรีใช้ดุลพินิจยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา 14(2) แล้วศาลฎีกาจึงไม่อาจพิพากษาให้ไม่ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาข้อเท็จจริงในคดีไม่มีทุนทรัพย์: ศาลฎีกาห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงหากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลเดิม
+ร้องขอว่าความอย่างคนอนาถานั้นนับว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาทับสัตย์ศาลเดิมจะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107-1108/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองอุทธรณ์โดยผู้พิพากษาศาลเดิม
หมายเหตุ ตามสำนวนปรากฎว่าผู้พิพากษาศาลเดิมรับรองอุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราโทษจำแทนในคดีต้มสุราเถื่อน: ศาลฎีกายืนตามศาลเดิม
กำหนดอัตราค่าจำแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลเดิมในการรับรองฎีกา: การพิจารณาของศาลที่ตัดสินคดี
คำว่า " ผู้พิพากษาศาลเดิม " หมายความเพียงไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ศาลอุทธรณ์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการตัดสินคดี, การย้อนสำนวนให้ศาลเดิม
ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลเดิมสืบพะยานใหม่แล้วตัดสิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคำอุทธรณ์ฎีกาตามสัญญาไมตรีระหว่างสยาม-เดนมาร์ค: การแบ่งแยกข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
สัญญาทางพระราชไมตรีระวางกรุงสยามกับเดนมารค พ.ศ. 2468 แลโปรโตคลข้อ 3
of 2