คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญจร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3333/2549

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอมโดยปริยายเกิดจากการตกลงใช้ทางผ่านที่ดินของผู้อื่นเพื่อประโยชน์ในการสัญจรและขนส่งพืชผล
สาเหตุที่โจทก์ที่ 3 ชักชวนโจทก์อื่นกับชาวบ้านในหมู่ที่ 3 ทำทางพิพาทตั้งแต่แม่น้ำนครชัยศรีถึงทางสาธารณะสายวัดไร่ขิง - ทรงคนอง ก็เนื่องจากหมู่บ้านหมู่ที่ 3 ไม่มีทางรถยนต์เข้าออกสู่ทางสาธารณะ ทำให้โจทก์ทั้งยี่สิบเอ็ดและชาวบ้านมีความเดือดร้อนในการสัญจรไปมาติดต่อกับท้องถิ่นอื่นและขนส่งพืชผลทางเกษตรกรรมออกไปจำหน่ายในท้องตลาด จึงได้มีการเจรจากับจำเลยขอใช้ที่ดินของจำเลยเป็นทางผ่านออกสู่ทางสาธารณะสายวัดไร่ขิง - ทรงคนอง เมื่อจำเลยตกลงแล้ว จึงเป็นการให้สิทธิแก่ที่ดินของโจทก์ทั้งยี่สิบเอ็ดเหนือที่ดินของจำเลยอันเป็นเหตุให้จำเลยต้องยอมรับกรรมบางอย่าง เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ทั้งยี่สิบเอ็ด ทางพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ทั้งยี่สิบเอ็ด ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการก่อตั้งภาระจำยอม แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นเพียงทำให้การได้มาซึ่งภาระจำยอมนั้นไม่บริบูรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำให้ข้อตกลงดังกล่าวเป็นโมฆะหรือเสียเปล่าแต่อย่างใด ยังคงใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่กรณี โจทก์ทั้งยี่สิบเอ็ดย่อมบังคับให้จำเลยจดทะเบียนภาระจำยอมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายจากการยอมให้ใช้ทางสัญจรเป็นเวลานาน
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินคนเดิมยอมให้ประชาชนทั่วไปใช้ทางพิพาทสัญจรไปมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้อุทิศที่ดินตามทางพิพาทให้เป็นสาธารณะโดยปริยายแล้วทางพิพาทจึงเป็นทางสาธารณะ จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับโอนที่ดินมาจากจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิปิดกั้นและไม่มีอำนาจห้ามมิให้ประชาชนใช้สัญจรผ่านไปมา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3565/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระจำยอม: การจดทะเบียนตามแนวเส้นที่ใช้สัญจรได้จริงภายในขอบเขตที่ตกลงกัน
ศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยจดทะเบียนภาระจำยอมให้โจทก์เดินออกสู่ถนนมีความกว้าง 2 เมตร ตามแนวเส้นสีแดงในแผนที่ท้ายสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งระบุว่ามีความกว้าง6 เมตร โดยไม่ได้ระบุตำแหน่งทางภาระจำยอมที่แน่นอน ดังนี้ แนวทางที่จะมีการจดทะเบียนจะต้องเป็นแนวทางที่สามารถใช้เดินได้โดยไม่มีการขัดขวาง เมื่อจำเลยเลือกจดทะเบียนภาระจำยอมบนแนวฟุตปาทบางส่วนและบนถนนบางส่วน โดยมีเสาไฟฟ้าและซุ้มต้นไม้บนฟุตปาท บางตอนโจทก์ใช้เดินไม่ได้ต้องลงไปเดินบนถนน ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งให้ย้ายไปจดทะเบียนภาระจำยอมบนถนนที่ใช้เดินได้โดยเริ่มจากขอบถนนออกไป 2 เมตร ซึ่งยังอยู่ภายในแนวเส้นสีแดงได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนสัญญาประนี-ประนอมยอมความหรือเพิ่มภาระแก่ภารยทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2569/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมสัญจร: การใช้รถยนต์บรรทุกของไม่ถือเป็นการเพิ่มภาระแก่ภารยทรัพย์
การใช้รถยนต์บรรทุกของผ่านทางภารจำยอมซึ่งเดิมเคยใช้เป็นทางเดิน ใช้เกวียนและรถสาลี่บรรทุกของผ่านนั้น เป็นการใช้ทางภารจำยอมสัญจรตามปกติ ไม่เป็นการทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1388

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2569/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมสัญจร: การใช้รถยนต์บรรทุกของไม่ถือเป็นการเพิ่มภาระแก่ภารยทรัพย์
การใช้รถยนต์บรรทุกของผ่านทางภารจำยอมซึ่งเดิมเคยใช้เป็น ทางเดิน ใช้เกวียนและรถสาลี่บรรทุกของผ่านนั้น เป็นการใช้ทางภารจำยอมสัญจรตามปกติ ไม่เป็นการทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1388

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางจำเป็นเมื่อทางสาธารณะชำรุดใช้งานไม่ได้
ที่ดินจดคลอง แต่คลองตื้นเขินประชาชนไม่สามารถใช้เป็นทางสัญจรไปมานานแล้ว ทางอื่นออกไม่ได้ จึงใช้ทางจำเป็นผ่านที่ดินที่ล้อมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางจำเป็น: ลำห้วยที่ไม่สามารถสัญจรได้ ไม่ถือเป็นทางสาธารณะ แม้เป็นทางน้ำไหลสาธารณะ
ลำห้วยซึ่งเป็นทางน้ำไหลสาธารณะ แต่ไม่มีน้ำตลอดปีและไม่เคยมีผู้ใดใช้เรือสัญจรไปมา ถือไม่ได้ว่าเป็นทางสาธารณะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยาย แม้เจ้าของไม่แสดงเจตนาชัดแจ้ง หากมีพฤติการณ์ต่อเนื่องที่แสดงถึงการยินยอมให้ใช้เป็นทางสัญจร
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสละอุทิศโดยปริยายของเจ้าของที่ดินให้ทางเดินซึ่งผ่านที่ดินของตนอันอยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเพื่อสาธารณะประโยชน์ (อ้างฎีกาที่ 701/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 291/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยาย แม้เจ้าของที่ดินไม่ได้แสดงเจตนาชัดแจ้ง แต่หากปล่อยให้ราษฎรใช้สัญจรเป็นเวลานาน ก็ถือเป็นการอุทิศโดยปริยาย
พฤติการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสละอุทิศโดยปริยายของเจ้าของที่ดินให้ทางเดินซึ่งผ่านที่ดินของตนอันอยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเพื่อสาธารณะประโยชน์(อ้างฎีกาที่ 701/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016-1027/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางสิ่งของกีดขวางการสัญจรในพื้นที่สาธารณะ: สนามหลวงไม่ใช่ถนน
จำเลยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งและวางรถจักรยานสองล้อให้คนเช่าขับขี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และเป็นการกีดขวางการไปมาเพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณะชนใช้สัญจรไปมา แต่สถานที่ที่กล่าวหากันเป็นเพียงสนามส่วนหนึ่งทั้งไม่ได้ความว่าที่ตรงนั้นเป็นถนนหนทาง จำเลยยังไม่มีความผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 336(1),334(2) พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 60,62,65
of 2