คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิ้นสิทธิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ระยะเวลาบังคับคดี 10 ปี มิใช่เรื่องอายุความ การไม่ดำเนินการภายในกำหนดทำให้สิ้นสิทธิ
กำหนดระยะเวลา 10 ปี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 เป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายวิธีสบัญญัติ มิใช่เรื่องอายุความ การที่ผู้ร้องได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยแล้ว เป็นเพียงขั้นตอนของการบังคับคดีหาทำให้ระยะเวลาบังคับคดีตามกฎหมายขยายออกไปไม่ เช่นนี้ หากผู้ร้องยังประสงค์จะนำยึดทรัพย์จำเลยออกขายทอดตลาดนำมาชำระหนี้อีก หรือขอบังคับคดีต่อไป จะต้องกระทำภายในระยะเวลาดังกล่าว
เมื่อผู้ร้องมิได้ดำเนินการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินอื่นของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาจนเกินกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ผู้ร้องจึงสิ้นสิทธิที่จะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลย และการขอเฉลี่ยทรัพย์ก็เป็นการบังคับคดีอย่างหนึ่งเพื่อเอาทรัพย์สินของจำเลยชำระหนี้ของผู้ร้องขอเฉลี่ย ผู้ร้องจึงหมดสิทธิที่จะร้องขอเฉลี่ยจากทรัพย์สินของจำเลยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุคคลภายนอกในบังคับคดี: การไม่ยื่นคำขอเพิกถอนภายในกำหนด ทำให้สิ้นสิทธิในการฟ้อง
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์พิพาทซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับ ศ.จำเลยในคดีแพ่งเรื่องอื่นออกขายทอดตลาด โจทก์จึงเป็นบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี แต่โจทก์มิได้ยื่นคำขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดภายในกำหนดระยะเวลาตาม ป.วิ.พ.มาตรา 296 วรรคสองโจทก์จึงไม่อาจขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้อีกต่อไป ดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ตามคำฟ้องคดีนี้ว่า บ.เข้าประมูลซื้อทรัพย์พิพาทในคดีแพ่งเรื่องอื่นดังกล่าวในนามของตนเองโดยไม่ได้รับมอบฉันทะจากจำเลย ก็หาทำให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทกลับคืนมาเป็นของโจทก์ได้ไม่ การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5520/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสิทธิการเช่าและการไม่มีอำนาจฟ้องคดีขับไล่
คดีนี้โจทก์และโจทก์ร่วมฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและจำเลยร่วมออกจากตึกแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่าสร้างและสัญญาเช่าระหว่างโจทก์ร่วมกับโจทก์ เมื่อปรากฏว่าคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 7416/2529 ของศาลชั้นต้นถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษา คือให้เพิกถอนการโอนสิทธิการเช่าสร้างระหว่าง อ.กับโจทก์และเพิกถอนสัญญาเช่าสร้างระหว่างโจทก์ร่วมกับโจทก์ ซึ่งมีผลเสมือนไม่มีการโอนสิทธิการเช่าที่ดินของโจทก์ร่วมเพื่อสร้างตึกแถวแล้วยกกรรมสิทธิ์ในตึกแถวนั้นให้โจทก์ร่วม และไม่มีสัญญาเช่าระหว่างโจทก์ร่วมกับโจทก์ โจทก์ร่วมและโจทก์ยังไม่มีสิทธิอย่างใดในตึกแถวพิพาทโจทก์ร่วมและโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5072/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขับไล่: แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นหนังสือ โจทก์มีสิทธิไล่จำเลยออกจากบ้านได้ หากจำเลยสิ้นสิทธิครอบครอง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาท แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่า เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2528 จำเลยได้เช่าบ้านพิพาทจากโจทก์มีกำหนด 3 ปี โดยมิได้ทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือกันไว้ก็ตาม แต่ตามเนื้อหาแห่งคำฟ้องโจทก์มิได้ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอาศัยสิทธิแห่งสัญญาเช่าหากแต่เป็นการฟ้องเพื่อใช้สิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์จากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 เท่านั้น ส่วนที่บรรยายถึงเรื่องที่จำเลยได้เช่าบ้านพิพาทจากโจทก์ก็เป็นเรื่องที่โจทก์เพียงแต่ท้าวความให้เห็นว่าในเบื้องต้นจำเลยเข้าไปอยู่ในบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิแห่งสัญญาเช่า แต่หลังจากสัญญาเช่าสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนด3 ปีแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในบ้านพิพาทอีกต่อไปการฟ้องคดีดังกล่าวมิได้ตกอยู่ในบังคับของมาตรา 538 ฉะนั้นแม้โจทก์จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยโจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองทรัพย์มรดก: การครอบครองเพื่อตนและการสิ้นสิทธิเรียกร้องมรดกเมื่อล่าช้า
โจทก์ที่2เป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกและไม่ปรากฏว่ามีทายาทคนใดแสดงตนเข้าครอบครองโดยให้โจทก์ที่2ครอบครองแทนจึงถือได้ว่าโจทก์ที่2ครอบครองเพื่อตนช่วงที่โจทก์ที่2ครอบครองไม่มีทายาทมาแสดงสิทธิขอรับมรดกตามสิทธิเลยจำเลยทั้งห้าเพิ่งยื่นคำร้องขอรับมรดกหลังจากเจ้ามรดกถึงแก่กรรมไปแล้วเป็นเวลาเกินกว่า10ปีจำเลยทั้งห้าย่อมสิ้นสิทธิเรียกร้องเอามรดกจากโจทก์ที่2ซึ่งเป็นทายาทด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1754วรรคสี่โจทก์ที่2จึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาทแต่เพียงผู้เดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสิทธิฎีกาหลังกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ. ใช้บังคับ แม้คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
การพิจารณาว่าโจทก์จะฎีกาได้หรือไม่ ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะยื่นฎีกา แม้คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในปัญหาข้อกฎหมายก็ตาม แต่โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่16 พฤษภาคม 2534 หลังจาก พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ.(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 ใช้บังคับแล้วโจทก์จึงฎีกาไม่ได้ เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 220 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ. (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 13.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการพิจารณาคดีและการสิ้นสิทธิในการสืบพยาน: เหตุป่วยของผู้โจทก์
การที่โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ไม่เป็นเหตุที่จะนำมาพิจารณาว่าควรอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาคดีหรือไม่การพิจารณาว่าควรให้เลื่อนการพิจารณาหรือไม่นั้น ควรจะได้พิเคราะห์สั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน: ผลของการไม่โต้แย้งการประเมินและการสิ้นสิทธิในการอ้างเหตุผลความไม่ถูกต้อง
พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์แจ้งรายการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยมิได้ยื่นคำร้องโต้แย้งคัดค้านการประเมิน หรือขอให้พิจารณาการประเมินใหม่ ตามที่พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 มาตรา 25 กำหนดไว้ และมิได้ชำระค่าภาษีให้โจทก์ตามที่กฎหมายกำหนด จึงเท่ากับว่าผลของการประเมินของโจทก์เป็นยุติแล้ว โดยห้ามมิให้จำเลยนำคดีมาสู่ศาล ซึ่งหมายความรวมถึงว่าจำเลยย่อมไม่มีสิทธิโต้แย้งว่า การประเมินไม่ถูกต้องด้วย ดังนี้เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าภาษีดังกล่าว จำเลยจะต่อสู้คดีว่าการประเมินไม่ถูกต้องหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2818/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อประกันหนี้ ทำให้ผู้ส่งมอบสิ้นสิทธิเรียกร้องเงินจากตั๋ว
จำเลยออกตั๋วสัญญาใช้เงินชนิดเปลี่ยนมือไม่ได้ให้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2520 สัญญาจะจ่ายเงินพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในวันที่ 17 ตุลาคม 2521 วันรุ่งขึ้นโจทก์ได้สลักหลังตั๋วนั้นให้แก่ ก.เพื่อประกันหนี้ที่โจทก์กู้เงินมา และในวันเดียวกันนั้นเอง ก.ได้เอาตั๋วดังกล่าวค้ำประกันหนี้ที่ ก.เป็นหนี้จำเลยอยู่ ดังนั้ แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นจะเป็นตั๋วชนิดเปลี่ยนมือไม่ได้ แต่เมื่อโจทก์ตกลงส่งมอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้ ก.เพื่อประกันหนี้ที่โจทก์กู้มา โจทก์ต้องผูกพันตามสัญญานั้น ต่อมา ก.มอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้จำเลยเพื่อประกันหนี้ที่โจทก์กู้มาโจทก์ต้องผูกพันตามสัญญานั้น ต่อมา ก. มอบตั๋วสัญญาใช้เงินให้จำเลยเพื่อค้ำประกันหนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิยึดตั๋วเงินนั้นไว้ได้ เหตุนี้โจทก์ไม่มีตั๋วเงินไว้ในครอบครอง จึงมิได้อยู่ในฐานะผู้ทรงตั๋วนั้นแล้ว ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามตั๋วนั้นจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสิทธิสัญญาและการเป็นบริวารตามคำพิพากษาขับไล่
โจทก์ผิดสัญญาก่อสร้างและผิดสัญญาเช่ากับจำเลย จนศาลพิพากษาให้ขับไล่โจทก์ออกจากตึกแถวและบ้านพิพาท จึงหมดสิทธิที่จะอ้างว่าเป็นคู่สัญญากับจำเลย ไม่มีสิทธิเหลืออยู่ให้ผู้ร้องซึ่งเป็นภริยาสวมได้อีก ผู้ร้องอยู่ในตึกแถว และบ้านพิพาทในฐานะภริยาโจทก์ถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารโจทก์
of 3