พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8225/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสามารถในการดำเนินคดีสิ้นสุดลงก่อนมีคำพิพากษา ศาลต้องยกคำพิพากษา
เมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องและผู้คัดค้านไม่ไปศาล ศาลชั้นต้นจึงงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งพิพากษาให้ผู้คัดค้านเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความพิทักษ์ของผู้ร้อง และถือว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ต่อมาผู้คัดค้านโดยนายผู้คัดค้านยื่นฎีกาพร้อมกับคำร้องขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งว่าผู้คัดค้านถึงแก่กรรมไปแล้ว และศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาแล้ว ดังนี้เมื่อปรากฎแล้ว ดังนี้ เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้านถึงแก่กรรมก่อนที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคดีเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้คัดค้านจะรับมรดกความกันไม่ได้เช่นนี้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ผู้คัดค้านเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถและอยู่ในความพิทักษ์ของผู้ร้อง จึงไม่ชอบ ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และให้ยกคำร้องขอของผู้ร้องไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7443/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดรูปที่ดิน: การไม่คัดค้านตามขั้นตอนกฎหมาย ทำให้สิทธิครอบครองเดิมสิ้นสุดลง
ตามพระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2517มาตรา 33 และ 34 ผู้มีส่วนได้เสียต้องคัดค้านเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัด ถ้าไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางคือ กรณีของโจทก์ปรากฎว่านางสมบูรณ์ภรรยาโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ไปคัดค้าน เมื่อหัวหน้าหน่วยรังวัดจัดรูปที่ดินแก้ไขจัดรูปที่ดินให้ใหม่ โจทก์ก็มิได้ดำเนินการอย่างใดต่อไปอีก การคัดค้านดังกล่าวจึงมิใช่เป็นการคัดค้านต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดหรือถ้าจะถือว่าเป็นการคัดค้านต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดแต่เมื่อมีการแก้ไขให้โจทก์ได้รับที่ดินเพิ่มขึ้นโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางแต่อย่างใดคงปล่อยให้มีการออกโฉนดที่ดินใหม่ในที่ดินที่อยู่ในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน โดยโจทก์ได้รับที่ดินเนื้อที่ 17 ไร่เศษจำเลยที่ 2 ได้รับ 10 ไร่เศษ หลังจากได้รับโฉนดที่ดินมาแล้วโจทก์เห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงได้คัดค้านขอให้แก้ไขโฉนดที่ดินให้ถูกต้อง กรณีเช่นนี้มิใช่เป็นการอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางแต่อย่างใด เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านการจัดรูปที่ดินให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย กลับปล่อยให้มีการดำเนินการจนกระทั่งออกโฉนดที่ดิน และเนื่องจากการจัดรูปที่ดินมีผลทำให้สิทธิครอบครองของโจทก์ในที่ดินเดิมเปลี่ยนไปเพราะมาตรา 30 และ 38ให้อำนาจคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจัดที่ดินใหม่โดยให้เจ้าของที่ดินเดิมได้รับที่ดินแปลงเดิมหรือที่ดินแปลงเดิมบางส่วนหรือได้รับที่ดินแปลงใหม่ก็ได้ ดังนั้นเมื่อทางราชการจัดที่ดินให้โจทก์ใหม่เนื้อที่ 17 ไร่ 3.8 ตารางวา การครอบครองของโจทก์ย่อมเปลี่ยนไปตามที่ทางการจัดรูปที่ดินให้ใหม่ที่พิพาทเนื้อที่ 2 ไร่เศษอยู่ในโฉนดที่ดินของจำเลยที่ 2ตามที่ทางราชการจัดให้ใหม่ ย่อมทำให้โจทก์หมดสิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้จัดการมรดกสิ้นสุดลงเมื่อศาลมีคำสั่งถอนจากตำแหน่ง
คดีนี้โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ส. ฟ้องจำเลยขอให้ส่งมอบที่ดินอ้างว่าเป็นทรัพย์มรดก เพื่อจะนำไปแบ่งปันให้แก่ทายาทระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีที่จำเลยฟ้องโจทก์กับพวกให้ถอนโจทก์จากการเป็นผู้จัดการมรดกของ ส.การเป็นผู้จัดการมรดกของโจทก์ย่อมสิ้นสุดลง โจทก์ไม่มีอำนาจและหน้าที่ในการจัดการมรดกของ ส. อีกต่อไป โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความการทำงาน: สัญญาประนีประนอมยอมความทำให้สภาพการจ้างเดิมสิ้นสุดลง การนับอายุการทำงานใหม่เริ่มต้นจากสัญญาใหม่
โจทก์เคยทำงานกับจำเลยต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาเรียกค่าเสียหายและเงินต่างๆหลายประเภทคดีดังกล่าวตกลงกันได้โดยการประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้วว่าบริษัทจำเลยยอมจ่ายเงินจำนวนหนึ่งแก่โจทก์ยอมรับโจทก์กลับเข้าทำงานตั้งแต่วันที่1มีนาคม2527เป็นต้นไปดังนี้สภาพการจ้างระหว่างโจทก์จำเลยที่มีอยู่เดิมยุติลงแล้วด้วยการที่โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแรงงานกลางเมื่อโจทก์จำเลยยอมความกันก็มิได้กล่าวถึงว่าจะนับอายุการทำงานเดิมต่อกับอายุการทำงานใหม่หรือไม่ทั้งคดีดังกล่าวโจทก์ก็มิได้ขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์กลับเข้าทำงานใหม่โจทก์จึงจะนับอายุการทำงานที่ตกลงกันใหม่ต่อจากอายุการทำงานเดิมมิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ถูกเพิกถอน ย่อมเป็นเหตุให้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายสิ้นสุดลง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยผู้เป็นนายจ้างจ่ายค่าเสียหายโดยอาศัยคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เป็นหลักแห่งข้อหา เมื่อปรากฏว่าศาลฎีกาได้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวแล้วเช่นนี้ถือว่าโจทก์ขาดข้ออ้างซึ่งอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาที่ให้จำเลยต้องรับผิด โจทก์จึงไม่มีสิทธิอ้างคำสั่งดังกล่าวมาเรียกร้องค่าเสียหายในคดีนี้ได้ ศาลชอบที่จะพิพากษายกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการเลือกตั้งถูกจำหน่ายคดีเนื่องจากรัฐธรรมนูญและรัฐสภาสิ้นสุดลงหลังมีคำสั่งคณะปฏิรูปฯ
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ ปรากฏว่าขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้มีคำสั่งให้รัฐธรรมนูญซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นและรัฐสภาสิ้นสุดลง จึงไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาที่ผู้ร้องฎีกา เพราะไม่อาจจะบังคับคดีให้เป็นไปตามคำร้องของผู้ร้องได้ ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้เช่าตาย สิทธิสิ้นสุดลง ทายาทไม่สามารถรับมรดกได้
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าตาย สิทธิการเช่าก็ย่อมสิ้นสุดลง จะรับมรดกกันไม่ได้
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสรวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก
โจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้เช่า ไม่มีอำนาจเข้าสรวมสิทธิการเช่าของผู้ตาย และไม่มีอำนาจฟ้องขอบังคับจำเลยให้รื้อถอนเรือนที่ปลูกในที่ดินซึ่งผู้ตายได้เช่าที่ดินส่วนนั้นไว้จากบุคคลภายนอก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินให้กระทรวงศึกษาธิการทำให้สิทธิครอบครองสิ้นสุดลง เจ้าของที่ดินไม่มีสิทธิเรียกคืน
เจ้าของที่ดินมือเปล่าได้อุทิศที่ดินให้แก่กระทรวงศึกษาธิการเพื่อใช้เป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนแล้ว เช่นนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของที่ดินนั้นได้สละเจตนาครอบครองแล้วการครอบครองย่อมสิ้นสุดลงหมดสิทธิในที่ดินนั้นต่อไป ไม่มีทางจะเอาคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8401/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับคดียาเสพติดสิ้นสุดลงเมื่อศาลฎีกายกฟ้องคดีอาญา
บทบัญญัติมาตรา 32 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 บัญญัติว่า "ในกรณีที่มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องผู้ต้องหาหรือจำเลยรายใด ให้การยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาหรือจำเลยรายนั้น รวมทั้งทรัพย์สินของผู้อื่นที่ได้ยึดหรืออายัดไว้เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือจำเลยรายนั้นสิ้นสุดลง..." ดังนั้น เมื่อศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องในความผิดอันเป็นเหตุให้มีการยึดทรัพย์รายนี้ การยึดทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ผู้ร้องอ้างว่าเกี่ยวเนื่องมาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดของผู้คัดค้านย่อมสิ้นสุดลง ศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งริบทรัพย์สินนั้นได้จึงไม่จำต้องวินิจฉัยในประเด็นที่ว่า ทรัพย์สินดังกล่าวของผู้คัดค้านนั้นเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ ตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2550 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับยาเสพติดส่งผลให้การยึดทรัพย์สินสิ้นสุดลงตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามยาเสพติด
คดีอาญาที่ผู้คัดค้านทั้งสองกับพวกถูกฟ้อง ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องสำหรับผู้คัดค้านทั้งสองในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีจึงต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ ที่บัญญัติว่า "ในกรณีที่มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องผู้ต้องหาหรือจำเลยรายใดให้การยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาหรือจำเลยรายนั้น รวมทั้งทรัพย์สินของผู้อื่นที่ได้ยึดหรืออายัดไว้เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือจำเลยรายนั้นสิ้นสุดลง..." การยึดทรัพย์สินของผู้คัดค้านทั้งสองที่ผู้ร้องอ้างว่าเนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดของผู้คัดค้านทั้งสองย่อมสิ้นสุดลง ศาลย่อมไม่มีอำนาจสั่งริบทรัพย์สินนั้นได้