พบผลลัพธ์ทั้งหมด 11 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6681/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวมแบ่งแยกครอบครองชัดเจน ไม่อ้างอิงสันนิษฐานส่วนเท่ากันได้ แบ่งตามการครอบครองจริง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของกฎหมายในกรณีที่ไม่ปรากฏชัดว่าเจ้าของรวมแต่ละคนมีส่วนคนละเท่าใดเท่านั้น จึงให้สันนิษฐานว่าเจ้าของรวมแต่ละคนมีส่วนเท่ากัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่าโจทก์และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาทต่างแบ่งแยกครอบครองที่ดินกันเป็นส่วนสัด ย่อมแสดงให้เห็นว่าต่างประสงค์ที่จะยึดถือที่ดินส่วนที่ตนครอบครองเป็นของตนจึงไม่อาจนำข้อสันนิษฐานของกฎหมายดังกล่าวมาใช้บังคับได้ การที่โจทก์จำเลยจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินร่วมกันก็ไม่ใช่ข้อที่จะฟังว่าจำเลยมิได้ครอบครองที่ดินเป็นส่วนสัด กรณีต้องแบ่งที่ดินพิพาทตามส่วนที่แต่ละคนครอบครอง โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาทครึ่งหนึ่ง แต่พิจารณาได้ความว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง ศาลย่อมพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่ส่วนแบ่งนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(2) ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากันเป็นเพียงสันนิษฐานได้ หากพิสูจน์ส่วนได้เสียแตกต่างออกไปได้
แม้ตามโฉนดที่ดินแปลงที่พิพาท เดิมจะมีชื่อ จ.และจำเลยถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันโดยในโฉนดมิได้บรรยายส่วนของแต่ละคนไว้ ซึ่งตาม ป.พ.พ.มาตรา 1357 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากันก็ตามแต่ก็หาเป็นข้อสันนิษฐานโดยเด็ดขาดไม่ ถ้าผู้เป็นเจ้าของรวมคนใดสามารถพิสูจน์ได้ว่าตนมีส่วนเป็นเจ้าของในส่วนใดเท่าใดแล้ว เจ้าของรวมคนนั้นก็จะเป็นเจ้าของในส่วนนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1441/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวมมีส่วนเท่ากันเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน คู่ความมีสิทธิพิสูจน์ส่วนแบ่งที่แตกต่างได้
ข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1357ที่ว่าเจ้าของรวมมีส่วนเท่ากันไม่ใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาดคู่ความมีสิทธิที่จะนำสืบให้รับฟังเป็นอย่างอื่นและสามารถนำพยานบุคคลมานำสืบหักล้างพยานเอกสารสัญญาจำนองและสัญญาซื้อขายที่ดินที่แสดงการเป็นเจ้าของรวมนั้นได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5183/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสเมื่อยังไม่ได้หย่า การแยกกันอยู่ไม่ได้ถือเป็นการแบ่งสินสมรส
คดีฟ้องหย่าและขอแบ่งสินสมรสเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัวไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่มาตรา 1533 บัญญัติว่า เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน การที่โจทก์จำเลยยังไม่ได้หย่ากันเพียงแต่เคยแยกกันอยู่ ถือไม่ได้มีแบ่งสินสมรสกันแล้วจึงต้องแบ่งสินสมรสให้โจทก์จำเลยได้ส่วนเท่ากันตามนัยมาตรา 1533 ดังกล่าว.
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่มาตรา 1533 บัญญัติว่า เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน การที่โจทก์จำเลยยังไม่ได้หย่ากันเพียงแต่เคยแยกกันอยู่ ถือไม่ได้มีแบ่งสินสมรสกันแล้วจึงต้องแบ่งสินสมรสให้โจทก์จำเลยได้ส่วนเท่ากันตามนัยมาตรา 1533 ดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3875/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสเมื่อหย่าต้องแบ่งให้ได้ส่วนเท่ากันตามกฎหมาย ไม่ใช่วิธีหักกลบลบกัน
การแบ่งสินสมรสระหว่างสามีภรรยาที่หย่ากันโดยคำพิพากษาต้องแบ่งตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1533 บัญญัติไว้ คือแบ่งสินสมรสให้ชายหญิงได้ส่วนเท่ากัน จะแบ่งโดยวิธีตีราคาสินสมรสทั้งหมด แล้วคิดคำนวณส่วนที่แต่ละฝ่ายจะได้รับแล้วนำมาหักกลบลบกันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินจากการค้าโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส: สันนิษฐานส่วนเท่ากันหากมิอาจพิสูจน์สัดส่วนลงทุน
จำเลยกับบิดาค้าขายร่วมกันมาก่อน โจทก์มาได้จำเลยเป็นสามีไม่จดทะเบียน และลงทุนค้าขายร่วมด้วย ไม่ปรากฏว่าทั้ง 3 คนร่วมกันค้าจำนวนเงินคนละเท่าใด สันนิษฐานว่ามีส่วนเท่ากันตาม มาตรา1357 แบ่งเงินทุนหมุนเวียนและทรัพย์สินของร้านค้าคนละ 1 ใน 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน: สันนิษฐานส่วนเท่ากันหากไม่ระบุในทะเบียน
มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดร่วมกับคนอื่นรวม 6 ชื่อด้วยกัน เมื่อไม่ปรากฏการจดแจ้งในทะเบียนว่ามีส่วนได้น้อยกว่า 1 ใน 6 ก็ย่อมต้องสันนิษฐานตาม ป.พ.พ. ม. 1357 ว่าผู้เป็นเจ้าของร่วมมีส่วนเท่ากัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดิน: การสันนิษฐานเรื่องส่วนเท่ากันและการแบ่งครอบครอง
ตามกฎหมายสันนิษฐานว่าผู้เป็นเจ้าของร่วมกันมีส่วนเท่ากัน. เจ้าของร่วมจะแบ่งกันทำในที่ดินมากน้อยเท่าใด ก็ไม่ทำให้เปลี่ยนแปลงส่วนกรรมสิทธิ์ซึ่งมีมาแต่ดั้งเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วม: สันนิษฐานส่วนเท่ากัน, การแบ่งใช้ไม่เปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์เดิม
ตามกฎหมายสันนิษฐานว่าผู้เป็นเจ้าของร่วมกันมีส่วนเท่ากัน
เจ้าของร่วมจะแบ่งกันทำในที่ดินมากน้อยเท่าใด ก็ไม่ทำให้เปลี่ยนแปลงส่วนกรรมสิทธิ์ซึ่งมีมาแต่ดั้งเดิม
เจ้าของร่วมจะแบ่งกันทำในที่ดินมากน้อยเท่าใด ก็ไม่ทำให้เปลี่ยนแปลงส่วนกรรมสิทธิ์ซึ่งมีมาแต่ดั้งเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิรวมในที่ดิน: สันนิษฐานว่ามีส่วนเท่ากัน ผู้มีส่วนมากกว่าต้องพิสูจน์
หน้าโฉนดที่ดินมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิหลายคน เบื้องต้นต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าทุกคนมีส่วนกรรมสิทธิเท่า ๆ กัน ผู้ใดอ้างว่าตนมีส่วนมากกว่าผู้อื่นมีหน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้ให้สมกับข้ออ้างของตน