คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อาวุธมีคม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4692/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคมจนเป็นอันตรายสาหัส และแจ้งความเท็จ ศาลยืนโทษจำคุก
บาดแผลที่คอของโจทก์ที่ 2 จากการถูกเชือด ด้วยมีดทำครัวแผลบนกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 9 เซนติเมตร แผลล่างกว้าง 3 เซนติเมตรยาว 14 เซนติเมตร เป็นบาดแผลบริเวณที่สำคัญ ทำให้โจทก์ที่ 2มีอาการเจ็บปวด หันคอไม่สะดวก หลังจากผ่าตัดและเย็บแผล 2 ครั้งแพทย์ต้องนัดโจทก์ที่ 2 ไปตรวจรักษาอีก 3 ครั้ง รวมเวลาที่ใช้รักษาทั้งหมด 30 วัน แม้จะได้ความว่าโจทก์ที่ 2 ไม่ได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเลย และยังสามารถไปให้การต่อพนักงานสอบสวนได้เองหลายครั้งในระหว่างที่ยังรักษาบาดแผลอยู่ ก็มิได้หมายความว่าโจทก์ที่ 2จะสามารถประกอบกรณียกิจตามปกติได้ในระหว่างนั้น จึงฟังได้ว่าโจทก์ที่ 2 ป่วยเจ็บจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วันอันเป็นอันตรายสาหัส จำเลยที่ 1 ทำร้ายโจทก์ที่ 2 โดยใช้มีดเชือด บริเวณลำคอจนโจทก์ที่ 2 ได้รับอันตรายสาหัสเป็นบาดแผลฉกรรจ์ถึง 2 แผล เกิดเหตุแล้วจำเลยที่ 1 ยังไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกล่าวหาโจทก์ที่ 2 ใช้มีดฟันที่แขนจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่เป็นความจริง และไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้พยายามบรรเทาผลร้ายโดยให้ความช่วยเหลือแก่โจทก์ที่ 2 แต่อย่างใด แม้จำเลยที่ 1 จะประกอบอาชีพเป็นหลักฐานและเคยมีคุณความดีมาก่อน แต่เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 แล้ว ไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3982/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคม ศาลพิจารณาเจตนาและลักษณะบาดแผลเพื่อตัดสินความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
จำเลยกับพวกรวม 7 คน รุมทำร้ายผู้เสียหายโดยใช้ขวดน้ำอัดลมและเหล็กเปิดน้ำอัดลมซึ่งด้านหนึ่งไม่มีคม อีกด้านหนึ่งมีคม ยาว จากปลายแหลมถึงที่กั้น 1.2 เซนติเมตร เป็นอาวุธแทงคนละที และ ไม่มีโอกาสเลือกแทง ผู้เสียหายมีบาดแผลถูกแทงด้วยขวดน้ำอัดลม ที่ หางคิ้วซ้าย เป็นแผลฉีกขาดลึกครึ่งเซนติเมตรยาวเพียง 2 เซนติเมตร ถ้า ไม่มีโรคแทรกซ้อนจะรักษาหายภายใน 7 วัน ส่วนแผลที่ถูกแทงด้วย เหล็กเปิดน้ำอัดลมที่หน้าท้องมีรอยช้ำเล็กน้อย ไม่ต้องรักษาบาดแผล ไม่สามารถทำให้ถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยกับพวก ยัง ถือไม่ได้ว่า มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงเพียงแต่มีเจตนาทำร้าย ร่างกาย เท่านั้น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: ภยันตรายใกล้จะถึงจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีคม
ผู้เสียหายไปพบจำเลย และพูดต่อว่าเรื่องโคของจำเลยกินต้นยางของผู้เสียหาย ให้จำเลยใช้ เงิน จำเลยไม่ให้ เกิดโต้เถียง กันผู้เสียหายว่าไม่ให้จะเอาตาย และชักมีดปลายแหลมเดิน เข้าหาจำเลยในระยะประมาณ 3 วา เพื่อจะแทงจำเลย จำเลยพิการขาขวาด้วนนั่งอยู่บนแคร่จะขยับตัว หนีย่อมไม่ทัน ในภาวะเช่นนี้นับว่าเป็นภยันตรายซึ่ง เกิด จากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อ กฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยยิงผู้เสียหาย 1 นัด กระสุนปืนถูก ผู้เสียหายบริเวณไหล่ซ้าย ดังนี้จำเลยกระทำพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดย ชอบด้วย กฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3128/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าหรือไม่: การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าจากการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคม
จำเลยไม่พอใจโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ใช้ให้บุตรจำเลยทำงานในหน้าที่คนงานเป็นเหตุให้บุตรจำเลยลาออกจากงาน วันเกิดเหตุจำเลยมาหาโจทก์ร่วมแสดงอาการไม่พอใจโดยพูดจาต่อว่าโจทก์ร่วม ภริยาจำเลยได้พาจำเลยกลับไป ต่อมาจำเลยกลับมาหาโจทก์ร่วมอีกแล้วใช้เหล็กมีคมปลายแหลมแทงโจทก์ร่วมแต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าจำเลยตั้งใจแทงโจทก์ร่วมที่ใดอันเป็นอวัยวะสำคัญ เพียงแต่ปรากฏบาดแผลที่ปลายแขนซ้ายลึกประมาณ 2นิ้ว รักษาเพียง 14 วันก็หาย ดังนี้ ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วม จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคม ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่มีเจตนาฆ่า
จำเลยใช้ขวดสุราตีหน้าผากผู้เสียหาย 1 ครั้ง มีบาดแผลที่หน้าผากด้านซ้าย ด้านขวาและเหนือหูขวา ยาว 3, 2.5, และ 3 เซนติเมตรตามลำดับ และใช้มีดแทงผู้เสียหายถูกแขนซ้ายและอกด้านซ้ายมีบาดแผลยาว 2 และ 1 เซนติเมตรตามลำดับ เฉพาะแผลที่อกด้านซ้ายลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ถูกกล้ามเนื้อไม่ทะลุเข้าไปถึงอวัยวะภายในและอาวุธที่ใช้มิได้ถูกกระดูกเมื่อเกิดเหตุแล้วมีผู้อื่นเข้ามาห้าม จำเลยก็เชื่อฟัง เหตุทำร้ายเพราะผู้เสียหายต่อว่าจำเลยว่าเป็นสายลับให้ตำรวจ ตามลักษณะบาดแผลและตามพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าว ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526-1527/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และพยายามฆ่าจากการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคม
จำเลยที่3พูดขู่จะเอาเงินจากพ. เมื่อไม่ได้ดังที่ตนขู่จำเลยที่1ที่3กับพวกก็ได้ร่วมกันทำร้ายพ. ทันทีดังนี้การกระทำของจำเลยที่1ที่3กับพวกเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์แล้ว จำเลยที่1ที่3ช่วยกันรุมทำร้ายพ. เมื่อพ. เรียกให้คนมาช่วยผู้เสียหายกับพวกจะมาช่วย พ. แต่ไม่ทันที่จะเข้ามาช่วยก็ถูกจำเลยที่3กับพวกอีกเกือบ20คนใช้ดาบแทงฟันและใช้แป๊บน้ำตีทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บทุกคนดังนี้ถือไม่ได้ว่าการที่จำเลยที่1ที่3กับพวกร่วมกันทำร้ายพ. และพวกที่มาช่วยนั้นมีลักษณะเป็นการชุลมุน มีดดาบซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้เป็นมีดดาบปลายแหลมยาวประมาณ1แขนและผลของการกระทำของจำเลยเป็นผลให้ผู้ถูกทำร้ายบางคนได้รับบาดเจ็บถึงกระดูกซี่โครงหักบางคนถูกแทงถึงไส้ทะลักบางคนถึงกับเอ็นของนิ้วกลางนิ้วนางและนิ้วก้อยขวาฉีกขาดเพราะยกมือขึ้นรับดาบเห็นได้ว่าจำเลยที่1ที่3มีเจตนาฆ่าการกระทำของจำเลยที่1ที่3จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเพราะการกระทำของจำเลยที่1ที่3กับพวกในตอนหลังนี้ก็เพื่อปกปิดการกระทำผิดหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดที่ตนกับพวกกระทำไปแล้วการกระทำของจำเลยที่1ที่3จึงเป็นความผิดตามป.อ.มาตรา289(7)ประกอบด้วยมาตรา80.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีคม มุ่งหวังผลประโยชน์จากเงินบำเหน็จและประกันชีวิต
จำเลยใช้อาวุธมีคมปาดเชือดคอผู้เสียหายเป็นแผลฉกรรจ์ยาว 15 เซนติเมตร ลึก 6 เซนติเมตร ตัดเข้าหลอดอาหารส่วนต้นและเส้นประสาทกล่องเสียงด้านซ้าย อันเป็นอวัยวะสำคัญ อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากแพทย์ได้ทำการรักษาไว้ทัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย และจำเลยกระทำโดยมีการตระเตรียมและวางแผนการไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้หวังที่จะได้รับเงินบำเหน็จและ เงินประกันชีวิตของผู้เสียหายจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายขณะนอนหลับด้วยอาวุธมีคม ศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
ผู้เสียหายบ่นถึงความประพฤติของจำเลย จำเลยโกรธเคืองฟันผู้เสียหายในขณะที่นอนหลับ 3 ครั้งที่คอปากและสีข้างเป็นการเลือกฟันอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายอาวุธที่ใช้เป็นมีดขอด้ามยาว 0.90 เมตรตัวมีดหรือใบมีดยาว 0.30 เมตร มีความคมและน้ำหนักสามารถทำร้ายให้ถึงตายได้ ดังนี้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีคม ศาลฎีกาพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดพร้าของกลางตัวมีดยาวประมาณคืบเศษจากคมถึงสันประมาณ 3 นิ้วมือเรียงกัน ด้ามมีดยาว 1 ศอก 1 คืบ ซึ่งเป็นอาวุธมีคมขนาดใหญ่สามารถทำร้างถึงตายได้ ฟันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถูกส่วนที่สำคัญของร่างกายรวม 4 แห่งหากผู้ใหญ่บ้านไม่เข้าขวางแย่างมีดพร้าของกลางจากจำเลยเอาไว้ได้เสียก่อน จำเลยก็อาจฟันผู้เสียหายซึ่งขณะนั้นล้มฟุบหมดสติอยู่จนถึงแก่ความตายได้ และเมื่อผู้ใหญ่บ้านแย่งมีดพร้าดังกล่าวได้แล้ว จำเลยก็ยังได้เข้าไปหยิบปืนยาวของผู้เสียหายที่วางอยู่ข้างหน้าผู้เสียหาย จนผู้ใหญ่บ้านต้องแย่งปืนนั้นมาจากจำเลยอีก แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากพฤติการณ์ทำร้ายด้วยอาวุธมีคมหลายครั้งและพยายามแย่งปืนของผู้เสียหาย
จำเลยใช้มีดพร้าของกลางตัวมีดยาวประมาณคืบเศษจากคมถึงสันกว้าง ประมาณ 3 นิ้วมือเรียงกัน ด้ามมีดยาว 1 ศอก 1คืบซึ่งเป็นอาวุธมีคมขนาดใหญ่สามารถทำร้ายถึงตายได้ฟันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถูกส่วนที่สำคัญของร่างกายรวม4 แห่ง หากผู้ใหญ่บ้านไม่เข้าขัดขวางแย่งมีดพร้าของกลางจากจำเลยเอาไว้ได้เสียก่อน จำเลยก็อาจฟันผู้เสียหายซึ่งขณะนั้นล้มฟุบหมดสติอยู่จนถึงแก่ความตายได้ และเมื่อผู้ใหญ่บ้านแย่งมีดพร้าดังกล่าวได้แล้ว จำเลยก็ยังได้เข้าไปหยิบปืนยาวของผู้เสียหายที่วางอยู่ข้างหน้าผู้เสียหายจนผู้ใหญ่บ้านต้องแย่งปืนนั้นมาจากจำเลยอีกแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80
of 2