คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เขตจังหวัด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกอิสลามและการบังคับใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ หากไม่ได้อยู่ในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล
แม้โจทก์และจำเลยจะเป็นอิสลามศาสนิกและเป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับเรื่องมรดกอิสลามศาสนิกก็ตาม แต่ถ้ามิใช่เป็นคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูลแล้วก็จะนำลัทธิศาสนาอิสลามหรือกฎหมายอิสลามมาใช้บังคับในการแบ่งปันทรัพย์มรดกแทนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการแบ่งมรดกไม่ได้ เพราะเป็นการขัดต่อบทบัญญัติในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานีนราธิวาสยะลาและสตูล พ.ศ. 2489 ฉะนั้น ถ้าได้มีการนำวิธีการแบ่งปันทรัพย์มรดกตามลัทธิศาสนาอิสลามมาใช้ในการแบ่งปันทรัพย์มรดกก็จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามบทบัญญัติมาตรา 1750 ด้วย จึงจะมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
แม้จะได้มีการแบ่งปันทรัพย์มรดกกันจริงตามวิธีการแบ่งในลัทธิศาสนาอิสลาม และโจทก์ตกลงยินยอมตามผลการแบ่งปันดังกล่าว แต่บันทึกการแบ่งปันนั้นมีแต่รายการทรัพย์สินไม่มีข้อตกลงใด ๆ และไม่มีผู้ใดลงชื่อในบันทึกนั้นเลย ดังนี้ ไม่เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1750 วรรค 2 จึงหามีผลสมบูรณ์อันจะบังคับกันระหว่างคู่กรณีได้ไม่ และเมื่อโจทก์กับจำเลยยังครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกันตลอดมา ซึ่งยังถือไม่ได้ว่าได้มีการแบ่งปันทรัพย์มรดกด้วยต่างเข้าครอบครองทรัพย์สินเป็นส่วนสัดตามมาตรา 1750 วรรคแรก แล้ว ทรัพย์พิพาท จึงยังถือว่าครอบครองร่วมกันมาโดยมิได้มีการแบ่งปันตามกฎหมาย โจทก์ย่อมขอให้แบ่งได้ตามมาตรา 1748

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดเขตจังหวัดชอบด้วยกฎหมาย แม้ไม่มีกฎหมายเฉพาะ แต่กระทรวงมหาดไทยมอบอำนาจข้าหลวงตรวจการดำเนินการได้
ในปี พ.ศ.2498 ยังไม่มีบทกฎหมายหรือกฎข้อบังคับใดที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะถึงวิธีปฏิบัติในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด เมื่อไม่แน่ว่าท้องที่หมู่บ้านหนึ่งอยู่ในเขตของจังหวัดใดในระหว่าง 2 จังหวัด ทีมีเขตติดต่อกัน กระทรวงมหาดไทยมอบให้ข้าหลวงตรวจการมหาดไทยภาคเป็นประธานของคณะกรรมการ ให้มีอำนาจกำหนดเขตระหว่าง 2 จังหวัดนี้ให้แน่นอน แล้วว่าการกำหนดเขตระหว่างจังหวัดนี้ไม่จำต้องทำเป็นประกาศกำหนดเขตตำบล โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457เพียงแต่ทำเป็นบันทึกข้อตกลงระหว่างจังหวัดทั้งสองพร้อมทั้งทำแผนที่แสดงแนวเขตให้ชัดแจ้งเก็บไว้เป็นหลักฐานทั้งทำแผนที่แนวเขตให้ชัดแจ้งเก็บไว้เป็นหลักฐานก็พอแล้ว ข้อหลวงตรวจการ ฯ ภาคจึงปฏิบัติการตามคำสั่งดังนี้ การกำหนดเขตจังหวัดทั้งสองจึงเป็นการชอบแล้ว
ในปี พ.ศ.2498 นั้น ตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลได้ถูกยุบเลิกไปก่อนแล้ว ไม่มีสมุหเทศาภิบาลที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะขออนุมัติในการที่จะเปลี่ยนแปลงเขตหมู่บ้านและตำบลตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 6 แต่เมื่ออำนาจหน้าที่ในการบริหารตรวจการของสมุหเทศาภิบาลย่อมตกไปอยู่กับกระทรวงมหาดไทยกระทรวงมหาดไทยสั่งการและมอบให้ข้าหลวงตรวจการ ฯ ภาค เป็นผู้ดำเนินการกำหนดเขตจังหวัดให้แน่นอน การที่ข้าหลวงตรวจการ ภาคกำหนดเขตจังหวัดจึงเป็นการชอบ แม้จะมีผลเป็น+เปลี่ยนแปลงเขตหมู่บ้านและตำบลด้วย ในปี พ.ศ.2497 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2495 ออกใช้แล้ว การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดหรือเขตอำเภอจะต้องตราเป็นพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 32 และ 39 ผู้ว่าราชการภาคไม่มีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดได้ ถ้าผู้ว่าราชการภาคกำหนดแนวเขตจังหวัดใหม่ ทำให้ที่พิพาทซึ่งเคยอยู่ในเขตจังหวัดจะต้องไปอยู่ในเขตจังหวัด บ.ก็ยังต้องถือว่าที่พิพาทยังขึ้นอยู่กับจังหวัด จ. ศาลจังหวัด จ. มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีที่เกี่ยวกับที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2005/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวข้ามเขตจังหวัดทางทะเล: ต้องได้รับอนุญาต
การขนย้ายข้าวจากพื้นแผ่นดินใหญ่ไปยังเกาะโดยทางทะเลนั้น แม้เกาะนั้นจะเป็นเขตในจังหวัดเดียวกันกับพื้นแผ่นดินใหญ่ในทางปกครองก็ตาม แต่ประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าวฉบับที่ 36 พ.ศ.2490 และฉบับที่ 51 พ.ศ.2493 ได้กำหนดเขตจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลว่า ถ้าด้านที่ติดต่อกับทะเลในตอนใดเป็นทางน้ำหรือทะเลให้ถือว่าเขตห้ามขนย้ายข้าวมีกำหนดเพียงชายตลิ่งหรือชายฝั่งเท่านั้น ดังนี้ การขนย้ายข้าวจากพื้นแผ่นดินใหญ่ไปยังเกาะนั้น จึงต้องถือว่าเป็นการขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าวจะต้องได้รับอนุญาตเสียก่อนมิฉะนั้นย่อมเป็นความผิด (ฎีกาที่ 317/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกาศห้ามส่งสินค้าออกนอกเขตจังหวัดเพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควร มีผลบังคับใช้ได้ แม้ไม่มีข้อความห้ามค้ากำไรเกินควรโดยตรง
ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 สั่งห้ามไม่ให้ส่งสิ่งของมี ไก่ เป็นต้น ออกไปนอกเขตต์ท้องที่ ดังนี้ (แม้ประกาศจะไม่มีข้อความกล่าวโดยชัดแจ้งว่าห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของนั้นก็ดี) พอถือได้ว่าประกาศของคณะกรรมการรายนี้ เป็นสิ่งที่คณะกรรมการห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร ประกาศของคณะกรรมการ จึงนับว่ามีผลบังคับโดยชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวออกนอกเขตที่คณะกรรมการกำหนด ต้องพิสูจน์เจตนาขนย้ายออกนอกเขตจังหวัด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยย้ายข้าวอกนอกเขตต์ในทางทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยพยายามจะขนออกนอกเขตต์ คดีก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 10,13 เพราะสองมาตรานี้เอาผิดแก่ผู้ขนย้ายข้าวออกนอกเขตต์ซึ่งคณะกรรมการกำหนด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวภายในจังหวัด การตีความประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว และความผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่า ขนย้ายข้าวทางทะเล เป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ขอให้ลงโทษฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขต แต่ประกาศของคณะกรรมการ ดังที่โจทก์ฟ้องปรากฏว่า เป็นประกาศอนุญาตให้ขนย้ายข้าวได้ภายในเขตจังหวัดเดียวกัน ดังนี้ จำเลยหามีความผิดฐานขนย้ายข้าวออกนอกเขตตามฟ้องโจทก์ไม่เพราะการที่จะเป็นผิดตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าวที่โจทก์อ้างต้องปรากฏว่าเป็นการขนย้ายออกนอกเขตตามมาตรา 10 เสียก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวภายในจังหวัดเดียวกัน ไม่ผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
ผู้ที่จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10 ต้องปรากฎว่าได้ขนย้ายข้าวจากเขตต์จังหวัดหนึ่งไปยังจังหวัดอื่น หากขนย้ายในเขตต์จังหวัดเดียวกันแล้ว ไม่ผิดตามมาตรานี้
และเมื่อไม่ผิดตามมาตรา 10 แล้วจะใช้ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉะบับที่ 2) 2489 มาใช้บังคับไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวในเขตจังหวัดเดียวกัน ไม่ผิดตามพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
ผู้ที่จะมีความผิดตามพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10 ต้องปรากฏว่าได้ขนย้ายข้าวจากเขตจังหวัดหนึ่งไปยังจังหวัดอื่น หากขนย้ายในเขตจังหวัดเดียวกันแล้วไม่ผิดตามมาตรานี้
และเมื่อไม่ผิดตามมาตรา 10 แล้วจะใช้พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว(ฉบับที่ 2)2489 มาใช้บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1890/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนสุราภายในจังหวัดเดียวกัน ไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา
การขนสุราไปต่างตำบลในจังหวัดเดียวกัน ย่อมไม่มีความผิด (อ้างฎีกาที่ 667/2490)
คดีหาว่าจำเลยขนสุราไปต่างจังหวัด โดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อฟ้องของโจทก์ไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยได้ขนน้ำสุราข้ามเขต จังหวัดเป็นจำนวนเท่าใด คดีก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวภายในจังหวัดเดียวกัน ไม่ผิดกฎหมายควบคุมข้าว
ขนย้ายข้าวภายในเขตต์จังหวัดเดียวกัน ไม่ผิดมาตรา 10,13 และประกาศคณะกรรมการ ฯ
(อ้างฎีกาที่ 637/2492)
of 2