คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าของเรือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6131/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ให้เช่าเรือและผู้เช่าช่วงต่อความเสียหายสินค้า: เจ้าของเรือยังคงรับผิดชอบร่วมกับผู้เช่า
ตามแบบสัญญาเช่าเรือมาตรฐานที่บริษัทผู้ขาย (ผู้ส่ง) ลงลายมือชื่อไว้ภายหลังเจรจาตกลงกันถึงเงื่อนไขการขนส่งสินค้าพิพาทกับตัวแทนผู้ขนส่ง และมีการกรอกข้อความต่าง ๆ เกี่ยวกับการขนส่งไว้พร้อมกับมีข้อสัญญามาตรฐานแนบท้ายนั้น ได้มีการระบุไว้ในหัวข้อความรับผิดของเจ้าของเรือข้อ 2 ว่า เจ้าของเรือยังคงต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายของสินค้าที่เรือรับขน และตามสัญญาเช่าระหว่างจำเลยที่ 1 เจ้าของเรือกับจำเลยที่ 4 ผู้เช่าเรือรายแรกก่อนมีการให้จำเลยที่ 2 เช่าช่วงกันต่อไปได้ระบุไว้ว่า ในระหว่างระยะเวลาการเช่า ผู้เช่าเรือสามารถนำเรือออกให้เช่าช่วงต่อไปได้ การส่งมอบเรือที่เช่านั้น จำเลยที่ 1 ต้องส่งมอบเรือที่อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะรับสินค้า ระวางเรือต้องกวาดสะอาดและไม่มีรูรั่ว แข็งแรงกับเหมาะที่จะให้บริการทุกประการ เจ้าหน้าที่ ลูกเรือ วิศวกรและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังต้องเป็นของจำเลยที่ 1 เต็มอัตรา นอกจากนี้ในเงื่อนไขของสัญญาข้อ 1 ระบุไว้ด้วยว่า ระหว่างระยะเวลาการเช่า จำเลยที่ 1 ยังจะต้องจ่ายค่าจ้างและเงินอื่น ๆ ที่ต้องจ่ายแก่ลูกเรือ ต้องชำระค่าประกันภัยเรือ และจะต้องดูแลเรือรวมทั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์เรือให้มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ และข้อ 8 ระบุไว้ว่า นายเรือซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยเจ้าของเรือจะเป็นผู้ควบคุมดูแลการบรรทุก การเก็บจัดเรียงสินค้าและลงลายมือชื่อในใบตราส่งสำหรับสินค้าที่ตรงกับบัญชีตรวจนับสินค้าและใบรับขนถ่ายสินค้า และผู้เช่าเรือหรือตัวแทนของผู้เช่าเรือก็มีสิทธิที่จะลงลายมือชื่อในใบตราส่งแทนนายเรือได้ด้วย นอกจากนี้ในข้อ 26 ยังได้ระบุไว้ว่า จำเลยที่ 1 เจ้าของเรือยังคงต้องรับผิดชอบในการเดินเรือ การประกันภัย ลูกเรือ และเรื่องอื่น ๆ ทั้งหมดเช่นเดียวกับในขณะที่เดินเรือเพื่อประโยชน์ของตนเองอยู่ต่อไป การเช่าเรือดังกล่าวเป็นการเช่าแบบมีกำหนดเวลาที่แน่นอน ผู้เช่าสามารถนำเรือไปให้บุคคลอื่นเช่าช่วงต่อไปได้อีกเป็นทอด ๆ และรับขนส่งสินค้าได้ โดยเจ้าของเรือเป็นผู้จัดหานายเรือและลูกเรือให้แก่ผู้เช่า หากเกิดความเสียหายกับสินค้าที่บรรทุกอยู่ในเรือ เจ้าของเรือต้องรับผิดชอบต่อเจ้าของสินค้าหรือผู้รับใบตราส่ง ประกอบกับปรากฏในใบตราส่งว่า ผู้ที่ลงลายมือชื่อในใบตราส่งในช่องที่ผู้ขนส่งต้องลงลายมือชื่อไว้นั้น ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าลงลายมือชื่อไว้ในฐานะตัวแทนของนายเรือ ซึ่งตามปกติแล้วนายเรือย่อมเป็นตัวแทนของเจ้าของเรือ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของเรือที่แท้จริง จึงต้องมีส่วนร่วมกับจำเลยที่ 2 ในการทำสัญญารับขนของทางทะเลกับบริษัทผู้ขายซึ่งเป็นผู้ส่ง และแม้มีการให้เช่าช่วงจนถึงทอดสุดท้าย จำเลยที่ 1 ก็ยังเป็นผู้ควบคุมดูแลและรับผิดชอบในการเดินเรือและในความเรียบร้อยของอุปกรณ์เครื่องจักรและความปลอดภัยในเรือเพื่อการขนส่งสินค้าพิพาท ดังนั้น จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ขนส่งสินค้าพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4745/2547 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนเรือของกลางคดีลักลอบขนน้ำมัน: เจ้าของเรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่
ในคดีร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบนั้น ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยตามคำร้องของผู้ร้องมีเพียงว่าศาลจะสั่งคืนเรือของกลางให้แก่เจ้าของซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยหรือไม่เท่านั้น ส่วนประเด็นที่ว่าศาลจะสั่งริบเรือของกลางได้หรือไม่ยุติไปตามคำสั่งศาลในคดีหลักซึ่งถึงที่สุดแล้ว ผู้ร้องจะยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาในคำร้องขอคืนเรือของกลางต่อไปอีกไม่ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของเรือประมงรู้เห็นเป็นใจกับการลักลอบขนน้ำมัน จึงไม่มีสิทธิขอคืนเรือของกลาง
ผู้ร้องเป็นเจ้าของเรือประมงของกลางที่ถูกศาลสั่งริบในความผิดฐานลักลอบซื้อขายน้ำมันหลีกเลี่ยงภาษีได้ความว่า ก่อนนำเรือพิพาทออกให้เช่าผู้ร้องจัดทำถังน้ำมันจำนวนมากถึง 20 ถัง บรรทุกอยู่บริเวณหน้าเครื่องบรรจุน้ำมันได้ถึง 40,000 ลิตร ซึ่งโดยปกติเรือประมงทั่วไปจะมีถังน้ำมันที่ห้องเครื่องห้องละ 1 ถัง มีปริมาตรไม่เกิน 10,000 ลิตร นอกจากนี้เรือดังกล่าวยังมีเครื่องสูบถ่ายน้ำมันที่สามารถถ่ายน้ำมันออกไปสู่เรือลำอื่นได้ แสดงจุดประสงค์หรือเจตนาของผู้ร้องว่าจะใช้เรือดังกล่าวสำหรับบรรทุกน้ำมันเพื่อถ่ายให้เรือลำอื่นด้วย พฤติการณ์ของผู้ร้องดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ผู้ร้องมีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอคืนเรือของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากละเมิดทางเรือ: เจ้าของเรือไม่ต้องรับผิดหากมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง และผู้ขับเรือไม่ได้กระทำการในทางการจ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่1เป็นเจ้าของเรือยนต์ที่ไปทำละเมิดจำเลยที่2เป็นผู้ครอบครองเรือยนต์ที่ก่อเหตุละเมิดแต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา425และมาตรา437วรรคแรกมิได้บัญญัติให้เจ้าของเรือยนต์ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นด้วยจึงขอบังคับให้จำเลยที่1ชดใช้ค่าเสียหายด้วยไม่ได้ส่วนความรับผิดของจำเลยที่2นั้นตามคำฟ้องโจทก์เพียงแต่บรรยายว่าลูกจ้างที่ยังไม่ทราบชื่อของจำเลยที่2ได้ขับเรือแล่นไปชนเรือของโจทก์โดยมิได้บรรยายให้เห็นว่าผู้ที่ขับเรือไปชนนั้นกระทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่2ทั้งข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าขณะเกิดเหตุจำเลยที่1และจำเลยที่2มิได้อยู่ในเรือที่ก่อเหตุด้วยแม้จะได้บันทึกประจำวันว่าจำเลยที่2เป็นผู้ครอบครองก็ไม่ทำให้ต้องรับผิดในฐานะเป็นผู้ครอบครองจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ถือเป็นผู้ร่วมขนส่ง แม้ช่วยเหลือเจ้าของเรือและผู้ขนส่งในการดำเนินการบางส่วน
จำเลยไม่ได้เข้าร่วมทำการขนส่งสินค้ากับบริษัทผู้ขนส่งซึ่ง ได้ ทำการขนส่งสินค้ามาทางเรือ และไม่ได้มีส่วนเข้าร่วมในการขนถ่ายสินค้าจากเรือด้วยการที่จำเลยได้ ดำเนินการติดต่อ กรมเจ้าท่าให้มีการนำร่องเพื่อให้เรือเข้าเทียบท่า และแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองให้ตรวจ ชาว ต่างประเทศที่มากับเรือเป็นผู้ขออนุญาตนำเรือเข้าต่อ กรมศุลกากร รวมทั้งแจ้งกำหนดเวลาเรือเข้าให้ผู้รับตราส่งทราบนั้นกิจการเหล่านี้เป็นกิจการที่เจ้าของเรือและบริษัทผู้ขนส่งจะต้อง กระทำโดย ตนเอง การที่จำเลยได้ กระทำกิจการเหล่านั้นแทนเจ้าของเรือและผู้ขนส่ง ยังไม่พอให้ถือว่าจำเลยเป็นผู้เข้าร่วมขนส่งด้วย แม้เมื่อผู้รับตราส่งนำใบตราส่งมายื่น และจำเลยรับใบตราส่งคืนมาแล้วออกใบปล่อยสินค้าให้เพื่อนำไปรับสินค้าจากนายเรือก็ตาม ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะ ผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตาม วิธีการขนส่งทางทะเล.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4634/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของเรือต้องรับผิดชอบหากรู้เห็นเป็นใจให้ลูกเรือใช้เรือกระทำผิดกฎหมายประมง
ขณะจับกุมเรือยนต์ของกลางมีแผ่นไม้ขนาดกว้างยาว 1 เมตรสำหรับใช้วางตะแกรงคราดหอยต่อออกจากท้ายเรือ ซึ่งเรือจับปลาหมึกไม่ต้องมีไม้แผ่นนี้ และตอนเข้าจับกุมคนในเรือดังกล่าวรู้ตัวก่อนได้ตัดเครื่องมือคราดหอยทิ้งเครื่องมือคราดหอยมีลักษณะต่างจากเครื่องมือจับปลาหมึก ซึ่งหากผู้ร้องไม่ประสงค์ให้ ว. นำเรือไปกระทำความผิดโดยคราดหอยในเขตหวงห้ามจริง ผู้ร้องน่าจะไปตรวจในเรือ และเมื่อพบเครื่องมือคราดหอยก็สามารถนำออกไปจากเรือเสียได้การที่ผู้ร้องไม่กระทำดังกล่าว แต่อ้างว่าได้ห้าม ว. มิให้กระทำผิดกฎหมายเช่นนี้จึงเป็นการกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอยคดีฟังได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดจึงร้องขอคืนของกลางมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสิทธิเจ้าของเรือจากการแจ้งความเท็จและยึดเรือ แม้ทะเบียนเรือยังเป็นชื่อจำเลย
เรือลำพิพาทเป็นของโจทก์แต่จำเลยกลับถือโอกาสที่ ทะเบียนเรือยังเป็นชื่อของจำเลยมอบอำนาจให้ ส. ไปแจ้งความ ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแก่โจทก์ในข้อหาความผิด ฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเรือลำพิพาท เป็นเหตุให้โจทก์ถูกจับกุมดำเนินคดีและเรือลำพิพาทถูกยึดแล้วจำเลยติดต่อ ขอรับเรือลำพิพาทจากพนักงานสอบสวนไปใช้ในกิจการของจำเลย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาการกระทำของจำเลยจึงไม่ชอบและเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมของเจ้าของเรือและผู้ขับเรือในละเมิด และการพิสูจน์สถานะทางครอบครัวเพื่อสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
จำเลยที่ 2 ใช้จำเลยที่ 1 นำเรือไปรับจ้างบรรทุกสินค้าแทนจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ตกลงทำกิจการนั้นถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในละเมิดที่จำเลยที่ 1 ขับเรือทำให้บุตรโจทก์ตาย
เอกสารสูติบัตรที่ว่าบิดามารดาเด็กมิได้จดทะเบียนสมรสกันเมื่อ 20 ปีมาแล้ว เป็นแต่การกะประมาณเมื่อแจ้งการเกิดของบุตรไม่ลบล้างพยานหลักฐานและสำเนาทะเบียนบ้านที่ว่าบิดามารดาอยู่กินด้วยกันมากว่า 40 ปีก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3166-3167/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของเรือต้องรับผิดชอบต่อการกระทำผิดของลูกจ้างที่ควบคุมเรือประมงในพื้นที่หวงห้าม แม้จะอ้างว่าไม่รู้เห็น
ผู้ร้องมอบเรือให้ลูกจ้างควบคุมเรือทำการประมง ลูกจ้างนำเรือไปทำการประมงในที่หวงห้าม ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการประมง ผู้ร้องอ้างว่าไม่รู้เห็นเป็นใจ ในการที่ลูกจ้างทำผิดขอรับเรือคืนมิให้ริบไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2643/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนออกใบตราส่งไม่ตรงตามข้อตกลงกับเจ้าของเรือ ทำให้เจ้าของเรือต้องรับผิดต่อผู้รับตราส่ง ตัวแทนต้องรับผิดร่วมกับผู้ว่าจ้าง
โจทก์ได้ติดต่อที่จะแต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนรับส่งสินค้าทางทะเลขอให้ส่งตัวแทนไปเจรจาข้อปลีกย่อย เมื่อโจทก์และตัวแทนจำเลยที่ 1 ได้เจรจาตกลงกันแล้วจำเลยที่ 1 ได้มีจดหมายยืนยันรายละเอียดที่ได้เจรจากันไปให้โจทก์ทราบ และตัวแทนโจทก์ก็ได้มีจดหมายยืนยันมายังจำเลยที่ 1 เช่นเดียวกัน และว่าจะส่งหนังสือแต่งตั้งจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการตามมาภายหลังเมื่อเรือของโจทก์เดินทางมารับสินค้าเป็นลำแรก จำเลยที่ 1 ก็ได้ทำหน้าที่ตามที่ตกลงกันไว้ และแสดงต่อทางราชการว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์ได้แต่งตั้งจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนและจำเลยที่ 1 รับเป็นตัวแทนของโจทก์ในการรับส่งสินค้าทางทะเลแล้ว แม้โจทก์จะยังมิได้มีหนังสือแต่งตั้งจำเลยที่ 1 อย่างเป็นทางการก็ไม่ใช่ข้อสำคัญ เพราะมิใช่กรณีที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้ต้องทำเป็นหนังสือ
สัญญาเช่าเรือขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างโจทก์กับเจ้าของเรือ กำหนดให้เจ้าของเรือรับผิดเช่นเดียวกับโจทก์ผู้เช่าสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่สินค้าตามที่ปรากฏในใบตราส่งที่กัปตันเรือเป็นผู้ลงชื่อในใบตราส่ง แต่ถ้าโจทก์จะให้กัปตันเรือมอบอำนาจให้โจทก์หรือตัวแทนโจทก์ลงชื่อในใบตราส่งแทนกัปตันเรือก็ได้ ทั้งนี้ต้องออกใบตราส่งให้มีข้อความตรงกับใบรับขั้นต้น กัปตันเรือได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ลงชื่อในใบตราส่งโดยมีข้อกำหนดว่าจะต้องออกใบตราส่งให้มีข้อความตรงกับใบรับขั้นต้น หาไม่แล้วเจ้าของเรือจะไม่รับผิดชอบ จำเลยที่ 1 รู้อยู่แล้วว่าสินค้ามันสำปะหลังที่จำเลยที่ 2 มาจ้างขนส่งนั้นยังไม่แห้งสนิทดังที่หมายเหตุไว้ในใบรับขั้นต้น แต่กลับออกใบตราส่งให้จำเลยที่ 2 ไปโดยไม่หมายเหตุความบกพร่องไว้ให้ตรงกับใบรับขั้นต้น เป็นเหตุให้ธนาคารจ่ายเงินค่าสินค้ามันสำปะหลังให้จำเลยที่ 2 ไปตามใบตราส่งที่ไม่มีหมายเหตุความบกพร่อง ต่อมามันสำปะหลังไปถึงผู้รับตราส่งปรากฏว่าชื้นขึ้นราและมีกลิ่น คุณภาพได้เสื่อมลงราคาตกไปประมาณครึ่งหนึ่ง ทำให้ผู้รับตราส่งได้รับความเสียหาย จึงได้ฟ้องให้เจ้าของเรือรับผิด เจ้าของเรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้รับตราส่งแล้วจึงได้ไล่เบี้ยเอากับโจทก์ที่ออกใบตราส่งไม่ตรงตามสัญญาเช่าเรือ โจทก์ต้องใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของเรือไปตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ จึงต้องถือว่าความเสียหายที่โจทก์ได้รับเกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์ในการที่ออกใบตราส่งให้แก่จำเลยที่ 2 ไม่ตรงกับใบรับขั้นต้นตามที่ได้รับมอบหมายจากกัปตันเรือ จำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 มิได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อให้โจทก์เสียหาย จึงพิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยปัญหาที่ว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ เมื่อโจทก์อุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 มิได้ยกปัญหาเรื่องคดีโจทก์ขาดอายุความตั้งประเด็นไว้ในคำแก้อุทธรณ์ จึงถือว่าไม่มีประเด็นเรื่องอายุความในชั้นอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาเรื่องอายุความให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นในชั้นอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบเมื่อจำเลยที่ 1 ฎีกาเรื่องอายุความขึ้นมา จึงต้องถือว่าปัญหาเรื่องอายุความมิได้เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
of 3