พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3655/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเด้ง: คำฟ้องชอบด้วยกฎหมาย, โจทก์มีอำนาจฟ้อง, ความผิดต่างกรรมต่างวาระ
คำฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้เงินยืม รายละเอียดของสัญญายืมโจทก์จะเสนอต่อศาลในชั้นพิจารณา ซึ่งมูลหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเข้าเรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่าย เป็นการบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่เกี่ยวข้องอันพอทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว หาจำต้องกล่าวถึงรายละเอียดในสัญญากู้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาของศาล ฉะนั้นคำฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์นำคดีฟ้องศาลภายในอายุความฟ้องร้อง ดังนั้น การร้องทุกข์จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงไม่ใช่สาระสำคัญไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด โจทก์มีอำนาจฟ้อง
เมื่อศาลสอบคำให้การจำเลย จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องเท่ากับยอมรับว่าได้ทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์และออกเช็คพิพาทชำระหนี้ดังกล่าวจริง ที่จำเลยอ้างว่ากรณีเป็นที่น่าสงสัยเท่ากับเป็นการโต้เถียงขึ้นมาใหม่ว่าไม่ได้กู้ยืมหรือไม่ได้ออกเช็คพิพาท ย่อมกระทำมิได้เพราะถือว่ามิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
เช็คในคดีนี้ทั้งสี่ฉบับจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายชำระหนี้ตามสัญญากู้ต่างฉบับกัน วันที่สั่งจ่ายในเช็คต่างวันกัน แสดงว่าจำเลยเจตนาสั่งจ่ายเช็คแต่ละฉบับชำระหนี้แต่ละส่วนแยกกัน และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินต่างวันกันจึงเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน หาใช่เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทไม่
ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์นำคดีฟ้องศาลภายในอายุความฟ้องร้อง ดังนั้น การร้องทุกข์จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงไม่ใช่สาระสำคัญไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด โจทก์มีอำนาจฟ้อง
เมื่อศาลสอบคำให้การจำเลย จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องเท่ากับยอมรับว่าได้ทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์และออกเช็คพิพาทชำระหนี้ดังกล่าวจริง ที่จำเลยอ้างว่ากรณีเป็นที่น่าสงสัยเท่ากับเป็นการโต้เถียงขึ้นมาใหม่ว่าไม่ได้กู้ยืมหรือไม่ได้ออกเช็คพิพาท ย่อมกระทำมิได้เพราะถือว่ามิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
เช็คในคดีนี้ทั้งสี่ฉบับจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายชำระหนี้ตามสัญญากู้ต่างฉบับกัน วันที่สั่งจ่ายในเช็คต่างวันกัน แสดงว่าจำเลยเจตนาสั่งจ่ายเช็คแต่ละฉบับชำระหนี้แต่ละส่วนแยกกัน และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินต่างวันกันจึงเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน หาใช่เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4023/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็คเพื่อชำระหนี้จริงหรือไม่? การประทับตรา 'เป็นประกัน' ไม่ทำให้เช็คเป็นเช็คเด้ง
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อแลกเปลี่ยนกับเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์ซึ่งถูกธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่จำเลยออกเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโดยอ้างเหตุปฏิเสธว่า ยังรอเรียกเก็บเงินอยู่ โปรดนำมายื่นใหม่และเงินในบัญชีไม่พอจ่ายจำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4(1),(3) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิดเช็คเด้ง & อำนาจฟ้องร้องดำเนินคดี
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534มาตรา 4 บัญญัติว่า "ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฯลฯ เมื่อได้มีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมายถ้าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นผู้ออกเช็คมีความผิด..." ตามบทบัญญัติดังกล่าวการออกเช็คที่จะเป็นความผิดนั้น จะต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วย อันเป็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งเป็นองค์-ประกอบของความผิด การที่โจทก์บรรยายฟ้องมีสาระสำคัญว่า ผู้เสียหายเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทซึ่งจำเลยออกเพื่อชำระหนี้ค่าปุ๋ยเคมีให้แก่ผู้เสียหาย เมื่อเช็คถึงกำหนดผู้เสียหายได้นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า "โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย" เป็นที่เห็นได้ว่า คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงแล้วว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ค่าปุ๋ยเคมีอันเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย คำฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา158 (5) หาเป็นคำฟ้องที่ไม่สมบูรณ์แต่อย่างใดไม่
ย.กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ร่วมลงชื่อในช่องผู้มอบอำนาจพร้อมทั้งประทับตราสำคัญของโจทก์ร่วม แม้ตามหนังสือมอบอำนาจจะไม่มีข้อความระบุว่า ย.มอบอำนาจให้ ป.เป็นผู้มีอำนาจร้องทุกข์และดำเนินคดีแก่จำเลยโดยกระทำในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ร่วมก็ตาม ก็ถือได้ว่าการลงลายมือชื่อดังกล่าวและประทับตราของโจทก์ร่วมมิใช่กระทำในฐานะส่วนตัวแต่อย่างใด การมอบอำนาจให้ร้องทุกข์และดำเนินคดีแก่จำเลยจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจสอบสวนโดยชอบ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ย.กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ร่วมลงชื่อในช่องผู้มอบอำนาจพร้อมทั้งประทับตราสำคัญของโจทก์ร่วม แม้ตามหนังสือมอบอำนาจจะไม่มีข้อความระบุว่า ย.มอบอำนาจให้ ป.เป็นผู้มีอำนาจร้องทุกข์และดำเนินคดีแก่จำเลยโดยกระทำในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ร่วมก็ตาม ก็ถือได้ว่าการลงลายมือชื่อดังกล่าวและประทับตราของโจทก์ร่วมมิใช่กระทำในฐานะส่วนตัวแต่อย่างใด การมอบอำนาจให้ร้องทุกข์และดำเนินคดีแก่จำเลยจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจสอบสวนโดยชอบ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2655-2656/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องผิดฐานเช็คเด้งเมื่อมีส่วนผิดคิดดอกเบี้ยเกินอัตรา โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่โจทก์รับเช็คพิพาทจากช. เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมซึ่งมีดอกเบี้ยที่โจทก์คิดเกินอัตราตามกฎหมายรวมอยู่ด้วยถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้กระทำความผิดในส่วนของดอกเบี้ยที่โจทก์คิดเกินอัตราตามกฎหมายแม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทก็จะถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายไม่ได้โจทก์จึงไม่มีอำนาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2534มาตรา4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4746/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเช็คเด้งต้องระบุหนี้ที่บังคับได้ตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยมีจำเลยลงชื่อสั่งจ่ายชำระหนี้ที่มีอยู่จริงให้โจทก์ แต่ที่โจทก์มิได้ระบุว่าเป็นหนี้ที่บังคับได้ตามกฎหมายด้วย เป็นการบรรยายฟ้องที่ขาดองค์ประกอบของความผิดตามมาตรานี้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและการออกเช็คเด้งเป็นความผิดต่างกรรมกัน โจทก์ฎีกาฟังขึ้น ศาลนับโทษเฉพาะคดีที่มีคำพิพากษาแล้ว
จำเลยหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์ตามที่หลอกลวงจากผู้เสียหายอันเป็นความผิดสำเร็จฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 แล้ว ในวันต่อมาจึงได้ออกเช็คมอบให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชำระหนี้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำต่างหากจากการกระทำอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงในตอนต้น เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 อีกกรรมหนึ่ง
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องกำกวมก็ดี จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี เมื่อฎีกาของจำเลยไม่มีสาระว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)อย่างไร ทั้งจำเลยก็รับสารภาพตามฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นของศาลชั้นต้นหลายคดี แต่ปรากฏจากคำร้องของโจทก์ว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเพียงคดีเดียว จึงนับโทษต่อได้เฉพาะคดีดังกล่าวเท่านั้น.
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องกำกวมก็ดี จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี เมื่อฎีกาของจำเลยไม่มีสาระว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)อย่างไร ทั้งจำเลยก็รับสารภาพตามฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นของศาลชั้นต้นหลายคดี แต่ปรากฏจากคำร้องของโจทก์ว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเพียงคดีเดียว จึงนับโทษต่อได้เฉพาะคดีดังกล่าวเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2990/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดความผิดฐานออกเช็คเด้ง คือสถานที่ตั้งธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่สถานที่ออกเช็ค
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น ความผิดเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ที่ความผิดเกิดขึ้น เมื่อธนาคารซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินตั้งอยู่ที่อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี จึงต้องถือว่าความผิดเกิดขึ้นในท้องที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี หาใช่เกิดขึ้น ณ สถานที่เขียนเช็คสั่งจ่ายเงินไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3795/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องอาญาเช็คเด้งสมบูรณ์ แม้คำขอท้ายฟ้องไม่ระบุมาตรา 3 แต่ระบุในส่วนฐานความผิดชัดเจน
แม้คำขอท้ายคำฟ้องจะระบุอ้างแต่พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 โดยไม่ได้อ้างบทมาตรา 3 ไว้ด้วย แต่โจทก์ก็ได้ระบุไว้ที่หน้า คำฟ้องในช่องข้อหาหรือฐานความผิดว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3และตามพระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 5 มาตราก็มี มาตรา 3 เท่านั้น ที่บัญญัติว่าการกระทำเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ ซึ่งโจทก์ได้บรรยายการกระทำผิดของจำเลยไว้ครบถ้วนตามมาตรา 3 แล้ว จำเลยย่อมเข้าใจดีและไม่หลงต่อสู้ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวย่อมมีผลเท่ากับการอ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)แล้ว จึงเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดความผิดฐานเช็คเด้ง คือ สถานที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่สถานที่ออกหรือนำเช็คเข้า
จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรีให้โจทก์ที่กรุงเทพมหานคร โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีโจทก์ที่ธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ธนาคารดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรี ธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรี ปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนี้ ความผิดเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ที่ความผิดเกิดขึ้น เมื่อธนาคารซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินตั้งอยู่จังหวัดกาญจนบุรีต้องถือว่า เหตุเกิดในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี หาใช่เกิดขึ้น ณ สถานที่เขียนเช็คและสถานที่ตั้งธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีและสถานที่ตั้งธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน เกี่ยวเนื่องกันหลายท้องที่ไม่ แม้ธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีและธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงิน เกี่ยวเนื่องกันหลายท้องที่ไม่ แม้ธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีและธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นของเจ้าของเดียวกันก็ตาม ธนาคารที่นำเช็คเข้าบัญชีหาได้เป็นผู้จ่ายเงินตามเช็คไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนเรียกเก็บเงินตามเช็คให้เท่านั้น เมื่อธนาคารซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินอยู่จังหวัดกาญจนบุรี เหตุจึงเกิดในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี ถือไม่ได้ว่าความผิดเกิดขึ้นที่กรุงเทพมหานครด้วย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2519)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2519)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11-15/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับเช็คที่ชำระหนี้แทนภายหลังเช็คเด้ง ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าซื้อยาให้แก่บริษัท ท. เมื่อเช็คขึ้นเงินไม่ได้เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ม. ผู้จัดการบริษัท ท.ได้เอาเงินส่วนตัวของ ม. ชำระให้บริษัท ท. แทนไปแล้วรับเช็คดังกล่าวมา ดังนี้ม. ได้รับเช็คนั้นมาหลังจากความผิดเกิดขึ้นแล้ว ม. จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจร้องทุกข์หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์ในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค