คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เลื่อนสืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3782/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการต่อสู้คดี – การอนุญาตเลื่อนสืบพยาน – กระบวนการยุติธรรม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ.มาตรา 362 ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าทนายจำเลยมีอาการวิงเวียนศีรษะและอ่อนเพลียไม่สามารถมาศาลได้ โจทก์มิได้คัดค้านอีกทั้งไม่ปรากฏเหตุว่าจำเลยแกล้งประวิงคดี ประกอบกับคดีมีโทษจำคุกและจำเลยให้การปฏิเสธตลอดมา ตามรูปคดีจึงสมควรที่จะให้โอกาสจำเลยได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และศาลชั้นต้นชอบที่จะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปสืบพยานจำเลยในครั้งต่อไปตามที่ได้นัดไว้ก่อนแล้วได้ แต่ศาลชั้นต้นหาได้กระทำไม่ จึงเป็นการที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาดั่งที่ ป.วิ.อ.มาตรา 179 วรรคสองบัญญัติไว้ เมื่อคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยเป็นการไม่ชอบ ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้จำเลยจะให้การปฏิเสธ ก็เป็นการปฏิเสธลอย ๆ โดยไม่ได้นำสืบหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ในชั้นพิจารณา คงมีแต่การซักค้านของทนายจำเลย ระหว่างสืบพยานโจทก์ซึ่งมีน้ำหนักน้อยไม่เพียงพอที่จะรับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้จึงเป็นการวินิจฉัยที่ผิดพลาดต่อความเป็นจริงแห่งคดี เพราะการที่จำเลยไม่ได้สืบพยานจำเลยก็เนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีหาใช่เป็นกรณีที่จำเลยไม่สืบพยานจำเลยไม่
เมื่อศาลฎีกาเห็นเป็นการจำเป็นเพื่อให้คดีได้ดำเนินไปจนสิ้นกระแสความ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ศาลชั้นต้นได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาดังที่ ป.วิ.อ.มาตรา 208 (2) ประกอบด้วยมาตรา 225 บัญญัติให้อำนาจไว้ โดยให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3782/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ปฏิบัติตามกระบวนพิจารณาคดีอาญา การไม่อนุญาตเลื่อนสืบพยานจำเลย ส่งผลต่อสิทธิในการต่อสู้คดี
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ในวันนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าทนายจำเลยมีอาการวิงเวียนศีรษะและอ่อนเพลียไม่สามารถมาศาลได้ โจทก์มิได้คัดค้านอีกทั้งไม่ปรากฏเหตุว่าจำเลยแกล้งประวิงคดี ประกอบกับคดีมีโทษจำคุกและจำเลยให้การปฏิเสธตลอดมา ตามรูปคดีจึงสมควรที่จะให้โอกาสจำเลยได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ และศาลชั้นต้นชอบที่จะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปสืบพยานจำเลยในครั้งต่อไปตามที่ได้นัดไว้ก่อนแล้วได้ แต่ศาลชั้นต้น หาได้กระทำไม่ จึงเป็นการที่ศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 179 วรรคสองบัญญัติไว้ เมื่อคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยเป็นการไม่ชอบ ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่า แม้จำเลย จะให้การปฏิเสธ ก็เป็นการปฏิเสธลอย ๆโดยไม่ได้นำสืบหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ในชั้นพิจารณาคงมีแต่การซักค้านของทนายจำเลย ระหว่างสืบพยานโจทก์ซึ่งมีน้ำหนักน้อยไม่เพียงพอที่จะรับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้จึงเป็นการวินิจฉัยที่ผิดพลาดต่อความเป็นจริงแห่งคดี เพราะการที่จำเลยไม่ได้สืบพยานจำเลยก็เนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีหาใช่ เป็นกรณีที่จำเลยไม่สืบพยานจำเลยไม่ เมื่อศาลฎีกาเห็นเป็นการจำเป็นเพื่อให้คดีได้ดำเนินไปจนสิ้นกระแสความ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ศาลชั้นต้นได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2)ประกอบด้วยมาตรา 225 บัญญัติให้อำนาจไว้ โดยให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6655/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานผู้พิการและการไม่คัดค้านการเลื่อนสืบพยาน
ศาลชั้นต้นให้โจทก์ใช้คำถามนำในการซักถามผู้เสียหายที่เป็นพยานโจทก์ซึ่งเป็นอัมพาตไม่อาจพูดจาหรือเปล่งเสียงได้ แต่ตอบคำถามโดยวิธีพยักหน้า ยักคิ้ว หรือการนิ่งเฉย เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบด้วยป.วิ.พ. มาตรา 118 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15
ทนายจำเลยถามค้านพยานปากผู้เสียหายบ้างแล้ว ผู้เสียหายหลับไป ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า ทนายจำเลยหมดคำถามก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยคัดค้านว่ายังมีคำถามและขอถามค้านต่อไป หรือขอเลื่อนไปถามค้านต่อนัดหน้าก็ได้ เมื่อโจทก์ขอเลื่อนไปสืบพยานที่เหลือนัดหน้าจำเลยก็ไม่ค้าน ศาลรับฟังคำเบิกความของผู้เสียหายได้หาเป็นการขัดต่อกฎหมายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการเลื่อนสืบพยานและการตั้งทนายใหม่ หากมีเหตุจำเป็นสมควร ศาลควรอนุญาตเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
วันนัดสืบพยานจำเลย ทนายคนเดิมของจำเลยขอถอนตัวและจำเลยขอตั้งทนายคนใหม่แทน ศาลชั้นต้นอนุญาต แม้การถอนตัวของทนาย คนเดิมจะเกิดจากการขอของจำเลยหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นสิทธิโดยชอบ ของจำเลยที่จะกระทำได้ และการที่จำเลยจะตั้งผู้ใดเป็นทนายของตนต่อไปก็เป็นสิทธิโดยชอบของจำเลยอีกเช่นกัน ส่วนทนายคนใหม่จะมาศาลในวันนัดนั้นได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องของทนายคนใหม่ จำเลยไม่มี สิทธิหรืออำนาจที่จะบังคับได้ เมื่อทนายคนใหม่ยื่นคำร้องว่ามาศาลในวันนัดนั้นไม่ได้เพราะคิดว่าความที่ศาลอื่นซึ่งนัดไว้ก่อนแล้ว และโจทก์ก็ไม่คัดค้าน ดังนี้ หากศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าเป็นความจริง ก็ ชอบ ที่จะไต่สวนหาความจริงได้ไม่ยาก จึงไม่ชอบที่ศาลชั้นต้น จะ ถือเอา ว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่าทนายคนใหม่ติดว่าความคดีอื่นอยู่ก่อน แล้ว ยัง ขืนตั้งให้เป็นทนายอีกมาเป็นเครื่องชี้ว่าจำเลยจงใจเพื่อ ไม่ให้ มี ทนายมาดำเนินคดีในวันนัดนั้น และการเลื่อนคดีของทนาย คนใหม่ ไม่มี เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีและการไม่อนุญาตเลื่อนสืบพยาน: ศาลชอบธรรมเมื่อจำเลยขาดนัดและไม่นำสืบพยาน
เดิมจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ยื่นคำให้การ ครั้นถึงวันสืบพยานจำเลย จำเลยและทนายก็ไม่มาศาลตามนัด หลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานแล้ว ทนายจำเลยจึงมา ศาลทั้งพยานที่จะนำสืบก็ไม่นำมา ดังนี้พฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลย ประวิงคดี การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าวจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3439/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนสืบพยานซ้ำๆ และความสำคัญของวันนัด ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วให้สืบพยานต่อ
โจทก์นำพยานคือตัวโจทก์มาสืบ แล้วศาลอนุญาตให้เลื่อน ไปสืบพยานโจทก์ให้จำเลยถามค้านในวันที่ 24 มกราคม ถึง วันนัด ทนายโจทก์มาศาลและติดต่อตัวโจทก์ ได้รับแจ้งว่าตัวโจทก์จดวันนัดเป็นวันที่ 25 ทนายโจทก์แถลงให้ศาลทราบถึงเหตุที่พยานมิได้มาศาลและขอเลื่อน ส่วนตัวโจทก์ได้รีบมาศาลภายหลังที่ศาลสั่งงดสืบพยานโจทก์เพียงเล็กน้อย และยื่นคำแถลงให้ทราบถึงเหตุที่มิได้มาทันทีแสดงว่าเกิดจากความผิดพลาด การที่โจทก์มิได้นำพยานอื่นมาด้วย คงเนื่องจากต้องให้จำเลยถามค้านตัวโจทก์ให้เสร็จเสียก่อน ทั้งปรากฏตามบัญชีระบุพยานโจทก์นอกจากตัวโจทก์แล้วเป็นพยานหมายทั้งหมด ดังนี้ สมควรให้โอกาสโจทก์สืบพยานต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตเลื่อนสืบพยานและการไม่คัดค้านคำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดี
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ ให้งดการสืบพยาน ต่อมา 5 วัน จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์มีเวลาคัดค้านคำสั่งระหว่างพิจารณาได้เมื่อโจทก์ไม่คัดค้านไว้โจทก์อุทธรณ์ข้อนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1022/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานโจทก์: ศาลควรอนุญาตเลื่อนได้หากมีเหตุผลสมควร แม้จะมีการเลื่อนหลายนัดแล้ว
ศาลอนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ไปตามความจำเป็นของโจทก์บ้างจำเลยบ้างหลายนัด ครั้นต่อมาโจทก์จำเลยแถลงว่าคดีมีทางตกลงกันได้ขอเลื่อนไปนัดพร้อมกันอีกนัดหนึ่ง ศาลสั่งให้เลื่อนไปนัดพร้อมหรือนัดสืบพยานโจทก์ ครั้งถึงวันนัดโจทก์จำเลยมาศาลแถลงว่าตกลงกันไม่ได้ ศาลจึงดำเนินการสืบพยานโจทก์ไปในวันนั้นเพียงโจทก์อ้างตัวเองปากเดียว ส่วนพยานอื่นไม่มา โจทก์ขอเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อไปในนัดหน้า ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนและงดสืบพยานโจทก์ต่อไปเสีย ดังนี้ แม้จะมีการเลื่อนมาหลายนัดแล้วก็ตามศาลก็ได้อนุญาตโดยเห็นพ้องตามความจำเป็นของโจทก์บ้าง จำเลยบ้าง เฉพาะคราวหลังก่อนนัดที่มีการสืบพยานโจทก์ โจทก์จำเลยขอให้นัดพร้อม แต่ศาลสั่งนัดพร้อมหรือนัดสืบพยานโจทก์เป็นสองกรณีซึ่งไม่แน่ว่าจะได้สืบพยานโจทก์หรือไม่ จะถือว่าเป็นความผิดของโจทก์ที่ไม่ขอหมายเรียกหรือไม่นำพยานมาศาลเสียทีเดียวก็ไม่ถนัด และจำเลยก็มิได้คัดค้าน ทั้งในวันนั้นศาลออกนั่งพิจารณาเมื่อเวลา 15.35 น. สืบตัวโจทก์ปากเดียวก็หมดเวลาหรือเกือบหมดเวลาราชการแล้ว ถ้าพยานโจทก์อื่นมาศาลก็คงต้องเลื่อนไปสืบต่อนัดหน้าอยู่นั่นเอง จึงสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ต่อในนัดหน้าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตเลื่อนการสืบพยานเนื่องจากทนายโจทก์ติดว่าความในคดีอื่น ศาลพิจารณาจากความไม่ประมาทและไม่ได้ประวิงคดี
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนสืบพยานโจทก์ โดยอ้างเหตุว่าติดว่าความในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2634/2509 ซึ่งศาลแพ่งส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลจังหวัดสุรินทร์และนัดไว้ก่อนคดีนี้ จึงไม่สามารถมาว่าความในคดีนี้ได้ จำเลยรับสำเนาคำร้องแล้วไม่คัดค้านในเบื้องต้นจึงรับฟังได้ว่าทนายโจทก์ติดว่าความที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ทนายโจทก์หาได้หลีกเลี่ยงหรือไม่สนใจในคดีนี้ไม่ ทั้งเมื่อศาลกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบแล้ว ทนายโจทก์ยังได้มายื่นระบุพยานและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายเรียกพยานเอกสารมานำสืบในวันเวลาที่ศาลกำหนดไว้ มิได้ละเลยหรือไม่นำพาต่อคดีของโจทก์แต่อย่างใดและไม่ปรากฏว่าทนายโจทก์ดำเนินการในทำนองประวิงคดีให้ชักช้ากรณีจึงมีเหตุอันสมควรอนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตเลื่อนการสืบพยานเมื่อทนายโจทก์ติดว่าความในคดีอื่น ศาลพิจารณาจากความสุจริตและไม่ได้ประวิงคดี
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนสืบพยานโจทก์ โดยอ้างเหตุว่าติดว่าความในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2634/2509 ซึ่งศาลแพ่งส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลจังหวัดสุรินทร์และนัดไว้ก่อนคดีนี้ จึงไม่สามารถมาว่าความในคดีนี้ได้ จำเลยรับสำเนาคำร้องแล้วไม่คัดค้าน ในเบื้องต้นจึงรับฟังได้ว่าทนายโจทก์ติดว่าความที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ทนายโจทก์หาได้หลีกเลี่ยงหรือไม่สนใจในคดีนี้ไม่ ทั้งเมื่อศาลกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบแล้ว ทนายโจทก์ยังได้มายื่นระบุพยานและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายเรียกพยานเอกสารมานำสืบในวันเวลาที่ศาลกำหนดไว้ มิได้ละเลยหรือไม่นำพาต่อคดีของโจทก์แต่อย่างใดและไม่ปรากฏว่าทนายโจทก์ดำเนินการในทำนองประวิงคดีให้ชักช้ากรณีจึงมีเหตุอันสมควรอนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์
of 2