พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียสัญชาติไทยหลังโอนอาณาเขต: กรณีผู้ได้สัญชาติโดยอนุสัญญาและการกลับสู่สัญชาติเดิม
คำแปลหนังสือยืนยันความตกลงด้วยวาจาระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทยกับหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายฝรั่งเศสณกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกา ลงวันที่17พฤศจิกายนค.ศ.1946(พ.ศ.2489)ระบุไว้ในข้อ1ว่า"พลเมืองซึ่งได้สัญชาติไทยโดยอาศัยอนุสัญญาฉบับลงวันที่9พฤษภาคมค.ศ.1941จะได้กลับคืนสู่สัญชาติเดิมของเขาทีเดียวในทันที่ที่การโอนอาณาเขตดังกล่าวข้างต้นเสร็จสิ้นลงพลเมืองซึ่งมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดหรือซึ่งได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมายคงรักษาสัญชาตินี้ไว้"ความตกลงนี้ไม่มีข้อกำหนดให้บุคคลผู้ได้สัญชาติไทยโดยอนุสัญญาดังกล่าวคงมีสัญชาติไทยอยู่ต่อไปหากเดินทางออกจากแขวงจำปาศักดิ์เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการถาวรดังนั้นโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลผู้ได้สัญชาติไทยโดยอนุสัญญาดังกล่าวจึงไม่ใช่บุคคลผู้ได้สัญชาติไทยโดยกำเนิดหรือได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมายจึงกลับคืนสู่สัญชาติเดิมของโจทก์ในทันทีที่การโอนอาณาเขตจังหวัดนครจำปาศักดิ์ให้แก่ประเทศฝรั่งเศสเสร็จสิ้นลงโจทก์จึงไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทยอีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559-1563/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว แม้พ้นกำหนด 30 วันจากวันที่เสียสัญชาติไทย นายทะเบียนต้องพิจารณาออกใบสำคัญ
จำเลยซึ่งเป็น นายทะเบียนคนต่างด้าว มีหน้าที่พิจารณาและออก ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวในกรณีที่คำขอของโจทก์เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมายเมื่อมิได้ออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวดังกล่าวทั้งที่โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอต่อจำเลยนับถึงวันฟ้องเป็นเวลา2ปีเศษถือว่าจำเลยปฏิเสธไม่ออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้เป็นการ โต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา55แล้วจำเลยจะอ้างว่ากองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรยังไม่แจ้งให้จำเลยออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแก่โจทก์จึงออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไม่ได้เพื่อที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหาได้ไม่เพราะกองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรมิใช่นายทะเบียนผู้มีอำนาจหน้าที่ออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว พระราชบัญญัติ การทะเบียนคนต่างด้าวฯ มาตรา8,21บังคับให้คน สัญชาติไทย ผู้เสียไปซึ่งสัญชาติไทยกลายเป็น คนต่างด้าวต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวจากนายทะเบียนในท้องที่ที่ตนอยู่ภายใน30วันนับแต่วันที่ตนได้รู้หรือควรรู้ว่าตนได้เสียไปซึ่งสัญชาติไทยมิฉะนั้นย่อมเป็นความผิดมิใช่เป็นบทบัญญัติจำกัดสิทธิของบุคคลดังกล่าวว่าหากไม่ไปยื่นคำขอภายในกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วจะไม่มีสิทธิขอให้ออก ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว แม้พ้นกำหนด 30 วันหลังเสียสัญชาติไทย ยังคงมีสิทธิ
แม้การที่โจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าวต้องมีใบสำคัญประจำตัวตามบทบัญญัติของ พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 ไม่ได้ยื่นคำร้องขอใบสำคัญประจำตัวต่อจำเลยภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้รู้หรือควรรู้ว่าโจทก์ได้เสียไปซึ่งสัญชาติไทยตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 8ของพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 อันทำให้โจทก์ต้องได้รับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 21ของพระราชบัญญัตินั้นแล้วก็ตาม แต่โจทก์ก็ยังมีหน้าที่ต้องดำเนินการเพื่อให้โจทก์มีใบสำคัญประจำตัวต่อไปแม้จะพ้นกำหนด 30 วัน ดังกล่าว มิฉะนั้นแล้วโจทก์ย่อมมีความผิดตามมาตรา 20 ของ พระราชบัญญัติดังกล่าวโจทก์จึงมีสิทธิให้จำเลยออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้โจทก์ได้(เทียบ ฎ.3454-3458/2536)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว แม้พ้นกำหนด 30 วันจากวันที่ทราบการเสียสัญชาติไทย
แม้โจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอใบสำคัญประจำตัวต่อจำเลยภายในกำหนด30 วัน นับแต่วันที่ได้รู้หรือควรรู้ว่าโจทก์ได้เสียไปซึ่งสัญชาติไทยตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 8 ของพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 อันทำให้โจทก์ต้องได้รับโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 21 ก็ตาม แต่โจทก์ก็ยังมีหน้าที่ต้องดำเนินการเพื่อให้โจทก์มีใบสำคัญประจำตัวต่อไป เพราะหากโจทก์ไม่มีใบสำคัญประจำตัวแล้วโจทก์ย่อมมีความผิดตามมาตรา 20 ของพระราชบัญญัติ ดังกล่าว ดังนั้น แม้พ้นกำหนด 30 วันนับแต่วันที่โจทก์ได้รู้หรือควรรู้ว่าโจทก์ได้เสียไปซึ่งสัญชาติไทย โจทก์ก็ยังมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้จำเลยออกใบสำคัญประจำตัวคือหนังสือประจำตัวคนต่างด้าวให้แก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียสัญชาติไทยจากการถือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และผลของการต่ออายุทะเบียน
แม้โจทก์จะมีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมีบิดาเป็นคนต่างด้าวแต่โจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวซึ่งนายทะเบียนออกให้ตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าวพ.ศ.2479 มาตั้งแต่ พ.ศ.2489 และต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวติดต่อกันตลอดมา โจทก์จึงต้องเสียสัญชาติไทยตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508
มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้การเสียสัญชาติไทยมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้มีผลเฉพาะตัวเท่านั้นเป็นบทบัญญัติในเรื่องผลของการเสียสัญชาติไทยว่ามีผลเมื่อใดเป็นคนละเรื่องกับการเสียสัญชาติไทยอันจะต้องพิจารณาตามมาตรา 21 เมื่อโจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวแล้ว โจทก์จึงต้องเสียสัญชาติไทยไปตามมาตรา 21 แต่การเสียสัญชาติไทยของโจทก์จะมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
เมื่อโจทก์บรรลุนิติภาวะไปก่อนพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ใช้บังคับมาตรา 24ย่อมใช้บังคับไม่ได้ในกรณีของโจทก์
มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้การเสียสัญชาติไทยมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้มีผลเฉพาะตัวเท่านั้นเป็นบทบัญญัติในเรื่องผลของการเสียสัญชาติไทยว่ามีผลเมื่อใดเป็นคนละเรื่องกับการเสียสัญชาติไทยอันจะต้องพิจารณาตามมาตรา 21 เมื่อโจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวแล้ว โจทก์จึงต้องเสียสัญชาติไทยไปตามมาตรา 21 แต่การเสียสัญชาติไทยของโจทก์จะมีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
เมื่อโจทก์บรรลุนิติภาวะไปก่อนพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ใช้บังคับมาตรา 24ย่อมใช้บังคับไม่ได้ในกรณีของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียสัญชาติไทยโดยสมัครใจของบุคคลเกิดในราชอาณาจักรที่มีบิดาเป็นชาวต่างชาติ
โจทก์เกิดในราชอาณาจักร โดยบิดาเป็นคนต่างด้าว ถือใบประจำตัวคนต่างด้าวที่มารดาทำให้ตั้งแต่อายุ 14 ปีและโจทก์ต่ออายุมา 30 ปี โดยสมัครใจ โจทก์เสียสัญชาติไทยตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 มาตรา 21
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเกิดในไทยและสัญชาติ: การเสียสัญชาติด้วยการถือเอกสารคนต่างด้าว
ผู้ร้องเกิดในประเทศไทย จึงได้สัญชาติไทยตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2408 มาตรา 7(3) การที่ผู้ร้องซึ่งมีสัญชาติเป็นไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทย โดยมีบิดาเป็นคนต่างด้าว จะเสียสัญชาติไทยตามความในมาตรา 21 ก็ต่อเมื่อได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวแล้ว แม้ผู้ร้องได้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรโดยขอรับใบแสดงหลักฐานการแจ้งออกเพื่อเข้ามาในราชอาณาจักร (แบบ ต.ม.1) ซึ่งเป็นแบบที่เจ้าหน้าที่จะออกให้แก่ผู้ขอที่เป็นคนต่างด้าว แต่เอกสารดังกล่าวนี้หาใช่ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำคนต่างด้าวไม่ ผู้ร้องจึงไม่เสียสัญชาติไทย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้สัญชาติไทยโดยการเกิดในไทย และผลของการเดินทางออกนอกประเทศโดยใช้แบบ ต.ม.13
ผู้ร้องเกิดในประเทศไทยจากบิดาซึ่งเป็นคนต่างด้าว ได้สัญชาติไทยมารดาพาออกไปนอกราชอาณาจักรโดยแสดงหลักฐานการแจ้งออกเพื่อกลับเข้ามาตามแบบ ต. มาตรา13 ไม่ใช่ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวผู้ร้องไม่เสียสัญชาติไทย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียสัญชาติไทยจากใบสำคัญคนต่างด้าว แม้ไม่ได้สมัครใจแต่ยังคงถือครองและใช้สิทธิประโยชน์
โจทก์ได้สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักร มีบิดาเป็นคนต่างด้าวและได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแต่ พ.ศ.2491 แล้ว ขณะฟ้องก็ยังถือใบสำคัญดังกล่าวอยู่ จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 โจทก์จึงเสียสัญชาติไทยไปโดยผลแห่งกฎหมาย
แม้บิดาโจทก์เป็นผู้จัดการขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาให้โจทก์เพื่อไปศึกษายังต่างประเทศ แต่โจทก์ก็ไม่ได้ไปยังคงถือใบสำคัญต่อมา โจทก์ได้ไปขอเปลี่ยนสมุดใบสำคัญใหม่ใน พ.ศ.2498 ขอต่ออายุใบสำคัญมาจนถึง พงศ.2508 อันเป็นเวลาภายหลังจากโจทก์ขอกลับคืนสัญชาติไทยไม่ได้ผลแล้ว จึงไม่ขอต่ออายุใบสำคัญอีก การได้ใบสำคัญทำให้โจทก์ไม่ต้องเข้าตรวจคัดเลือกเพื่อเป็นทหาร ได้ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบสำคัญเมื่อเข้าทำงานเป็นลูกจ้างสถานทูต แจ้งต่อมหาวิทยาลัยตอนเข้าศึกษาว่าเป็นคนสัญชาติอังกฤษ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์สมัครใจขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเป็นคนสัญชาติอังกฤษ
แม้บิดาโจทก์เป็นผู้จัดการขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาให้โจทก์เพื่อไปศึกษายังต่างประเทศ แต่โจทก์ก็ไม่ได้ไปยังคงถือใบสำคัญต่อมา โจทก์ได้ไปขอเปลี่ยนสมุดใบสำคัญใหม่ใน พ.ศ.2498 ขอต่ออายุใบสำคัญมาจนถึง พงศ.2508 อันเป็นเวลาภายหลังจากโจทก์ขอกลับคืนสัญชาติไทยไม่ได้ผลแล้ว จึงไม่ขอต่ออายุใบสำคัญอีก การได้ใบสำคัญทำให้โจทก์ไม่ต้องเข้าตรวจคัดเลือกเพื่อเป็นทหาร ได้ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบสำคัญเมื่อเข้าทำงานเป็นลูกจ้างสถานทูต แจ้งต่อมหาวิทยาลัยตอนเข้าศึกษาว่าเป็นคนสัญชาติอังกฤษ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์สมัครใจขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเป็นคนสัญชาติอังกฤษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียสัญชาติไทยโดยผลของกฎหมายจากการถือใบสำคัญคนต่างด้าว แม้จะไม่ได้สมัครใจรับแต่มีพฤติการณ์แสดงเจตนา
โจทก์ได้สัญชาติไทยโดยการเกิดในราชอาณาจักร มีบิดาเป็นคนต่างด้าว และได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาแต่ พ.ศ.2491 แล้ว ขณะฟ้องก็ยังถือใบสำคัญดังกล่าวอยู่จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 โจทก์จึงเสียสัญชาติไทยไปโดยผลแห่งกฎหมาย
แม้บิดาโจทก์เป็นผู้จัดการขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาให้โจทก์เพื่อไปศึกษายังต่างประเทศ แต่โจทก์ก็ไม่ได้ไป ยังคงถือใบสำคัญต่อมา โจทก์ได้ไปขอเปลี่ยนสมุดใบสำคัญใหม่ใน พ.ศ.2498 ขอต่ออายุใบสำคัญมาจนถึง พ.ศ.2508 อันเป็นเวลาภายหลังจากโจทก์ขอกลับคืนสัญชาติไทยไม่ได้ผลแล้ว จึงไม่ขอต่ออายุใบสำคัญอีก การได้ใบสำคัญทำให้โจทก์ไม่ต้องเข้าตรวจคัดเลือกเพื่อเป็นทหารได้ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบสำคัญเมื่อเข้าทำงานเป็นลูกจ้างสถานทูตแจ้งต่อมหาวิทยาลัยตอนเข้าศึกษาว่าเป็นคนสัญชาติอังกฤษ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์สมัครใจขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเป็นคนสัญชาติอังกฤษ
แม้บิดาโจทก์เป็นผู้จัดการขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมาให้โจทก์เพื่อไปศึกษายังต่างประเทศ แต่โจทก์ก็ไม่ได้ไป ยังคงถือใบสำคัญต่อมา โจทก์ได้ไปขอเปลี่ยนสมุดใบสำคัญใหม่ใน พ.ศ.2498 ขอต่ออายุใบสำคัญมาจนถึง พ.ศ.2508 อันเป็นเวลาภายหลังจากโจทก์ขอกลับคืนสัญชาติไทยไม่ได้ผลแล้ว จึงไม่ขอต่ออายุใบสำคัญอีก การได้ใบสำคัญทำให้โจทก์ไม่ต้องเข้าตรวจคัดเลือกเพื่อเป็นทหารได้ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบสำคัญเมื่อเข้าทำงานเป็นลูกจ้างสถานทูตแจ้งต่อมหาวิทยาลัยตอนเข้าศึกษาว่าเป็นคนสัญชาติอังกฤษ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์สมัครใจขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเป็นคนสัญชาติอังกฤษ