คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุฉกรรจ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1824/2545 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษฐานลักทรัพย์มีเหตุฉกรรจ์ แม้โจทก์มิได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขได้ตามกฎหมาย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 มิได้รับของโจร หากแต่ร่วมกับ ว. ลักรถจักรยานยนต์ของกลางโดยมีเหตุฉกรรจ์ตามฟ้องโจทก์ แม้โจทก์ไม่ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขบทลงโทษ จำเลยที่ 1 ในความผิดตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏการพิจารณาเสียให้ถูกต้องได้ตามป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม และกรณีมิใช่การพิพากษาหรือสั่งเกินคำขอ เพราะโจทก์ได้บรรยายฟ้องและร้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานลักทรัพย์มีเหตุฉกรรจ์ หรือความผิดฐานรับของโจรฐานหนึ่งฐานใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8524/2544 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจากความผิดฐานกระทำชำเราโดยมีเหตุฉกรรจ์เป็นความผิดฐานเดิมที่ไม่มีเหตุฉกรรจ์ และข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 277 วรรคสาม ลงโทษจำคุก 25 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 277 วรรคสอง ลงโทษจำคุก 7 ปี เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จากความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์ ขณะกระทำผิดจำเลย มีมีดเป็นอาวุธ เป็นความผิดฐานเดิมไม่ประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์ คือขณะกระทำผิดจำเลยไม่มีอาวุธ ทั้งความผิดทั้ง สองวรรคต่างเป็นความผิดอันยอมความกันไม่ได้ จึงเป็นกรณีแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 5 ปี ที่โจทก์ฎีกาเพื่อให้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าขณะกระทำความผิดจำเลยมีมีดเป็นอาวุธหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม มิให้โจทก์ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8524/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากความผิดฐานกระทำชำเราเด็กโดยมีเหตุฉกรรจ์เป็นไม่ฉกรรจ์ และข้อจำกัดในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม ลงโทษจำคุก 25 ปีศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสอง ลงโทษจำคุก 7 ปีจึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้จากความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์คือขณะกระทำผิดจำเลยมีมีดเป็นอาวุธเป็นความผิดฐานเดิมโดยไม่ประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์คือขณะกระทำผิดจำเลยไม่มีอาวุธทั้งความผิดทั้งสองวรรคต่างก็เป็นความผิดอันยอมความกันไม่ได้จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 แก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 5 ปี คดีต้องห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4451/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขโทษจากความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายโดยมีเหตุฉกรรจ์ เป็นความผิดฐานเดิมโดยไม่มีเหตุฉกรรจ์ ทำให้ฎีกาต้องห้าม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคสอง ลงโทษจำคุก 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษา แก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคแรก เป็นการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จาก ความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้น ถึงแก่ความตายโดยประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์คือกระทำโดยทรมาน และทารุณโหดร้ายมาเป็นความผิดฐานเดิมโดยไม่ประกอบด้วย เหตุฉกรรจ์ และแก้โทษที่ลงจาก 6 ปี เป็น 5 ปี จึงเป็นกรณี ที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำเลยจำคุกไม่เกิน ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไป ถือเป็นเหตุฉกรรจ์ตามกฎหมาย
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กไปจอดท้ายรถจี๊ปของผู้เสียหาย เห็นมีถังน้ำมันอยู่ท้ายรถ จำเลยกับพวกจึงร่วมกันลักถังน้ำมันจากท้ายรถจี๊ปดังกล่าวนำมาไว้ที่รถจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไป ต้องด้วยเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2521)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1712/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไปเข้าข่ายเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กไปจอดท้ายรถจี๊ปของผู้เสียหายเห็นมีถังน้ำมันอยู่ท้ายรถ จำเลยกับพวกจึงร่วมกันลักถังน้ำมันจากท้ายรถจี๊ปดังกล่าวนำมาไว้ที่รถจำเลย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาเอาทรัพย์ไป ต้องด้วยเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ทวิ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2521)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปล้นทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับการฆ่าเพื่อปกปิดความผิด การกระทำต่อเนื่องถือเป็นเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340
คนร้าย 5 - 6 คน ใช้ปืนขู่คนขับรถไม่ให้สู้ เอาผ้ามัดมือไพล่หลังทั้งสองคน แล้วพาขึ้นไปนั่งที่กะบะท้ายรถ คนร้ายเอาปืนจี้คุมไว้และขับรถแล่นออกจากหมู่บ้าน ค. ไปถึงถนนเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรแล้วขับไปตามถนนนั้นและทางอีกสายหนึ่งเป็นระยะทางประมาณ10 กิโลเมตรหรือประมาณ 20 นาที แล้วจึงหยุดรถและถอยรถเข้าไปในป่าข้างทาง ต่อจากนั้นก็พาคนขับรถลงเดินไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จึงยิงและเชือดคนขับรถคันหนึ่งถึงแก่ความตาย แล้วคนร้ายก็เอารถไป แม้การปล้นนี้จะได้เริ่มขึ้นที่หมู่บ้าน ค. แต่การที่คนร้ายพาคนขับรถทั้งสองไปนั่งที่กะบะท้ายรถทั้งๆ ที่ยังถูกมัด และคนร้ายใช้ปืนจี้คุมตัวให้นั่งไปในรถเช่นนั้น เป็นการขู่เข็ญว่าจะกระทำร้ายเพื่อความปลอดภัยของคนร้ายในการปล้นทรัพย์อยู่ตลอดเวลาที่คนขับรถนั่งไปกับคนร้าย จึงมีการกระทำในการปล้นทรัพย์อยู่เรื่อย เมื่อคนร้ายหยุดรถพาคนขับรถเดินเข้าป่าไปฆ่าในทันทีนั้นก็เพื่อจะปกปิดการกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ การฆ่าจึงเป็นส่วนหนึ่งของการปล้นทรัพย์จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานลักทรัพย์: เลือกใช้บทลงโทษเบากว่าเมื่อกฎหมายใหม่ไม่ถือเป็นเหตุฉกรรจ์
เหตุเกิดในขณะใช้กฎหมายลักษณะอาญา จำเลยทั้ง 4 คน สมคบกันลักของใช้สำหรับราชการ และลักในเวลาค่ำคืน แต่ประมวลกฎหมายอาญา ม.335 มิได้บัญญัติว่าการลักของใช้ในราชการเป็นเหตุฉกรรจ์ของการลักทรัพย์ จึงลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. 294 (4) ไม่ได้ (เทียบฎีกาที่ 535/2500)
แต่ว่าโดยที่การกระทำของจำเลยยังเป็นเหตุฉกรรจ์ ของการลักทรัพย์อยู่อีก 2ประการคือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่งประมวลกฎหมาย ม. 335 ยังบัญญัติไว้ให้เป็นเหตุฉกรรจ์อยู่ในอนุมาตรา (1) และ (7) ซึ่งตรงกับกฎหมายลักษณะอาญา ม.293(1) และ (11) และโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. 293 เบากว่าโทษในประมวลกฎหมายอาญา ม.335 เช่นนี้ ต้องวางบทลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา ม. 293 (1) และ (11)
ขณะนี้ผลแห่งการตรวจสอบด้วยเครื่องจับเท็จ ยังมิใช่เป็นพยานหลักฐานที่ศาลยุติธรรมจะรับฟังเป็นยุติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานลักทรัพย์: การปรับบทลงโทษเมื่อกฎหมายใหม่ไม่ถือว่าการลักของใช้ราชการเป็นเหตุฉกรรจ์
เหตุเกิดในขณะใช้กฎหมายลักษณะอาญา จำเลยทั้ง 4 คนสมคบกันลักของใช้สำหรับราชการ และลักในเวลาค่ำคืน แต่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 มิได้บัญญัติว่าการลักของใช้ในราชการเป็นเหตุฉกรรจ์ของการลักทรัพย์ จึงลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294(4) ไม่ได้(เทียบฎีกาที่ 535/2500) แต่ว่าโดยที่การกระทำของจำเลยยังเป็นเหตุฉกรรจ์ของการลักทรัพย์อยู่อีก 2 ประการ คือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปซึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ยังบัญญัติไว้ให้เป็นเหตุฉกรรจ์อยู่ในอนุมาตรา (1) และ (7) ซึ่งตรงกับกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293(1) และ (11) และโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293 เบากว่าโทษในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 เช่นนี้ ต้องวางบทลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 293(1) และ(11)
ขณะนี้ผลแห่งการตรวจสอบด้วยเครื่องจับเท็จ ยังมิใช่เป็นพยานหลักฐานทีศาลยุติธรรมจะรับฟังเป็นยุติ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์: สิ่งที่ใช้บรรจุทรัพย์ต้องมั่นคงถาวร จึงจะถือเป็นเหตุฉกรรจ์
การลักสิ่งที่ใช้บรรจุทรัพย์อันเป็นเหตุฉกรรจ์อย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้โทษหนักขึ้นตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 293(5) นั้นต้องเป็นสิ่งที่ใช้บรรจุทรัพย์เพื่อเก็บรักษาไว้อย่างมั่นคงตามปกติย่อมยากแก่การที่จะพาไป เช่น ตู้หรือกำปั่นเหล็ก เพียงแต่เป็นกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าเสื่อ หาได้อยู่ในความหมายแห่งข้อนี้ไม่
of 2