คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แจ้งผล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5001/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้อง: ศาลต้องแจ้งผลการส่งหมายข้ามเขตแก่จำเลยก่อนพิจารณาว่าทิ้งฟ้องหรือไม่
จำเลยทั้งห้ายื่นอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีในชั้นอุทธรณ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้นำหมายนัด สำเนาอุทธรณ์ และสำเนาคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีไปส่งให้โจทก์แต่ส่งไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า รอจำเลยทั้งห้าแถลง โดยมิได้กำหนดระยะเวลาให้จำเลยทั้งห้านำส่งสำเนาอุทธรณ์หรือให้จำเลยทั้งห้าแถลงหากส่งไม่ได้ เมื่อกรณีเป็นหมายข้ามเขตซึ่งศาลเป็นผู้ส่งเอง และศาลชั้นต้นมิได้แจ้งผลการส่งหมายให้จำเลยทั้งห้าทราบจำเลยทั้งห้าย่อมไม่มีทางทราบถึงผลการส่งหมายดังกล่าว การที่จำเลยทั้งห้ามิได้ยื่นคำแถลงให้ดำเนินการต่อไป จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งห้าไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดอันจะเป็นการทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2627/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายข้ามเขตและการแจ้งผลการส่งให้จำเลยเพื่อดำเนินคดีต่อไป ศาลฎีกาตัดสินว่าการไม่แจ้งผลการส่งหมายทำให้จำเลยไม่ทราบ และไม่ถือว่าทิ้งฟ้อง
ศาลจังหวัดสมุทรปราการสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย โดยให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ภายใน 7 วัน หากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน 15 วัน คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดให้จำเลยเป็นผู้ส่งสำเนาอุทธรณ์ ปรากฏว่าโจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการจึงมีหนังสือแจ้งให้ศาลแพ่งกรุงเทพใต้สั่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ ต่อมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้แจ้งผลการส่งหมายมาที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการว่าส่งให้ไม่ได้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการสั่งว่ารอจำเลยแถลง ดังนี้ เป็นกรณีที่จำเลยมิได้เป็นผู้นำส่งแต่เป็นการส่งหมายข้ามเขตที่ศาลเป็นผู้ส่งเอง เมื่อศาลจังหวัดสมุทรปราการมิได้แจ้งผลการส่งหมายให้จำเลยทราบจำเลยย่อมไม่มีทางทราบถึงผลการส่งหมายดังกล่าว การที่จำเลยมิได้ยื่นคำแถลงให้ดำเนินการต่อไป จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) อันจะถือเป็นการทิ้งฟ้องแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5397/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายนัดข้ามเขตและการทิ้งฟ้อง: ศาลต้องแจ้งผลการส่งหมายให้โจทก์ทราบก่อนพิจารณาว่าทิ้งฟ้องหรือไม่
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยภายใน 7 วัน หากส่งไม่ได้ให้โจทก์ภายใน 7 วัน นับแต่วันส่งไม่ได้มิฉะนั้นจะถือว่าทิ้งฟ้องเป็นการสั่งให้โจทก์เป็นผู้นำส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องแต่ปรากฏว่าคดีนี้ จำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแขวงนครปฐม ศาลชั้นต้นคือศาลแขวงพระนครใต้จึงมีหนังสือแจ้งให้ศาลแขวงนครปฐมให้ดำเนินการส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยทั้งสองแทน ต่อมาศาลแขวงนครปฐมได้แจ้ง ผลการส่งหมายมายังศาลชั้นต้นว่า ส่งให้ไม่ได้ ศาลชั้นต้นได้สั่งว่า รอโจทก์แถลง ดังนี้จึงเป็นการแสดงว่าโจทก์มิได้เป็นผู้นำส่ง หากแต่เป็นการส่งหมายข้ามเขตซึ่งศาลเป็นผู้ส่งเอง เมื่อศาลชั้นต้นมิได้แจ้งผลการส่งหมายดังกล่าว ให้โจทก์ทราบ โจทก์ย่อมไม่มีทางทราบถึงผลการส่งหมายดังกล่าวการที่โจทก์มิได้ยื่นคำแถลงให้ดำเนินการต่อไปจึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่ได้ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดอันเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2816/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายข้ามเขตศาลและการแจ้งผลการส่งหมายต่อโจทก์ เพื่อให้โจทก์ดำเนินการตามคำสั่งศาลภายในกำหนดเวลา
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์และให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองภายใน15วันหากส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงภายใน15วันนับแต่วันส่งไม่ได้มิฉะนั้นถือว่าทิ้งอุทธรณ์ปรากฎว่าจำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นจึงมีหนังสือแจ้งให้ศาลที่จำเลยทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแทนการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งหมายข้ามเขตดังกล่าวจึงเป็นการแสดงว่าโจทก์มิได้เป็นผู้นำส่งแต่เป็นการส่งหมายข้ามเขตศาลซึ่งศาลเป็นผู้ส่งเองเมื่อส่งไม่ได้และศาลชั้นต้นมิได้แจ้งผลการส่งหมายให้โจทก์ทราบโจทก์ย่อมไม่มีทางทราบถึงผลการส่งหมายดังกล่าวการที่โจทก์มิได้ยื่นคำแถลงให้ดำเนินการต่อไปจึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่ได้ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา174(2)และจะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งสำเนาคำอุทธรณ์และวันนัดฟังคำพิพากษาแก่โจทก์ร่วมที่ศาลอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วม
ในคดีที่ศาลอนุญาตให้ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมแล้วโจทก์ร่วมและพนักงานอัยการต่างมีฐานะเป็นโจทก์ด้วยกัน เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์ การที่ศาลชั้นต้นเพียงแต่สั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้พนักงานอัยการโจทก์ โดยไม่ได้สั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ร่วมด้วย และศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวไป จึงเป็นการไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 200 อีกทั้งการที่ศาลชั้นต้นมิได้แจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ร่วมทราบด้วยก็ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 182 ประกอบด้วยมาตรา 215 ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ปฏิบัติเสียให้ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2028/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์ที่มิได้แจ้งผลให้โจทก์ทราบ ไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในอุทธรณ์ของโจทก์ในวันเดียวกับวันที่โจทก์ยื่นอุทธรณ์ว่า "รับเป็นอุทธรณ์ของโจทก์ สำเนาให้จำเลยแก้ใน15 วัน โดยให้โจทก์ส่งภายใน 7 วัน หากส่งไม่ได้ให้แถลงภายใน7 วันนับแต่วันส่งไม่ได้" ต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงว่า จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแพ่งธนบุรีขอให้ศาลชั้นต้นมีหนังสือไปยังศาลแพ่งธนบุรีเพื่อดำเนินการส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลย โดยโจทก์แนบตั๋วแลกเงินไปรษณีย์มาพร้อมคำแถลง ศาลชั้นต้นจัดการให้ ต่อมาศาลแพ่งธนบุรีได้มีหนังสือแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่าได้จัดการส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลยแล้ว แต่ส่งไม่ได้พร้อมกับส่งหลักฐานรายงานการส่งหมายของเจ้าพนักงานให้ศาลชั้นต้นทราบด้วย ศาลชั้นต้นรับทราบแล้วมีคำสั่งอีกว่า "ให้โจทก์แถลงภายใน7 วัน" คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นมีความหมายว่าโจทก์ต้องทราบถึงผลของการส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ด้วยว่าส่งให้จำเลยไม่ได้แต่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นยังไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่าเจ้าพนักงานเดินหมายของศาลแพ่งธนบุรีส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีโอกาสทราบถึงการส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลย ดังนั้นแม้โจทก์มิได้แถลงให้ศาลชั้นต้นทราบตามเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2808-2812/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งผลการพิจารณาคำร้องขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ไม่ถือเป็นการโต้แย้งสิทธิ ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์กล่าวในคำฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ปฏิบัติราชการแทนจำเลยที่ 1ได้รับคำร้อง ของ โจทก์ทั้งห้าไว้ ต่อมาจำเลยที่ 2 แจ้งแก่ น.ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ทั้งห้าว่า ยังไม่สามารถออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้แก่โจทก์ทั้งห้าได้ เนื่องจากจะต้องส่งเรื่องไปให้กองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรพิจารณาก่อนได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป ดังนี้ แสดงว่า จำเลยที่ 2ได้ปฏิบัติตามหน้าที่โดยถูกต้องแล้ว แต่ยังไม่อาจดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ของโจทก์ทั้งห้าในทันทีได้ ก็เพราะกำลังรอการพิจารณาสั่งการจากทางราชการตามสายงานการบังคับบัญชาก่อนดังนี้ ตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งห้าก็ปรากฏแล้วว่า จำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือได้กระทำการอย่างใดอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งห้า โจทก์ทั้งห้าจึงไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4400/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องที่โจทก์ไม่ได้นำส่งเอง ศาลต้องแจ้งผลการส่งให้โจทก์ทราบก่อนจะถือว่าทิ้งฟ้อง
ในวันที่โจทก์ยื่นคำฟ้องศาลชั้นต้นมิได้สั่งให้โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลย แต่มีคำสั่งว่า รับคำฟ้องหมายส่งสำเนาให้จำเลย ถ้าส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันส่งไม่ได้ หากไม่แถลงให้ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง คำสั่งดังกล่าวมีความหมายว่าโจทก์ได้ทราบถึงผลการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องในวันส่งนั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยโจทก์ไม่ได้นำส่ง แล้วรายงานว่าส่งไม่ได้ ศาลชั้นต้นสั่งในรายงานว่า "รอโจทก์แถลง" โดยไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่าส่งไม่ได้ โจทก์ย่อมไม่มีโอกาสทราบถึงผลการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) อันจะเป็นการทิ้งฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2673/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การแจ้งผลการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งของหน่วยงานเป็นสำคัญในการเริ่มนับอายุความ
รายงานที่เสนอให้อธิบดีกรมทางหลวงโจทก์ทราบว่า จำเลยขับรถวิทยุออกตรวจแล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำได้รับความเสียหาย ได้ตั้งกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งแล้วยังถือไม่ได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อคณะกรรมการสอบสวนมีความเห็นว่าอุบัติเหตุเกิดจากเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด แม้อธิบดีฯ จะเห็นพ้องด้วย แต่ความเห็นก็ยังไม่เป็นที่ยุติ จะต้องเสนอให้กระทรวงการคลังวินิจฉัยชี้ขาดต่อไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง เมื่อกรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยกระทำละเมิดต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน และแจ้งให้อธิบดีฯ ทราบในวันใด ถือได้ว่าอธิบดีฯ ทราบเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้พึงใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ได้ทราบนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายเรียกและการแจ้งผลการส่ง: ศาลต้องแจ้งผลการส่งหมายเรียกให้โจทก์ทราบก่อนสั่งทิ้งฟ้อง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งในวันรับคำฟ้องของโจทก์ว่า "ถ้าส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 7 วันนับแต่วันส่งไม่ได้" มีความหมายว่า โจทก์ได้ทราบถึงผลการส่งหมายในวันส่งนั้น ปรากฏว่าศาลยังมิได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่าส่งหมายเรียกให้จำเลยไม่ได้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) อันจะเป็นการทิ้งฟ้อง
of 2