คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แต่งตั้งทนาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 15 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3428/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายระยะเวลาอุทธรณ์: กรณีพฤติการณ์พิเศษและการแก้ไขข้อบกพร่องการแต่งตั้งทนาย
ส. ทนายจำเลยเคยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ก่อนครบกำหนดอุทธรณ์ต่อศาลชั้นต้น 2 ครั้ง ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตทั้งสองครั้งมาแล้ว ต่อมาเมื่อ ส. ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา จึงมอบหมายให้ ท. เป็นทนายว่าความแทนจำนวนหลายคดี จำเลยเคยไปพบ ท. เพื่อปรึกษาคดี 2 ครั้ง โดย ท. เข้าใจผิดว่าได้รับแต่งตั้งเป็นทนายความของจำเลยแล้ว แสดงว่าจำเลยมีเจตนาแต่งตั้ง ท. เป็นทนายความของจำเลยมาตั้งแต่ก่อนหน้า ท. ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยยื่นใบแต่งทนายความฉบับใหม่ให้ ท. เป็นทนายความของจำเลย และศาลชั้นต้นได้รับใบแต่งทนายความฉบับใหม่ไว้แล้ว ถือว่าจำเลยได้แก้ไขข้อบกพร่องที่ไม่ถูกต้องนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7903/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายความไม่ถูกต้องตามกระบวนการ แต่ศาลไม่จำเป็นต้องแก้ไขเมื่อมีการแต่งตั้งทนายภายหลัง
การที่ ธ.ลงลายมือชื่อในช่องผู้อุทธรณ์ในฐานะทนายจำเลยโดยไม่ปรากฏว่ามีใบแต่งทนายความในสำนวน คำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (7) ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยส่งขึ้นไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 4 ต้องถือว่าศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 208 (2) ประกอบมาตรา 225 แต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้แต่งตั้ง ธ. เป็นทนายจำเลยให้มีอำนาจอุทธรณ์และฎีกาแทนจำเลยก่อนยื่นฎีกาฉบับนี้ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องสั่งแก้ไขและถือว่าจำเลยยื่นคำฟ้องอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยชอบแล้ว และเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทรธรณ์ภาค 4 พิจารณาพิพากษาใหม่เพื่อให้เป็นไปตามลำดับชั้นศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งคำร้องถอนทนาย และสิทธิในการแต่งตั้ง/ถอนทนายเมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณา
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และได้ส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์คดีจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ศาลชั้นต้นจึงไม่มีอำนาจสั่งคำร้องขอถอนทนายของจำเลยที่1และที่2 จำเลยที่1และที่2มีสิทธิแต่งตั้งทนายความให้ว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา60ซึ่งเป็นการแต่งตั้งตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา797และการแต่งตั้งผู้ใดเข้าเป็นทนายความขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของจำเลยที่1และที่2เป็นสำคัญฉะนั้นจำเลยที่1และที่2ย่อมมีสิทธิจะขอถอนทนายความซึ่งเป็นตัวแทนเมื่อใดก็ได้ตามมาตรา827วรรคหนึ่งหากทนายจำเลยที่1และที่2เสียหายอย่างไรชอบที่จะว่ากล่าวเอาแก่จำเลยที่1และที่2ตามที่มาตรา827วรรคสองให้สิทธิไว้ บริษัทจำเลยที่1ถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนอันถือได้ว่าบริษัทได้เลิกแล้วแต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1249ให้พึงถือว่ายังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชีจำเลยที่2และที่6เป็นกรรมการบริษัทผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่1ย่อมเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีและมีอำนาจอยู่เช่นเดิมตามมาตรา1251,1252กับมีอำนาจตามมาตรา1259ตราบใดที่ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีจำเลยที่1ขึ้นมาใหม่จำเลยที่2และที่6ในฐานะผู้ชำระบัญชีย่อมมีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนทนายความแทนจำเลยที่1ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนทนายและการขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลชอบด้วยกฎหมายแม้จำเลยยังไม่ได้แต่งตั้งทนายใหม่
ทนายจำเลยขอถอนตัว ศาลชั้นต้นได้แจ้งให้จำเลยทราบคำขอนั้นแล้ว จึงได้มีคำสั่งอนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัว เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ถูกต้องแล้วโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยได้แต่งตั้งทนายเข้ามาก่อนวันศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทนายคนเดิมขอถอนตัวหรือไม่แต่อย่างใด
ศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม2529 แต่ถึงวันนัดได้มีการเลื่อนวันนัดออกไป และมีการเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ออกไปอีกหลายครั้งโดยไม่มีการสืบพยานโจทก์เลยจนกระทั่งได้มีการสืบพยานโจทก์ครั้งรแกในวันที่ 18มีนาคม 2529 ถือได้ว่าวันสืบพยานคือวันที่ 18 มีนาคม 2529 เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่มาศาล และศาลได้มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1ที่ 2 ขาดนัดพิจารณาจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 202 แล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายยื่นฎีกา แม้ไม่มีเอกสารแต่งตั้งในสำนวน ศาลอนุญาตแก้ไขและวินิจฉัยฎีกาได้ หากมีพฤติการณ์น่าเชื่อถือ
ฎีกาของจำเลยมี ล. ทนายความลงชื่อในฐานะทนายจำเลยพฤติการณ์น่าเชื่อว่า จำเลยได้แต่ง ล. เป็นทนายความของจำเลยในคดีนี้แล้วจริง เมื่อปรากฏว่าใบแต่งทนายความสำหรับ ล. ไม่มีอยู่ในสำนวน ศาลก็มีอำนาจที่จะอนุญาตให้แก้ไขจัดทำเสียให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 เมื่อจำเลยได้แต่ง ล. เข้ามาภายหลังแล้ว ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยฎีกาจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3014/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายและผลกระทบต่อการพิจารณาคดี: แม้จำเลยไม่มาศาล แต่หากมีทนายมาศาลถือว่าไม่ใช่การขาดนัด
ในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลย จำเลยไม่มาศาล คงแต่ง ป.เป็นทนายความมาศาล ศาลรับใบแต่งทนายของจำเลยและได้ทำการไกล่เกลี่ยโจทก์จำเลย เช่นนี้ ถือว่าป.เป็นทนายความของจำเลยโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 61แล้ว การที่ศาลกลับไปสั่งไม่รับ ป.เป็นทนายความของจำเลย โดยเห็นว่า ป.แถลงว่าลายเซ็นของจำเลยในใบแต่งทนายเป็นลายเซ็นที่แท้จริงมีสามีของจำเลยรับรอง เป็นการขัดกับชื่อของจำเลยซึ่งเป็นนางสาวนั้น จึงเป็นการมิชอบกรณีนี้ต้องถือว่าทนายของจำเลยมาศาลแล้ว เมื่อศาลทำการสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาคดีไปเลย โดยมิได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา จึงไม่ใช่เป็นการพิจารณาโดยขาดนัด จำเลยจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้ หากจำเลยไม่พอใจก็ชอบที่จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดี การแต่งตั้งทนาย และการพิจารณาคดี การที่โจทก์หาทนายใหม่หลังถอนทนายเดิม และเหตุจำเป็นในการเลื่อนคดี
หลังจากโจทก์ถอนทนายเดิมแล้ว 20วัน ได้มีการยื่นใบแต่งทนายใหม่ในวันนัดสืบพยานโจทก์ วันที่ยื่นใบแต่งทนายเป็นแต่เพียงการแสดงต่อศาลว่าขอแต่งตั้งทนายให้เป็นผู้ว่าความ มิได้หมายความว่าโจทก์เพิ่งไปหาทนายในเช้าวันนัด อันจะถือว่าโจทก์ไม่นำพาต่อคดีของตน
เมื่อโจทก์หาทนายได้แล้ว แต่บังเอิญทนายติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน ย่อมเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ กรณีที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี และประกอบกันเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีไปได้
โจทก์ตั้งทนายโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือโจทก์และทนายโจทก์ แล้วยื่นต่อศาล โดยให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มายื่นคำร้องของเลื่อนคดียื่นใบแต่งทนายพร้อมคำร้องนั้น และศาลได้สั่งใบแต่งทนายรวมไว้ในสำนวนแล้ว ย่อมถือได้ว่า ทนายซึ่งโจทก์ตั้ง เป็นทนายของโจทก์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีและการแต่งตั้งทนาย: ศาลพิจารณาเหตุสมควรและรูปแบบการแต่งตั้งทนายที่ถูกต้อง
หลังจากโจทก์ถอนทนายเดิมแล้ว 20 วัน ได้มีการยื่นใบแต่งทนายใหม่ในวันนัดสืบพยานโจทก์ วันที่ยื่นใบแต่งทนายเป็นแต่เพียงการแสดงต่อศาลว่าขอแต่งตั้งทนายให้เป็นผู้ว่าความ มิได้หมายความว่า โจทก์เพิ่งไปหาทนายในเช้าวันนัด อันจะถือว่าโจทก์ไม่นำพาต่อคดีของตน
เมื่อโจทก์หาทนายได้แล้ว แต่บังเอิญทนายติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน ย่อมเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ กรณีที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี และประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีไปได้
โจทก์ตั้งทนายโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือโจทก์และทนายโจทก์แล้วยื่นต่อศาล โดยให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดียื่นใบแต่งทนายพร้อมคำร้องนั้น และศาลได้สั่งใบแต่งทนายรวมไว้ในสำนวนแล้ว ย่อมถือได้ว่าทนายซึ่งโจทก์ตั้ง เป็นทนายของโจทก์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1899/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีและการแต่งตั้งทนาย: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็นและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
หลังจากโจทก์ถอนทนายเดิมแล้ว 20 วัน ได้มีการยื่นใบแต่งทนายใหม่ในวันนัดสืบพยานโจทก์. วันที่ยื่นใบแต่งทนายเป็นแต่เพียงการแสดงต่อศาลว่าขอแต่งตั้งทนายให้เป็นผู้ว่าความ. มิได้หมายความว่า.โจทก์เพิ่งไปหาทนายในเช้าวันนัด. อันจะถือว่าโจทก์ไม่นำพาต่อคดีของตน.
เมื่อโจทก์หาทนายได้แล้ว แต่บังเอิญทนายติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน. ย่อมเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้. กรณีที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก แม้โจทก์จะยังมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้.แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะแสดงว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี. และประกอบกับเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ย่อมมีเหตุสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีไปได้.
โจทก์ตั้งทนายโดยทำเป็นหนังสือลงลายมือโจทก์และทนายโจทก์แล้วยื่นต่อศาล. โดยให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ให้มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดียื่นใบแต่งทนายพร้อมคำร้องนั้น. และศาลได้สั่งใบแต่งทนายรวมไว้ในสำนวนแล้ว. ย่อมถือได้ว่าทนายซึ่งโจทก์ตั้ง เป็นทนายของโจทก์แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1107/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งตั้งทนายและการแจ้งความเท็จ: ใบแต่งทนายไม่ใช่เอกสารสิทธิ การยื่นคำร้องไม่ใช่ความผิดฐานแจ้งความเท็จ
เมื่อใบแต่งทนายตามฟ้องมีข้อความตามแบบพิมพ์ใบแต่งทนาย โดยไม่ปรากฏข้อความนอกเหนือไปจากข้อความตามแบบพิมพ์ จึงเป็นเรื่องการแต่งตั้งทนายให้มีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนคู่ความ มิใช่เป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการ ก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ จึงไม่เป็นเอกสารสิทธิตามมาตรา 1(9)
การที่ให้มีการรับรองในใบแต่งทนายว่าผู้แต่งทนายได้เซ็นใบแต่งทนายต่อหน้า ก็เป็นเพียงวิธีการอันหนึ่งที่จะให้เป็นหลักฐานว่าผู้แต่งทนายได้ลงชื่อเป็นผู้แต่งทนายตามนั้นจริง และเมื่อผู้แต่งทนายได้เซ็นใบแต่งทนายให้ไปจริง คำรับรองดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย ไม่อาจเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จ
การยื่นคำร้องสอดเข้าเป็นจำเลยร่วมเป็นการยื่นคำคู่ความเข้าเป็นจำเลยในการดำเนินการพิจารณาคดีของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มิใช่เป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ไม่เป็นผิดตามมาตรา 137
ฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานจึงไม่เป็นผิดตามมาตรา 162
ฟ้องไม่ได้บรรยายให้เห็นได้เลยว่าจำเลยเป็นทนายความ อันจะถือได้ว่าเป็นผู้ประกอบการงานในวิชากฎหมาย จึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 269.
(เฉพาะปัญหาที่ 1 พิจารณาโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 22/2509).
of 2