คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 26 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 920/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์โคผู้อื่น โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของแต่ไม่มีตัวตนจริง มีพยานหลักฐานยืนยันความผิด
ด. พบโค 9 ตัว กำลังกินข้าวอยู่ในนาของตน จึงไล่ต้อนมาไว้ที่บ้านเพื่อจะเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของโค ต่อมาจำเลยกับ ศ.และพวกมาที่บ้านด.อ้างว่าโคเป็นของศ.พ่อตาของด.ไม่เชื่อ ได้พา ศ.ไปพบผู้ใหญ่บ้านศ. ทำบันทึกรับโคไป แล้วพวกของจำเลยไล่ต้อนโคทั้ง 9 ตัวไปโดยจำเลยขี่รถจักรยานยนต์ตามไป ปรากฏว่าโคเป็นของผู้เสียหาย ดังนี้ ฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335(7) วรรคแรก,83.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฉ้อโกง: การแสดงเจตนาซื้อที่ไม่จริงเพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้ส่งมอบโค
จำเลยติดต่อผู้เสียหายให้หาซื้อโคให้เมื่อจำเลยขายโคได้แล้วจะนำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระให้ผู้เสียหายซื้อโคได้แล้วมอบให้จำเลยไปจำเลยไม่นำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระเมื่อถูกจับกุมก็ให้การว่าได้ชำระเงินให้ผู้เสียหายจนครบถ้วนแล้วเห็นได้ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อโคอย่างแท้จริงแต่ได้วางแผนหลอกลวงผู้เสียหายกับพวกมาตั้งแต่ต้นโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะซื้อแต่ความจริงจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อและชำระราคาโคจึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2603/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายโค: กรรมสิทธิ์ยังไม่โอน ความรับผิดเมื่อโคถูกลัก
ซื้อขายโคที่อายุยังไม่ถึงทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณ ซึ่งมีข้อสัญญาว่าจะไปจดทะเบียนโอน เป็นสัญญาจะซื้อขาย กรรมสิทธิ์ยังไม่โอน แต่ได้มอบโคให้ผู้ซื้อไปแล้ว โคถูกลักไปไม่ปรากฏว่าโทษผู้ซื้อได้ ผู้ขายเรียกราคาโคไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 988/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนขู่เข็ญเพื่อชิงทรัพย์โค เปลี่ยนเป็นปล้นทรัพย์เนื่องจากมีคนร้ายหลายคนและใช้ปืน
น้องชายเจ้าทรัพย์นำโคกระบือของเจ้าทรัพย์ไปเลี้ยง และมีคนอื่นหลายคนเลี้ยงโคกระบืออยู่ที่นั่นด้วย จำเลยกับพวก รวม 8 คนมาทักทายคนเลี้ยงโคกระบือ แล้วจำเลยกับพวกจูงโคของเจ้าทรัพย์ไป 1 ตัวและยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด โดยไม่ได้หันมามองดูน้องชายเจ้าทรัพย์ซึ่งอยู่ห่างราว 10 วา เช่นนี้แสดงว่าจำเลยกับพวกมีเจตนายิงปืนขู่เข็ญพวกคนเลี้ยง โคกระบือซึ่งอยู่ในบริเวณนั้น จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการซื้อขายโค: ฉ้อโกงหรือผิดสัญญา
เมื่อพฤติการณ์เป็นว่าจำเลยใช้อุบายไปขอซื้อโคจากผู้เสียหายโดยขอให้ผู้เสียหายนำโคไปส่งที่บ้านจำเลยแล้วจำเลยจะชำระราคาให้ ครั้นเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามนั้นแล้ว จำเลยกลับบ่ายเบี่ยงว่ายังเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้ ให้กลับไปรับเงินใหม่ในวันรุ่งขึ้นและในคืนนั้นเองจำเลยก็พาโคหนีไป ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยจะซื้อโคจริงมาแต่ต้น ด้วยการวางแผนเป็นขั้น ๆ และไม่มีเจตนาจะใช้ราคาโคเลย การกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตหลอกลวงซื้อขายโค ศาลฎีกาวินิจฉัยเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
เมื่อพฤติการณ์เป็นว่าจำเลยใช้อุบายไปขอซื้อโคจากผู้เสียหายโดยขอให้ผู้เสียหายนำโคไปส่งที่บ้านจำเลย แล้วจำเลยจะชำระราคาให้ครั้นเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามนั้นแล้ว จำเลยกลับบ่ายเบี่ยงว่ายังเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้ ให้กลับไปรับเงินใหม่ในวันรุ่งขึ้นและในคืนนั้นเองจำเลยก็พาโคหนีไป ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยจะซื้อโคจริงมาแต่ต้น ด้วยการวางแผนเป็นขั้นๆ และไม่มีเจตนาจะใช้ราคาโคเลย การกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตหลอกลวงซื้อขายโค ฉ้อโกงครบองค์ประกอบ
เมื่อพฤติการณ์เป็นว่าจำเลยใช้อุบายไปขอซื้อโคจากผู้เสียหายโดยขอให้ผู้เสียหายนำโคไปส่งที่บ้านจำเลย.แล้วจำเลยจะชำระราคาให้. ครั้นเมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามนั้นแล้ว. จำเลยกลับบ่ายเบี่ยงว่ายังเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้. ให้กลับไปรับเงินใหม่ในวันรุ่งขึ้นและในคืนนั้นเองจำเลยก็พาโคหนีไป. ดังนี้ เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าจำเลยจะซื้อโคจริงมาแต่ต้น. ด้วยการวางแผนเป็นขั้นๆ และไม่มีเจตนาจะใช้ราคาโคเลย. การกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881-882/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โคที่ถูกลัก การซื้อขายโดยสุจริต และหน้าที่จดทะเบียนสัตว์พาหนะ
จำเลยซื้อโคของกลางจากตลาดซื้อขายโคกระบือ โดยไม่มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแต่ปรากฏว่าโคนั้นมีอายุ 10 กว่าปีใช้งานได้ และมีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้ว ทั้งพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 มาตรา 8 ก็บังคับไว้ว่าโคที่ใช้งานได้แล้วให้นำไปจดทะเบียนทำตั๋วพิมพ์รูปพรรณเป็นการแสดงว่าจำเลยย่อมจะรู้ว่าโคนั้นมีตั๋วพิมพ์รูปพรรณแล้ว การที่จำเลยซื้อไว้โดยอ้างว่าไม่มีตั๋วพิมพ์รูปพรรณจึงเป็นพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต จะยกขึ้นโต้แย้งกรรมสิทธิ์ของเจ้าของโคหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเงินค่าไถ่โคโดยไม่มีหลักฐานการลักทรัพย์ ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
โจทก์ฟ้องว่า มีผู้ลักโคของผู้เสียหายไป ต่อมาเจ้าทรัพย์และพวกพบโคที่ถูกคนร้ายลักไปอยู่ในความครอบครองของจำเลย โดยจำเลยนำโคนั้นมาให้เจ้าทรัพย์ และเอาเงินจำนวน 800 บาทจากเจ้าทรัพย์เป็นค่าไถ่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335,337
ทางพิจารณาฟังได้ว่าโคของผู้เสียหายนั้นตามโคตัวเมียในฝูงของจำเลยไปจำเลยบอกผู้เสียหายให้ไปเอาโคคืนโดยขอเงินค่าไถ่จากผู้เสียหายแล้วจำเลยคืนโคให้ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยลักโค ดังนี้ จะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ย่อมไม่ได้ และการที่จำเลยรับเงินค่าไถ่โคจากผู้เสียหาย แม้จะด้วยเจตนาทุจริตและคืนโคให้ผู้เสียหายไป ก็ไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร เพราะฟังไม่ได้เสียแล้วว่าโคของผู้เสียหายถูกคนร้ายลักไปแล้วจำเลยรับไว้ ศาลก็ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลาง (เกวียนและโค) ที่ใช้ในการกระทำความผิดฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และขอให้ริบไม้และเกวียนโคของกลางด้วย คดีได้ความตามฟ้องและคำรับสารภาพว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ขณะที่จำเลยเอาไม้บรรทุกใส่เกวียนเทียมโค เห็นได้ว่าจำเลยใช้โคและเกวียนของกลางเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด คือ การมีไม้รายนี้ไว้โดยมิได้รับอนุญาต โคและเกวียนจึงเป็นสิ่งพึงต้องริบด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องด้วยว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม่เหียบซึ่งจำเลยมีไว้ในขณะที่จำเลยบรรทุกใส่เกวียนเทียมโค อันเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเป็นของกลาง และขอให้ริบไม้กับเกวียนโคของกลางด้วย เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง ดังนี้ แม้ศาลชั้นต้นจะให้คืนเกวียนและโคโดยเห็นว่าไม่เกี่ยวกับการมีไม้ ก็เป็นเพียงคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น ไม่ผูกมัดศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยได้ใช้เกวียนและโคเป็นอุปกรณ์ในการมีไม้ไว้ในครอบครองแล้วให้ริบเสียด้วยได้ จำเลยจะอ้างว่าเป็นข้อเท็จจริงอันถึงที่สุดแล้วหาได้ไม่
of 3