พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3620/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้หรือมีอาวุธปืน แม้ไม่มีการครอบครองหรือใช้ปืนเอง
เมื่อผู้กระทำผิดคนใดใช้อาวุธปืนยิงในการปล้นทรัพย์ก็ถือว่าผู้กระทำผิดอื่นที่ไม่มีอาวุธปืนหรือไม่ได้ยิงอาวุธปืนมีความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา340วรรคสี่ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย: จำเลยถูกรุมทำร้ายจึงใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันตนเอง ศาลฎีกาตัดสินให้ยกฟ้อง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยถูกรุมทำร้ายด้วยอาวุธในเวลากลางคืน จำเลยเข้าใจว่าทั้งถูกตีและถูกฟันไม่อาจรู้ได้ว่าจะเป็นอันตรายสักเพียงไหน จำเลยจึงใช้ปืนยิงไปยังกลุ่มคนที่ทำร้าย กระสุนถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ซึ่งจำเลยเองก็ไม่รู้ว่ากระสุนปืนถูกผู้ใด ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวในการที่คนกลุ่มนั้นทำร้าย และไม่มีอาวุธอื่นใช้ต่อสู้ได้ การป้องกันของจำเลยที่ใช้ปืนยิง เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ปืนยิงสุนัขขณะปล้นทรัพย์ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรค 4
คนร้ายซึ่งอยู่ที่พื้นดินใช้ปินยิงสุนัขเพราะสุนัขเห่าจะกัดคนร้ายขณะคนร้ายอื่นกำลังค้นหาทรัพย์อยู่ ถือได้ว่าการปล้นได้กระทำโดยใช้ปืนยิง เพราะคนร้ายยิงสุนัขที่เห่าและจะกัดคนร้ายในขณะที่คนร้ายกำลังปล้นบ้านผู้เสียหายเป็นการกระทำในการปล้นทรัพย์นั้นด้วย เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรค 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1465/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ปืนยิงสุนัขระหว่างการปล้นทรัพย์ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่
คนร้ายซึ่งอยู่ที่พื้นดินใช้ปืนยิงสุนัข เพราะสุนัขเห่าจะกัดคนร้ายขณะคนร้ายอื่นกำลังค้นหาทรัพย์อยู่ ถือได้ว่าการปล้นได้กระทำโดยใช้ปืนยิง เพราะคนร้ายยิงสุนัขที่เห่าและจะกัดคนร้ายในขณะที่คนร้ายกำลังปล้นบ้านผู้เสียหาย เป็นการกระทำในการปล้นทรัพย์นั้นด้วย เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ปืนยิงในขณะปล้นทรัพย์ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา แม้ไม่มีผู้ได้รับอันตราย
ตามข้อบัญญัติของมาตรา 340 วรรค 4 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นั้น เพียงแต่จำเลยใช้ปืนยิงในการปล้น ก็เป็นกรณีเข้าอยู่ในวรรคนี้แล้ว เพราะไม่มีข้อบัญญัติว่า การใช้ปืนยิงนั้น จะต้องทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ปืนยิงในการปล้นทรัพย์ แม้ไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย ก็ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 4
ตามข้อบัญญัติของ มาตรา 340 วรรค 4 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นั้น เพียงแต่จำเลยใช้ปืนยิงในการปล้น ก็เป็นกรณีเข้าอยู่ในวรรคนี้แล้วเพราะไม่มีข้อบัญญัติว่า การใช้ปืนยิงนั้นจะต้องทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การใช้ปืนยิงผู้บุกรุกทำลายทรัพย์สิน
จำเลยใช้ปืนยิงคนร้ายที่กำลังฟันถากเปลือกต้นยาพาราในสวนของจำเลยในเวลากลางคืน กระสุนปืนถูกคนร้ายตายไป 1 คน นั้นเป็นการกระทำป้องกันทรัพย์ แต่เกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การใช้ปืนยิงผู้บุกรุกทำลายทรัพย์สิน
จำเลยใช้ปืนยิงคนร้ายที่กำลังฟันถากเปลือกต้นยางพาราในสวนของจำเลยในเวลากลางคืนกระสุนปืนถูกคนร้ายตายไป1 คนนั้นเป็นการกระทำป้องกันทรัพย์ แต่เกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 60/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินกว่าเหตุ: การใช้ปืนยิงเพื่อป้องกันการทำร้ายด้วยขวาน
จำเลยทั้ง 5 คนต่างมีอาวุธตามหาบุตรสาวของจำเลยที่ 2 ไปถึงที่พักของชายแล้วจะเข้าค้นหาบุตรสาวในที่พักนั้น ชายเจ้าของที่พักไม่ยอมให้เข้าไป จำเลยที่2 ขืนจะเข้าไปให้ได้ ชายเจ้าของที่พักจึงเอาขวานเงื้อจะฟัน จำเลยที่ 2 เอาหอกค้ำไว้ ชายนั้นจะฟันซ้ำอีกจำเลยที่ 1จึงใช้ปืนยิงชายนั้นตายดังนี้จำเลยที่ 1 จะอ้างว่ากระทำโดยป้องกันไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 611/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ปืนโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 28 และการริบปืนเป็นดุลยพินิจของศาล
การไช้ปืนยิงไนหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควน หาเปนความผิดไนตัวเองดังที่บัญญัติไว้ไนมาตรา 28 ไม่ และไม่มีกดหมายบัญญัติไว้ว่าการไช้ปืนเช่นนี้เปนความผิดอันพึงจะริบ
บทบัญญัติแห่งมาตรา 27 กดหมายอาญาเปนเรื่องไห้สาลมีอำนาดไช้ดุลยพินิจ.
บทบัญญัติแห่งมาตรา 27 กดหมายอาญาเปนเรื่องไห้สาลมีอำนาดไช้ดุลยพินิจ.