คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใบหุ้น

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 18 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6304/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีหุ้น: ใบหุ้นชนิดเดียวกันใช้แทนกันได้ แม้ซื้อภายหลังฟ้องคดี
ใบหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์เป็นทรัพย์ที่มีสภาพเช่นเดียวกับสังกมทรัพย์ซึ่งสามารถนำใบหุ้นชนิดและประเภทเดียวกัน ซึ่งมีจำนวนเท่ากันใช้โอนแทนกันได้ หาจำต้องเป็นใบหุ้นฉบับเดียวกับที่ซื้อไว้ด้วยไม่ และแม้จะเป็นใบหุ้นที่ซื้อมาในวันอื่นภายหลังก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6304/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบใบหุ้นทดแทน และสิทธิการหักกลบลบหนี้ด้วยเงินปันผล จำเลยต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
ใบหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์เป็นทรัพย์ที่มีสภาพเช่นเดียวกับสังกมะทรัพย์ ซึ่งสามารถนำใบหุ้นชนิดและประเภทเดียวกันซึ่งมีจำนวนเท่ากันใช้แทนกันได้ หาจำต้องเป็นใบหุ้นฉบับเดียวกับที่ซื้อไว้ด้วยไม่ และแม้จะเป็นใบหุ้นที่ซื้อมาในวันอื่นภายหลัง แต่เมื่อก่อนฟ้องโจทก์ได้ซื้อหุ้นให้แก่จำเลยตามข้อตกลงถูกต้องครบถ้วนแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธินำใบหุ้นบริษัทเดียวกันหมายเลขใด ๆ ซึ่งมีจำนวนหุ้นเท่ากันมาโอนให้แก่จำเลยได้ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้คดีโดยขอหักกลบลบหนี้เกี่ยวกับเงินปันผลในคดีเดิมไว้ ทั้งฟ้องแย้งของจำเลยก็มิได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวด้วย จำเลยจึงไม่มีสิทธิหักกลบลบหนี้ หากจะฟังว่าจำเลยมีสิทธิหักกลบลบหนี้แล้ว ก็ต้องไปฟ้องหรือว่ากล่าวเป็นคดีใหม่ต่างหาก จำเลยฎีกาว่าจำเลยมีสิทธินำเงินปันผลของหุ้นที่โจทก์รับไว้รวมทั้งดอกเบี้ยของเงินปันผลมาหักกลบลบหนี้ตามคำพิพากษากับโจทก์ได้โดยไม่ต้องฟ้องแย้งเป็นคดีใหม่ เพราะเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการเรื่องการหักกลบลบหนี้ให้จำเลยอยู่แล้วอันแสดงว่าโจทก์มีเจตนาที่จะตกลงประนีประนอมยอมยอมให้จำเลยนำเงินปนผลมาหักกลบลบหนี้ได้ และการที่จำเลยมิได้ฟ้องแย้งหรือให้การปฎิเสธต่อสู้เกี่ยวกับเงินปันผลก็เนื่องจากจำเลยปฏิเสธหนี้ตามฟ้องว่าเป็นโมฆะจึงไม่อาจฟ้องแย้งได้อยู่แล้วนั้นฎีกาของจำเลยดังกล่าวมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องอย่างไร และที่ถูกต้องเป็นอย่างไร และที่ถูกต้องเป็นอย่างไรเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6304/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีด้วยใบหุ้นทดแทน: สิทธิในการรับชำระหนี้ด้วยใบหุ้นชนิดเดียวกัน แม้ซื้อภายหลังฟ้อง
ใบหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์เป็นทรัพย์ที่มีสภาพ เช่นเดียวกับสังกมทรัพย์ ซึ่งสามารถนำใบหุ้นชนิดและประเภทเดียวกัน ซึ่งมีจำนวนเท่ากันใช้แทนกันได้แม้จะเป็นใบหุ้นที่ซื้อมาในวันอื่นภายหลังก็ตาม เมื่อก่อนฟ้อง คดีนี้โจทก์ได้ซื้อหุ้นให้แก่จำเลยตามข้อตกลงถูกต้องครบถ้วนแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะนำใบหุ้นบริษัทเดียวกันหมายเลขใด ๆ ซึ่งมีจำนวนหุ้นเท่ากันมาโอนให้แก่จำเลยได้ ดังนั้น การที่โจทก์ส่งมอบใบหุ้นพิพาทให้แก่กรมบังคับคดีในการบังคับคดีเอาแก่จำเลยเช่นนี้ถือว่าโจทก์ทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่หลุดพ้นจากความรับผิดชำระเงินค่าหุ้นให้โจทก์ตามคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5480/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในหุ้น – หน้าที่ส่งมอบใบหุ้น – อายุความ – การรับข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องโดยยกข้ออ้างซึ่งเป็นหลักแห่งข้อหาว่า โจทก์เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทจำเลย เพราะโจทก์จองหุ้นจากจำเลยโดยจำเลยประกาศขายหุ้นเพิ่มทุน จำเลยให้การรับว่าโจทก์เคยเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลย โดยได้รับโอนหุ้นมาจากบุคคลภายนอกและจำเลยได้ส่งมอบใบหุ้นให้แก่โจทก์เรียบร้อยแล้ว ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่ใช่กรณีโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง
เมื่อจำเลยให้การรับว่าโจทก์เคยเป็นเจ้าของหุ้นจำนวน 150 หุ้นข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามที่จำเลยให้การ แต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้โดยยกข้ออ้างขึ้นใหม่ว่าจำเลยได้ส่งมอบใบหุ้นให้แก่โจทก์แล้ว และต่อมาโจทก์ได้โอนหุ้นไปให้แก่บุคคลภายนอกแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวตาม ป.วิ.พ.มาตรา 84
โจทก์เป็นเจ้าของหุ้นซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องทำใบหุ้นและส่งมอบให้โจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1127 วรรคแรก โจทก์จึงมีสิทธิที่จะติดตามเอาใบหุ้นจากจำเลยได้ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1336 ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5480/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องใบหุ้น - การส่งมอบใบหุ้น - อายุความ - เจ้าของหุ้น
โจทก์ฟ้องโดยยกข้ออ้างซึ่งเป็นหลักแห่งข้อหาว่า โจทก์เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทจำเลย เพราะโจทก์จองหุ้นจากจำเลยโดยจำเลยประกาศขายหุ้นเพิ่มทุน จำเลยให้การรับว่าโจทก์เคยเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลย โดยได้รับโอนหุ้นมาจากบุคคลภายนอกและจำเลยได้ส่งมอบใบหุ้นให้แก่โจทก์เรียบร้อยแล้วข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง จึงไม่ใช่กรณีโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง เมื่อจำเลยให้การรับว่าโจทก์เคยเป็นเจ้าของหุ้นจำนวน150 หุ้น ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามที่จำเลยให้การ แต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้โดยยกข้ออ้างขึ้นใหม่ว่าจำเลยได้ส่งมอบใบหุ้นให้แก่โจทก์แล้ว และต่อมาโจทก์ได้โอนหุ้นไปให้แก่บุคคลภายนอกแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84 โจทก์เป็นเจ้าของหุ้นซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องทำใบหุ้นและส่งมอบให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1127 วรรคแรก โจทก์จึงมีสิทธิที่จะติดตามเอาใบหุ้นจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2917/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาปลอมแปลงใบหุ้นเพื่อใช้แทนของจริง ถือเป็นตัวการร่วม
การที่จำเลยทำปลอมแบบพิมพ์ใบหุ้น แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะนำใบหุ้นนั้นไปดำเนินการกรอกข้อความรายละเอียดอื่น ๆ ที่เป็นสาระสำคัญลงในใบหุ้นเพื่อใช้อย่างใบหุ้นที่แท้จริง ซึ่งต่อมาก็ได้มีการกรอกข้อความรายละเอียดต่าง ๆ ลงในใบหุ้น แล้วนำไปฝากขาย ตามพฤติการณ์แสดงว่า จำเลยมีส่วนรู้เห็นในการกรอกข้อความรายละเอียดอื่น ๆ ที่เป็นสาระสำคัญลงในใบหุ้นด้วย จึงเป็นตัวการด้วยกัน เมื่อการกระทำของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานปลอมใบหุ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2917/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาปลอมแปลงแบบพิมพ์ใบหุ้นเพื่อใช้แทนของจริง ถือเป็นตัวการร่วมกระทำผิดฐานปลอมเอกสาร
การที่จำเลยทำปลอมแบบพิมพ์ใบหุ้นแสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะนำใบหุ้นนั้นไปดำเนินการกรอกข้อความรายละเอียดอื่นๆที่เป็นสาระสำคัญลงในใบหุ้นเพื่อใช้อย่างใบหุ้นที่แท้จริงซึ่งต่อมาก็ได้มีการกรอกข้อความรายละเอียดต่างๆลงในใบหุ้นแล้วนำไปฝากขายตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีส่วนรู้เห็นในการกรอกข้อความรายละเอียดอื่นๆที่เป็นสาระสำคัญลงในใบหุ้นด้วยจึงเป็นตัวการด้วยกันเมื่อการกระทำของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานปลอมใบหุ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4860/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบใบหุ้นเกินไปโดยสำคัญผิด และการรับใบหุ้นโดยไม่สุจริต จำเลยต้องคืนหุ้นหรือชำระราคา
จำเลยสั่งให้โจทก์ซื้อหุ้นของธนาคาร ก. แทนจำเลยจำนวน 1,000 หุ้น จำเลยชำระเงินค่าหุ้นให้แก่โจทก์แล้วแต่โจทก์ยังมิได้ส่งมอบใบหุ้นให้แก่จำเลย ต่อมาจำเลยได้สั่งให้โจทก์ขายหุ้นของธนาคาร ก. จำนวน 2,000 หุ้น โดยเป็นหุ้นที่จำเลยสั่งให้โจทก์ซื้อไว้แทนจำนวน 1,000 หุ้นดังกล่าวรวมกับหุ้นที่จำเลยมีอยู่เดิม โจทก์ได้ขายให้จำเลยแล้วในราคาหุ้นละ 303 บาท และโจทก์ได้จ่ายเงินค่าขายหุ้นดังกล่าวให้แก่จำเลยแล้วในส่วนของหุ้นจำนวน 1,000 หุ้น เป็นเงิน301,182 บาท โดยหักค่าธรรมเนียมการขายไว้ ต่อมาโจทก์ได้ส่งมอบใบหุ้นของธนาคาร ก. ให้แก่จำเลยอีกจำนวน1,000 หุ้น โดยสำคัญผิดว่าเป็นหุ้นที่จำเลยได้สั่งซื้อไว้และโจทก์ยังมิได้ส่งมอบใบหุ้นให้ จำเลยรับไว้แล้วจำเลยส่งมอบใบหุ้นจำนวนเดียวกันนี้คืนโจทก์ในวันเดียวกันโจทก์ก็รับไว้โดยเข้าใจว่าเป็นการส่งมอบใบหุ้นที่จำเลยได้สั่งขายในส่วนที่ยังค้างการส่งมอบและได้จ่ายเงินค่าขายหุ้นที่เหลือจำนวน 301,182 บาท ให้แก่จำเลยไป การที่จำเลยรับใบหุ้นจากโจทก์โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีหุ้นของจำเลยเหลืออยู่ที่โจทก์อีก จึงเป็นการรับไว้โดยไม่สุจริต จำเลยต้องคืนหุ้น 1,000 หุ้น ให้โจทก์เต็มจำนวน หากคืนไม่ได้ต้องใช้ราคา 301,182 บาท แก่โจทก์เท่าจำนวนราคาหุ้นที่จำเลยรับไปจากโจทก์มิใช่ราคา 303,000 บาท ตามที่โจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2129/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายหุ้นโดยไม่มีใบหุ้นและขัดต่อระเบียบตลาดหลักทรัพย์ ศาลไม่รับฟังว่าจำเลยสั่งขายหุ้นจริง
ในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่โจทก์ในฐานะเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ได้กระทำแทนจำเลยผู้เป็นลูกค้าของโจทก์ ปรากฏว่าพยานโจทก์ที่อ้างว่ารู้เห็นในการสั่งขายหุ้นของจำเลยมีคนเดียวคือ ก.ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเงินทุนของโจทก์ ส่วนพยานนอกนั้นรวมทั้ง ด. ซึ่งโจทก์ส่งไปทำหน้าที่ซื้อขายหลักทรัพย์ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้คอยรับคำสั่งจาก ก. แม้ ด.จะเบิกความว่าระหว่างทำการขายหุ้นตามคำสั่งจำเลย จำเลยได้โทรศัพท์มาถาม ด. ตอบว่าขายได้ 1,700 หุ้น หุ้นที่เหลือ1,300 หุ้นจะขายหรือไม่ จำเลยตอบว่าพอแล้ว ซึ่งข้อความดังกล่าวขัดกับข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ที่ว่าการสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ต้องกระทำผ่านสำนักงานของสมาชิกเท่านั้นลูกค้าไม่มีสิทธิติดต่อโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ของโจทก์ที่ตลาดหลักทรัพย์ จึงไม่มีเหตุผลน่าเชื่อว่าจำเลยได้โทรศัพท์ไปถาม ด.จริง คำพยานโจทก์ที่อ้างว่าติดต่อกับจำเลยโดยตรงคงมีแต่คำของ ก. และเอกสารต่าง ๆโจทก์ทำขึ้นฝ่ายเดียวโดยประสงค์จะให้มีพยานหลักฐานทุกขั้นตอนของการขายหุ้นโดยเฉพาะสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างโจทก์กับผู้ซื้อมีข้อความชัดว่าต้องปฏิบัติตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ทุกประการ แต่การขายหุ้นพิพาท ก. กลับเบิกความรับว่าเมื่อจำเลยมาพบ ก. ที่บริษัทโจทก์ ก็ได้ทำใบสั่งซื้อสั่งขายให้จำเลยลงนาม แต่การขายหุ้นพิพาทโจทก์ไม่ได้ให้จำเลยทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้ และจำเลยไม่มีใบหุ้นที่จะขายการที่โจทก์ว่าจำเลยไม่มีใบหุ้น แล้วโจทก์ยังเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ถือว่าโจทก์ปฏิบัติผิดระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งห้ามสมาชิกขายหลักทรัพย์โดยไม่มีหลักทรัพย์อยู่ในครอบครอง ฉะนั้นจึงไม่น่าเชื่อว่าโจทก์จะกลับขายหุ้นให้จำเลยโดยมีจำเลยไม่มีใบหุ้น มาให้ขายเพราะโจทก์ต้องส่งมอบใบหุ้น ที่ขายให้ผู้ซื้อภายใน 4 วันตามระเบียบตลาดหลักทรัพย์ การกระทำของโจทก์จึงเท่ากับเป็นการขายตัวเลขไม่ใช่ขายหุ้น ประกอบกับจำเลยนำหลักทรัพย์มาประกันต่อโจทก์โดยนำเงินมาฝากโจทก์และโจทก์ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้จำเลยมีวงเงินเพียง 406,500 บาทแต่โจทก์กลับอ้างว่า จำเลยสั่งให้โจทก์ขายหุ้นหลังจากหักค่านายหน้าของโจทก์แล้วเป็นเงิน 6,158,251 บาทหากเป็นจริงก็จะทำให้โจทก์ต้องหาซื้อหุ้นมาให้ผู้ซื้อแทนจำเลยมากกว่าหลักประกันที่จำเลยวางไว้แก่โจทก์และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีสิ่งใดซึ่งจะให้โจทก์เชื่อถือนอกจากเงินที่ฝากโจทก์ไว้ จึงไม่มีเหตุผลใดที่โจทก์จะยอมขายหุ้นให้จำเลยโดยจำเลยไม่มีใบหุ้นจะขาย ดังนี้พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยได้สั่งให้โจทก์ขายหุ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2919/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์: การซื้อขายโดยไม่ส่งมอบใบหุ้นและการคิดดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยต้องรับผิดชำระค่าหุ้นพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์หรือไม่เพียงใด เป็นการกำหนดไว้อย่างกว้าง ๆ ประเด็นที่กำหนดไว้จะมีความหมายอย่างไร ต้องเป็นไปตามคำฟ้องและคำให้การโจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าหุ้นที่ซื้อแทนจำเลยพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่า โจทก์ยังมิได้จัดให้จำเลยได้รับใบหุ้น ไม่ทราบว่าโจทก์จัดการซื้อหุ้นให้จำเลยจริงหรือไม่หรือหากซื้อหุ้นให้จำเลยได้ การซื้อขายหุ้นซึ่งมิได้ออกใบหุ้นที่ระบุชื่อผู้ถือเป็นโมฆะจำเลยไม่ต้องรับผิดค่าหุ้นคดีจึงไม่มีประเด็นว่า โจทก์นำหุ้นของจำเลยไปขายกับรับเงินปันผลไว้แทนจำเลยหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกประเด็นดังกล่าวขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยให้โจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อซื้อมาแล้วถ้าราคาหุ้นสูงขึ้นก็จะสั่งขายทันที โดยหุ้นที่ซื้อมาจะให้โจทก์เก็บรักษาไว้เพื่อความสะดวกในการสั่งขาย ดังนี้ หุ้นที่โจทก์ซื้อตามคำสั่งของจำเลยเป็นหลักทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่บัญญัติเพื่อกิจการนี้โดยเฉพาะ และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของจำเลยเป็นการเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาหุ้นมากกว่าประสงค์ให้มีการโอนใบหุ้นใส่ชื่อผู้ซื้อ การซื้อขายหุ้นจึงไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129.
of 2