พบผลลัพธ์ทั้งหมด 14 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3081/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องล้มละลายเพื่อประโยชน์เจ้าหนี้อื่น แม้เจ้าหนี้ผู้ฟ้องไม่ขอรับชำระหนี้ ก็ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง
การฟ้องคดีล้มละลายเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ฟ้องเพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้รายอื่น ๆ ด้วย การที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ขอรับชำระหนี้ก็เป็นสิทธิของเจ้าหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังมีหน้าที่ดำเนินการให้ได้ผลเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้รายอื่น ๆ และคดีไม่ปรากฎเหตุขัดข้อง แม้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ยอมชำระค่าธรรมเนียมแต่ที่ประชุมของเจ้าหนี้ก็ได้แต่งตั้งเจ้าหนี้อื่นเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์แทนแล้ว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา156 ข้อขัดข้องย่อมหมดไปไม่มีเหตุที่จะต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาผิดพลาดในฟ้อง ไม่ใช่ข้อสารสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ศาลไม่ยกฟ้อง
วันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดเป็นเพียงรายละเอียดของฟ้อง มิใช่ข้อสารสำคัญ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) หากจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ ก็มิใช่เหตุอันจะถึงยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการลงชื่อในฟ้องอุทธรณ์: ศาลควรคืนคำคู่ความเพื่อแก้ไข ไม่ยกฟ้อง
ในฟ้องอุทธรณ์มีชื่อจำเลยเป็นผู้ยื่น แต่ในท้ายอุทธรณ์ทนายเป็นผู้ลงชื่อ อุทธรณ์นั้น ศาลชั้นต้นสั่งรับแล้ว ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าทหนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะต้องคืนคำคู่ความไปให้ทำมาใหม่ให้ถูกต้องตาม วิ.แพ่ง.ม.18 จะยกอุทธรณ์จำเลยทีเดียวหาชอบไม่
การที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์จำเลยทุกคนโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนจำเลยนั้นเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยเพียงคนเดียวฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยทุกคนได้
การที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์จำเลยทุกคนโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนจำเลยนั้นเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยเพียงคนเดียวฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยทุกคนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีสัญญาประกันตัว และความคลาดเคลื่อนวันส่งตัวผู้ต้องหา ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งทำไว้กับพนักงานเจ้าหน้าที่ (อัยการจังหวัด) ซึ่งมีอำนาจทำได้อัยการจังหวัดผู้นั้นย่อมเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ปรับนายประกันฐานผิดสัญญาได้อ้างฎีกาที่ 964/2487
ในฟ้องกล่าววันนัดส่งตัวผู้ต้องหาผิดพลาด แต่ก็มีวันนัดส่งตัวเป็นคราวๆ ตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้อง ทั้งโจทก์ก็ยังระบุว่าจำเลยผิดนัดต่อมาอีกหลายครั้งดังนี้ย่อมทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะยกฟ้องได้
ในฟ้องกล่าววันนัดส่งตัวผู้ต้องหาผิดพลาด แต่ก็มีวันนัดส่งตัวเป็นคราวๆ ตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้อง ทั้งโจทก์ก็ยังระบุว่าจำเลยผิดนัดต่อมาอีกหลายครั้งดังนี้ย่อมทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะยกฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขชื่อโจทก์/เจ้าทรัพย์ในคำฟ้อง: การพิมพ์ผิดพลาดไม่ถึงแก่การยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องระบุชื่อเจ้าทรัพย์นางพุ่ม แต่ครั้นนำมาสืบกลับปรากฎว่าชื่อนางนุ่ม และปรากฎว่าในบัญชีระบุพยานโจทก์ก็มีว่า นางนุ่ม เช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่าคำฟ้องของโจทก์ที่พิมพ์เป็นนางพุ่มไปนั้น เป็นเพียงการพิมพ์ผิดพลาดทำให้เพี้ยนไปเท่านั้น จึงไม่เป็นการแตกต่างถึงแก่จะให้ยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิมพ์ชื่อเจ้าทรัพย์ผิดพลาดในคำฟ้อง ไม่ถือเป็นการแตกต่างถึงแก่ยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องระบุชื่อเจ้าทรัพย์ว่านางพุ่ม แต่ครั้นนำมาสืบกลับปรากฏว่าชื่อ นางนุ่ม และปรากฏว่าในบัญชีระบุพยานโจทก์ก็มีว่า นางนุ่มเช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่าคำฟ้องของโจทก์ที่พิมพ์เป็นนางพุ่มไปนั้น เป็นเพียงการพิมพ์ผิดพลาดทำให้เพี้ยนไปเท่านั้น จึงไม่เป็นการแตกต่างถึงแก่จะให้ยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าฤชาธรรมเนียมค้างชำระ ศาลอุทธรณ์ไม่ยกฟ้อง แต่สั่งให้ชำระเพิ่มได้
ในกรณีที่คู่ความดำเนินคดีในชั้นศาลชั้นต้น มาโดยเสียค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้อง ตามกฎหมาย แต่ทั้งนี้เป็นเพราะศาลชั้นต้นไม่เรียกเก็บเสียให้ถูกเองมิใช่ว่าเรียกแล้ว คู่ความฝ่ายนั้นไม่ยอมปฏิบัติตาม ครั้นเมื่อมีการอุทธรณ์ ก็มิได้เสียค่าฤชาธรรมเนียมมาให้ถูกต้องอีกดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะยกเอาเหตุที่มิได้เสียค่าฤชาธรรมเนียมให้ถูกต้องตามกฎหมายมาเป็นเหตุให้ยกคำฟ้อง หรือคำร้องนั้นเสียไม่ได้ เมื่อเห็นว่าผู้อุทธรณ์ควรจะเสียเพิ่มขึ้นประการใดก็ชอบที่จะสั่งให้ผู้อุทธรณ์เสียให้ถูกต้อง เมื่อผู้อุทธรณ์ปฏิบัติตามแล้ว ก็ควรจะได้วินิจฉัยปัญหาในท้องสำนวนต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก 1 ปี: ศาลไม่ยกฟ้องเอง แม้ฝ่ายจำเลยไม่ได้ยกข้อต่อสู้
เรื่องอายุความมรดก 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 นั้นเมื่อไม่มีฝ่ายใดได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมาเป็นมูลยกฟ้องไม่ได้ตามมาตรา 193
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดสืบพยานและสิทธิในการดำเนินการพิจารณาต่อ ศาลไม่ควรยกฟ้องทันทีหากโจทก์แสดงเจตนาไม่ติดใจสืบพยานและขอให้สืบพยานจำเลย
โจทก์ขาดนัดในชั้นสืบพยานประเด็น เมื่อปรากฎว่าได้สืบพยานโจทก์ไปแล้ว 2 ปากรวมทั้งตัวโจทก์, และโจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องก่อนในวันเดียวกับที่ศาลพิพากษาเรื่องโจทก์ขาดนัดว่า โจทก์ไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ขอให้นัดสืบพยานจำเลย เช่นนี้ยังไม่สมควรจะยกฟ้องโจทก์
ป.ม.วิ.อาญามาตรา 181 บัญญัติให้นำเอามาตรา 166 อันเป็นบทบัญญัติในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาใช้บังคับในชั้นพิจารณาได้โดยอนุโลม ซึ่งหมายความว่าให้ใช้ได้ตามควรแก่กรณี
ป.ม.วิ.อาญามาตรา 181 บัญญัติให้นำเอามาตรา 166 อันเป็นบทบัญญัติในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาใช้บังคับในชั้นพิจารณาได้โดยอนุโลม ซึ่งหมายความว่าให้ใช้ได้ตามควรแก่กรณี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งเรื่องละเมิด เวลาคลาดเคลื่อนเล็กน้อยไม่ถึงเหตุยกฟ้อง
ในคดีแพ่ง กฎหมายมิได้บังคับเข้มงวดให้ระบุเวลากระทำผิดในคำฟ้องอย่างคดีอาญา ฉะนั้นหากว่าโจทก์จะมิได้ระบุเวลามาในคำฟ้องด้วย ศาลก็ย่อมจะต้องรับไว้พิจารณา
ฟ้องหาว่า จำเลยทำละเมิดในเวลากลางคืน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำละเมิดในเวลากลางวัน ในวันเดียวกันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องเวลาคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยไม่ถึงกับจะให้เห็นว่า เป็นการละเมิดคนละคราวกับที่ฟ้อง ยังไม่เป็นเหตุถึงแก่จะให้ยกฟ้อง
ฟ้องหาว่า จำเลยทำละเมิดในเวลากลางคืน แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำละเมิดในเวลากลางวัน ในวันเดียวกันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องเวลาคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยไม่ถึงกับจะให้เห็นว่า เป็นการละเมิดคนละคราวกับที่ฟ้อง ยังไม่เป็นเหตุถึงแก่จะให้ยกฟ้อง