คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การนำสืบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 160 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2662/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การปฏิเสธลอยและการนำสืบพยานหลักฐานนอกประเด็นคดีในสัญญาค้ำประกัน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 3 ค้ำประกันการกู้เบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ 1 สามคราวโดยทำสัญญาค้ำประกันให้โจทก์ไว้สามฉบับ ลงวันที่ต่างกัน และแนบสำเนาสัญญามาท้ายฟ้อง จำเลย 3 ให้การปฏิเสธไม่รับรองสำเนาสัญญาท้ายฟ้อง และว่า ได้เคยทำสัญญาค้ำประกันให้โจทก์ไว้ครั้งเดียวจึงขอปฏิเสธฟ้องของโจทก์ว่าไม่เป็นความจริง ดังนี้ ถือว่าคำให้การของจำเลยที่ 3 ไม่ชัดแจ้งว่า ทำสัญญาค้ำประกันให้โจทก์ไว้คราวใด รับหรือปฏิเสธสำเนาสัญญาท้ายฟ้องฉบับไหน เพียงใดหรือไม่ จึงเป็นคำให้การปฏิเสธลอย ไม่มีประเด็นที่จำเลยที่ 3 จะนำสืบได้ การที่ศาลชั้นต้นให้จำเลยที่ 3 นำสืบ และให้พิสูจน์ลายมือชื่อในสัญญาค้ำประกัน ทั้งที่จำเลยที่ 3ไม่มีสิทธินำสืบ และไม่ได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นในเรื่องลายมือชื่อในสัญญาไว้ จึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาและนอกประเด็นพิพาทรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความหนี้จากการกู้ยืม - การรับสภาพหนี้ - การนำสืบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2505 และ 18 กรกฎาคม 2505จำเลยได้ยืมเงินโจทก์ไป ได้ทำสัญญากู้ไว้โดยไม่ได้ระบุเวลาชำระเงินแต่จำเลยสัญญาว่าจะชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ภายใน 3 ปีครบกำหนดในพ.ศ. 2508 จำเลยไม่ชำระหนี้ จำเลยให้การรับว่าได้ยืมเงินโจทก์ไปจริงตามฟ้อง แต่ได้หักหนี้กันไปแล้ว และคดีขาดอายุความ เรื่องกำหนดเวลาใช้เงิน 3 ปีก็ดี เรื่องหนี้ถึงกำหนดชำระในพ.ศ. 2508 ก็ดี จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธไว้ ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยรับตามฟ้อง และโจทก์ไม่จำต้องสืบพยานในข้อนี้เพราะฟังได้แล้วว่าครบกำหนดชำระหนี้เมื่อพ.ศ. 2508 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2515 คดีจึงยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยคดีต้องอาศัยพยานหลักฐานจากการนำสืบของคู่ความ การงดสืบพยานก่อนพิพากษาเป็นวิธีปฏิบัติที่ไม่ชอบ
คดีมีประเด็นข้อพิพาทตามคำฟ้องคำให้การว่า จำเลยซื้อที่พิพาทจากโจทก์ หรือโจทก์มอบที่พิพาทให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ในการวินิจฉัยคดีนั้น ศาลจะเชื่อประการใดก็โดยอาศัยข้อเท็จจริงจากการนำสืบของคู่ความซึ่งเสร็จสิ้นแล้ว ลำพังแต่คำเบิกความของโจทก์ผู้เดียวซึ่งเบิกความตอบทนายโจทก์และตอบทนายจำเลยไม่ตรงกัน จะฟังเป็นความจริงเป็นดังที่ตอบทนายโจทก์หรือทนายจำเลยประการหนึ่งประการใดย่อมไม่ได้ ดังนี้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย โดยฟังคำเบิกความของโจทก์คนเดียวซึ่งเบิกความตอบทนายโจทก์และตอบทนายจำเลยไม่ตรงกัน แล้ววินิจฉัยว่าโจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลย และพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียนั้น จึงเป็นการมิชอบด้วยวิธีพิจารณาความศาลสูงย่อมย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานของคู่ความต่อไปจนสิ้นกระแสความแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบุกรุกที่ดินต้องระบุที่ตั้งและเนื้อที่ให้ถูกต้อง หากโจทก์นำสืบไม่ตรงตามฟ้อง ศาลไม่สามารถลงโทษจำเลยได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่นาเนื้อที่ 13 ไร่เศษ ตั้งอยู่หมู่ที่ 10 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ แต่โจทก์กลับนำสืบว่าจำเลยบุกรุกที่ดินในหมู่ที่ 3 มีเนื้อที่ 16-20 ไร่ ผิดจากฟ้องทั้งเนื้อที่กับที่ตั้งของที่ดินแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง จะลงโทษจำเลยฐานบุกรุกที่ดินตามฟ้องไม่ได้ และกรณีเช่นนี้จะถือว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบรายละเอียดการกระทำของจำเลยที่ผูกพันรับผิดตามสัญญาซื้อสินค้าเชื่อ ไม่ถือเป็นการสืบนอกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายใบขอซื้อสินค้าเชื่อซึ่งจำเลยลงชื่อไว้ให้โจทก์และรับเงินไปจากโจทก์ โดยจำเลยรับรองว่าหากโจทก์นำใบขอซื้อสินค้าเชื่อนั้นไปขึ้นสินค้าไม่ได้ จำเลยยอมคืนเงินให้ ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า ภริยาจำเลยเป็นผู้นำใบขอซื้อสินค้าเชื่อของจำเลยไปขายให้โจทก์และรับเงินไปจากโจทก์ ทั้งนี้โดยจำเลยบอกโจทก์ว่าจำเลยต้องขับรถไม่มีเวลามาติดต่อ จึงใช้ให้ภริยาจำเลยมาติดต่อ และจำเลยรับรองกับโจทก์ว่าถ้าโจทก์ไปรับสินค้าไม่ได้ จำเลยจะคืนเงินให้การนำสืบของโจทก์ดังกล่าวนี้เป็นการสืบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยที่จำเลยได้มาขายสิทธิตามใบขอซื้อสินค้าเชื่อของตน อันเป็นมูลเหตุแห่งหนี้ที่จำเลยได้เข้าตกลงยินยอมผูกพันรับผิดต่อโจทก์ด้วยตัวของจำเลยเอง จึงเกี่ยวแก่ประเด็นแห่งคดีโดยตรง โจทก์มีสิทธินำสืบได้ หาเป็นการสืบนอกฟ้องไม่
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบหลักฐานการชำระหนี้ด้วยบันทึกรับเงินที่มีลายมือชื่อโจทก์
โจทก์ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย 20,625 บาทจำเลยให้การว่า ได้ชำระแก่โจทก์แล้วสองคราว ๆ แรกชำระดอกเบี้ยด้วยเงินสด 1,500 บาท ครั้งที่สองชำระด้วยเช็ค 12,000 บาทแต่ถึงกำหนดเช็คไม่มีเงิน จึงถูกโจทก์แจ้งความเอาผิดต่อตำรวจจำเลยได้นำเงิน 12,000 บาทไปมอบให้พนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวนได้บันทึกและให้โจทก์เซ็นรับเงินดังกล่าวไว้ในบันทึกนั้นแล้ว จำเลยย่อมนำสืบอ้างบันทึกซึ่งมีลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้กู้ว่าได้มีการใช้เงินได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 830/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีโดยอ้างความไม่สมบูรณ์ของสัญญา และการนำสืบเพื่อพิสูจน์จำนวนเงินกู้จริง
โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยชำระเงินตามสัญญากู้จำนวน 20,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การต่อสู้ว่าความจริงโจทก์ให้จำเลยกู้ไปเพียง 1,000 บาท แต่โจทก์หลอกลวงให้จำเลยทำสัญญากู้กับโจทก์ไว้ 20,000 บาท เพื่อให้โจทก์ยึดถือไว้แทนเงินกู้ 1,000 บาท โดยโจทก์จะไม่นำสัญญากู้นี้ไปใช้สิทธิเรียกร้องใด ๆ ดังนี้ เป็นการนำสืบถึงความไม่สมบูรณ์ของสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้อง ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการละเมิดอำนาจศาล: การเบิกความของพยานที่ตอบคำถามตามการนำสืบของคู่ความ ไม่ถือว่าก้าวร้าว เสียดสี ดูหมิ่นศาล
แม้คำเบิกความของพยานจะมีข้อความหมายให้เห็นไปในทำนองเสียดสีดูหมิ่นศาล แต่เมื่อข้อความตามคำเบิกความของพยานเกิดขึ้นจากการตอบคำถามของศาลหรือของโจทก์จำเลยอันเป็นประเด็นที่คู่ความนำสืบกันมาในคดี ดังนี้ จะถือว่าพยานถือโอกาสเบิกความก้าวร้าว เสียดสีดูหมิ่นศาลเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลยังไม่ได้พยานจึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำและการนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญากู้ยืม: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการฟ้องซ้ำและขอบเขตการนำสืบพยานเพื่อหักล้างข้อตกลงในสัญญา
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายด้วยมูลหนี้สัญญากู้ เมื่อศาลยกฟ้องแล้วโจทก์นำสัญญากู้นั้นมาฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยอีกดังนี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้ไว้ให้โจทก์จริงและในสัญญามีข้อความว่าได้รับเงินกู้ไปแล้ว การที่จะให้จำเลยนำสืบว่าความจริงจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ แต่ได้ทำสัญญากู้ไว้เพื่อเป็นประกัน ป.ลูกหนี้ของโจทก์ ดังนี้ เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบการชำระดอกเบี้ยด้วยการมอบที่ดิน แม้ไม่มีหลักฐานการมอบให้ทำกินต่างดอกเบี้ย
แม้ในสัญญากู้จะเขียนว่า ได้เอาที่ไร่ให้โจทก์ไว้เป็นประกัน โดยไม่ปรากฏว่าได้มอบที่ไร่ให้ทำกินต่างดอกเบี้ยก็ตาม จำเลยก็นำสืบได้ เพราะเป็นการนำสืบการชำระเงินดอกเบี้ย
of 16