พบผลลัพธ์ทั้งหมด 141 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานกรรโชก: การอ้างตัวเป็นเจ้าพนักงานขู่เข็ญเอาทรัพย์สิน ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 303
ในเรื่องความผิดฐานกรรโชก โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจแต่อ้างว่าเป็นตำรวจใช้วาจาขู่เข็ญว่าไม่ให้เงินจะมีเรื่องเป็นการขู่เข็ญขืนใจให้มีความกลัวตาม ม. 303 ดังนี้เป็นฟ้องที่ สมบูรณ์
ข้อเท็จจริงที่ได้ความว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจแต่อ้างว่าเป็นตำรวจขู่เข็ญผู้เสียหายให้+ส่งเงินให้ถ้าไม่ให้จะมีเรื่อง และผู้เสียหายได้+ส่งเงินให้โดยจำเลยไม่มีอำนาจทำได้ตาม ก.ม.ดังนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เข้าเกณฑ์ความผิดฐานกรรโชก
แม้โจทก์จะแถลงว่าติดใจสืบพยานเพียงเท่านี้ เมื่อจำเลยอ้างตัวเองเบิกความเป็นพยาน โจทก์ก็ชอบที่จำนำคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่โจทก์ไม่ติดใจสืบยื่นเป็นพยานต่อศาลเพื่อพิสูจน์คำให้การของจำเลยได้ เมื่อศาลเห็นว่ามีมูลก็มีอำนาจรับไว้วินิจฉัย
ข้อเท็จจริงที่ได้ความว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจแต่อ้างว่าเป็นตำรวจขู่เข็ญผู้เสียหายให้+ส่งเงินให้ถ้าไม่ให้จะมีเรื่อง และผู้เสียหายได้+ส่งเงินให้โดยจำเลยไม่มีอำนาจทำได้ตาม ก.ม.ดังนี้เป็นข้อเท็จจริงที่เข้าเกณฑ์ความผิดฐานกรรโชก
แม้โจทก์จะแถลงว่าติดใจสืบพยานเพียงเท่านี้ เมื่อจำเลยอ้างตัวเองเบิกความเป็นพยาน โจทก์ก็ชอบที่จำนำคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่โจทก์ไม่ติดใจสืบยื่นเป็นพยานต่อศาลเพื่อพิสูจน์คำให้การของจำเลยได้ เมื่อศาลเห็นว่ามีมูลก็มีอำนาจรับไว้วินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบปล้นทรัพย์: การขู่เข็ญฉวยโอกาสช่วงเล่นการพนัน และเจตนาเอาทรัพย์สิน
เมื่อ่จำเลยฉวยโอกาศในขณะที่ผู้เสียหายกำลังเล่นการพนันโดยใช้ไม้ตะบองขู่เข็ญว่าจะทำร้ายและค้นเอาเงินจากผู้เสียหายไป แล้วหาได้จับกุมฐานเล่นการพนันไม่ ดังนี้ จำเลยมีผิดฐานสมคบกันปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกรรโชก: พยานหลักฐานยังไม่พอฟังว่าผู้เสียหายให้เงินโดยสมัครใจ
คดีหาว่าจำเลยกรรโชกโจทก์สืบพยานได้ 2 ปาก ได้ความว่า จำเลยจับผู้เสียหายมาล่ามโซ่ไว้แล้วพูดจาเรื่องเงินกัน โดยจำเลยว่าเมื่อเสียเงิน 400 บาทแล้วจะปล่อย ศาลสั่งงดสืบพยานต่อไป โดยเห็นว่ายังไม่เป็นผิดฐานกรรโชกนั้น เป็นการไม่ชอบ เพราะคดียังไม่พอรับฟังเป็นเด็กขาดว่าผู้เสียหายเต็มใจให้เงินเองโดยปราศจากการขู่เข็ญ ควรสืบพยานต่อไปจนสิ้นกระแสร์ความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขู่เข็ญด้วยอาวุธและการชิงทรัพย์ แม้ไม่ได้ขอในฟ้อง ศาลแก้ไขฐานความผิดได้
พวกจำเลยคนหนึ่งได้ชักวัตถุมีด้ามจากพุง ทำกริยาชักเข้าชักออก ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นมีดมีความกลัว แล้วพวกของจำเลยได้กระชากปากกาจากกระเป๋าเสื้อของผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายมิได้ขัดขวางอย่างใด ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย เพื่อจะเอาทรัพย์หรือให้ผู้เสียหายส่งทรัพย์ให้และพวกของจำเลยได้ดึงปากกาที่กระเป๋าของผู้เสียหายไป จึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 880/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์โดยขู่เข็ญด้วยอาวุธ ผู้เสียหายไม่ขัดขวาง ถือเป็นเหตุชิงทรัพย์ได้ แม้ไม่ได้ขอในฟ้อง
พวกจำเลยคนหนึ่งได้ชักวัตถุมีด้ามจากพุง ทำกริยาชักเข้าชักออกซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นมีดมีความกลัว แล้วพวกของจำเลยได้กระชากปากกาจากกระเป๋าเสื้อของผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายมิได้ขัดขวางอย่างใดดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย เพื่อจะเอาทรัพย์หรือให้ผู้เสียหายส่งทรัพย์ให้และพวกของจำเลยได้ดึงปากกาที่กระเป๋าของผู้เสียหายไป จึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การสมคบร่วมกัน, การขู่เข็ญด้วยอาวุธ, และการกระทำสำเร็จความผิด
จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งเข้าทำการชิงทรัพย์นอกจากนี้แล้วยังมีพรรคพวกซึ่งมาด้วยกันแล้วหลบหนีไปด้วยกันอีก บรรดาพรรคพวกนั้นยืนคุมเชิงอยู่ในลักษณะเตรียมร่วมมือด้วย นับได้ว่าจำเลยได้สมคบกับพวกมีจำนวนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป จึงเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
พวกของจำเลยคนหนึ่งเข้าไปขอเงินเจ้าทรัพย์ เจ้าทรัพย์ให้น้อย พวกจำเลยจึงหยิบเงินเอาเอง พวกเจ้าทรัพย์เข้าแย่งเงินหล่นลงที่พื้น จำเลยง้างมีดทำท่าจะแทงถือได้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว
พวกของจำเลยคนหนึ่งเข้าไปขอเงินเจ้าทรัพย์ เจ้าทรัพย์ให้น้อย พวกจำเลยจึงหยิบเงินเอาเอง พวกเจ้าทรัพย์เข้าแย่งเงินหล่นลงที่พื้น จำเลยง้างมีดทำท่าจะแทงถือได้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ไม้ขนาดยาวขู่เข็ญเป็นศาสตราวุธในคดีปล้นทรัพย์
ไม้จริงขนาดยาว 2 ศอกโตเท่าแขน ตามธรรมดาแล้ว ย่อมสามารถจะทำให้ร่างกายแตกหักบุบสลายถึงสาหัสได้ เมื่อใช้ไม้นี้ขู่เข็ญจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ในการชิงทรัพย์ ก็ถือได้ว่าไม้นั้นเป็นศาสตราวุธตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 6(15) และเมื่อผู้กระทำผิดร่วมกันทำตั้งแต่สามคนขึ้นไป ก็ย่อมมีผิดฐานปล้นทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดต่อเจ้าพนักงาน: การขู่เข็ญขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 119,120 โดยบรรยายถึงการกระทำของจำเลยมีใจความว่า "จำเลยสมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย " แล้วบรรยายข้อเท็จจริงประกอบนั้น การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา120 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตามป.ม.วิ.อาญามาตรา 176
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสมคบกันขู่เข็ญขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา119, 120 โดยบรรยายถึงการกระทำของจำเลยมีใจความว่า 'จำเลยสมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย' แล้วบรรยายข้อเท็จจริงประกอบนั้น การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 120 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวจากการถูกทำร้ายและการขู่เข็ญด้วยอาวุธ
ชายหญิงได้เสียเป็นสามีภริยากันโดยได้เสียกันเองมีบุตรด้วยกัน 1 คนแล้วเลิกกันหญิงไปมีสามีใหม่ต่อมาชายพบหญิงอ้อนวอนหญิงให้กลับไปอยู่กินด้วยกันอีก หญิงไม่ยอม อ้อนวอนอยู่หลายครั้งหญิงก็ไม่ยอมชายจึงใช้กำลังเข้าจับมือหญิงทั้ง 2 ข้างฉุดจะให้ไปกับตน และชักมีดปลายแหลมออกมาขู่จะแทงถ้าหญิงไม่ยอมไป หญิงจึงแย่งมีดนั้นได้ชายยังคงจับมือหญิงอยู่อีกมือหนึ่ง แล้วจะแย่งมีดกลับคืนหญิงจึงแทงชายไป 1 ที ถูกที่เหนือนมซ้าย อยู่ได้อีกประเดี๋ยวหนึ่ง ชายก็ถึงแก่ความตายดังนี้ ย่อมถือว่าการกระทำของหญิง เป็นการกระทำเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ตายฉุดหญิงไปและไม่ให้แย่งมีดคืน เพราะถ้าแย่งมีดคืนไปได้ ผู้ตายอาจแทงหญิงก็ได้ จึงนับว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ