คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความชัดเจน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 233 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องเคลือบคลุม – การแสดงรายละเอียดสินค้าและราคายังไม่ชัดเจน – คำฟ้องไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้เบิกสินค้าต่าง ๆ ไปจากโจทก์นำไปขายคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,551,387.40 บาท แต่จำเลยได้ส่งสินค้าคืนหักค่าใช้จ่ายค่าของแถม และส่งเงินสดให้โจทก์แล้วเป็นเงิน 1,412,710.30 บาท จึงเหลือเงินที่จำเลยยังไม่ได้ส่งให้โจทก์รวม 138,677.10 บาท และเงินค่าสินค้าที่จำเลยเบิกไปขายซึ่งยังไม่ได้ส่งให้โจทก์ยกมาจากปีก่อนอีกรวม 39,728 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 177,955.10 บาท ปรากฏตามพยานหลักฐาน (ใบรับของแผนกแคชเซล) ซึ่งโจทก์จะได้นำส่งศาลในวันพิจารณาต่อไป ดังนี้ โจทก์มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 เบิกรับไปจากโจทก์ไปขายนั้น เป็นสินค้าอะไร จำนวนและราคาเท่าใด ได้ส่งสินค้าอะไร จำนวนและราคาเท่าใดคืน จึงรวมเป็นเงินที่จำเลยส่งคืนแล้วและจำนวนเงินที่จำเลยยังไม่ได้ส่งให้โจทก์ตามจำนวนที่โจทก์ฟ้อง ทั้งมิได้แนบสำเนาเอกสารที่เกี่ยวกับสินค้าที่จำเลยรับไปและส่งคืนมาท้ายคำฟ้อง ที่โจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่าปรากฏตามพยานหลักฐาน (ใบรับแผนกแคชเซล) ซึ่งโจทก์จะได้นำส่งศาลในชั้นพิจารณาต่อไปนั้น แม้ภายหลังโจทก์จะส่งพยานหลักฐานดังกล่าวต่อศาล พยานหลักฐานนั้นก็มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องจะเอามาพิจารณาประกอบคำฟ้องหาได้ไม่ คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเป็นคำฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องเคลือบคลุม – จำเป็นต้องระบุรายละเอียดสินค้าและจำนวนเงินที่ชัดเจนในคำฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้เบิกสินค้าต่าง ๆ ไปจากโจทก์นำไปขายคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,551,387.40 บาท แต่จำเลยได้ส่งสินค้าคืนหักค่าใช้จ่ายค่าของแถม และส่งเงินสดให้โจทก์แล้วเป็นเงิน 1,412,710.30บาท จึงเหลือเงินที่จำเลยยังไม่ได้ส่งให้โจทก์รวม 138,677.10 บาทและเงินค่าสินค้าที่จำเลยเบิกไปขายซึ่งยังไม่ได้ส่งให้โจทก์ยกมาจากปีก่อนอีกรวม 39,728 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 177,955.10 บาท ปรากฏตามพยานหลักฐาน(ใบรับของแผนกแคชเซล) ซึ่งโจทก์จะได้นำส่งศาลในวันพิจารณาต่อไปดังนี้ โจทก์มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 เบิกรับไปจากโจทก์ไปขายนั้น เป็นสินค้าอะไร จำนวนและราคาเท่าใด ได้ส่งสินค้าอะไรจำนวนและราคาเท่าใดคืนจึงรวมเป็นเงินที่จำเลยส่งคืนแล้วและจำนวนเงินที่จำเลยยังไม่ได้ส่งให้โจทก์ตามจำนวนที่โจทก์ฟ้องทั้งมิได้แนบสำเนาเอกสารที่เกี่ยวกับสินค้าที่จำเลยรับไปและส่งคืนมาท้ายคำฟ้องที่โจทก์บรรยายฟ้องต่อไปว่าปรากฏตามพยานหลักฐาน (ใบรับแผนกแคชเซล) ซึ่งโจทก์จะได้นำส่งศาลในชั้นพิจารณาต่อไปนั้น แม้ภายหลังโจทก์จะส่งพยานหลักฐานดังกล่าวต่อศาลพยานหลักฐานนั้นก็มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องจะเอามาพิจารณาประกอบคำฟ้องหาได้ไม่ คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเป็นคำฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2657/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานยักยอก: รายละเอียดเวลา สถานที่ และพฤติการณ์สำคัญเพียงพอหรือไม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2521 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ผู้เสียหายได้นำผ้า 4 กล่อง ไปฝากไว้กับจำเลย จำเลยได้รับมอบผ้าทั้ง 4 กล่อง จากผู้เสียหายไว้ในความครอบครองของจำเลย แล้วในวันนั้นเองระหว่างเวลาประมาณ 16 - 20 นาฬิกา เวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยโดยเจตนาทุจริตได้เบียดบังยักยอกผ้าทั้ง 4 กล่องดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตน ดังนี้ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆ อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี และครบองค์ประกอบความผิดฐานยักยอกแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 225/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2657/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานยักยอก การบรรยายฟ้องที่ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2521 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ผู้เสียหายได้นำผ้า 4 กล่อง ไปฝากไว้กับจำเลย จำเลยได้รับมอบผ้าทั้ง 4 กล่องจากผู้เสียหายไว้ในความครอบครองของจำเลย แล้วในวันนั้นเองระหว่างเวลาประมาณ 16-20 นาฬิกา เวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยโดยเจตนาทุจริตได้เบียดบังยักยอกผ้าทั้ง 4 กล่องดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตน ดังนี้ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี และครบองค์ประกอบความผิดฐานยักยอกแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 225/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2350/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนในการระบุความเสียหายในคำฟ้อง: ฟ้องไม่เคลือบคลุมแม้รวมยอด
โจทก์บรรยายความเสียหายที่ได้รับระบุแยกไว้เป็นแต่ละรายการโดยชัดแจ้ง แม้ในคำฟ้องโจทก์เรียกค่าเสียหายเป็นค่าทำขวัญที่โจทก์ที่ 2 ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองและฟันหักหลายซี่ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาพยาบาลโจทก์ที่ 3 เป็นเงินรวมกันมามิได้แยกว่าโจทก์แต่ละคนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินคนละเท่าใดแต่โจทก์ก็ได้กล่าวถึงความเสียหายที่โจทก์แต่ละคนได้รับไว้เพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจและจำเลยก็สามารถให้การต่อสู้คดีในข้อนี้ได้โดยถูกต้อง ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2430/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนในการฟ้องคดีอาญา: เจตนาทุจริตและฐานความผิด
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยกับ ฮ. ได้กระบือ 3 ตัวของผู้เสียหายมาไว้ในครอบครอง แล้วจำเลยกับ ฮ. ร่วมกันเอากระบือของผู้เสียหายดังกล่าว ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย จำเลยทุจริต ใช้ จ้าง วาน ฮ. ไปหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อส่งมอบกระบือให้ ได้กระบือมาโดยเจตนาฉ้อโกงแต่แรก หรือมิฉะนั้นมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกกระบือที่ผู้เสียหายมอบให้ ภายหลังที่ได้กระบือมาครอบครอง ดังนี้เป็นการบรรยายว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง มิใช่กระทำความผิดสองฐานในคราวเดียวกัน ฟ้องของโจทก์ไม่ขัดกัน จำเลยมีความตั้งใจอย่างไรเป็นเรื่องในใจของจำเลย ซึ่งจำเลยควรเข้าใจข้อหาได้ดีว่าโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดอย่างใด ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2010/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของวันเวลาเกิดเหตุในฟ้องอาญา: ฟ้องไม่เคลือบคลุมหากระบุช่วงเวลาและรายละเอียดเพียงพอให้จำเลยเข้าใจ
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับเวลากระทำผิดในข้อหาบุกรุกหมิ่นประมาท และ ดูหมิ่นโจทก์ว่า เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2521 ถึงปลายเดือนสิงหาคม 2521 วันใดไม่ปรากฏชัด เวลากลางวันนั้นเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำความผิดเป็นรายละเอียดมาด้วยซึ่งพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2352/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาข้อหาเบียดบังทรัพย์ ต้องระบุรายละเอียดการกระทำที่ชัดเจนเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยครอบครองเรือยนต์ของผู้เสียหายโดยผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยนำไปทำการดูดแร่ในทะเลแล้วจำเลยเบียดบังเอาเรือยนต์นั้นเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ดังนี้ ข้อกล่าวหาที่ว่าจำเลยเบียดบังนั้น โจทก์มิได้ระบุ การกระทำของจำเลยให้ชัดว่าจำเลยกระทำการอย่างไรที่พอจะถือได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาเรือยนต์ไปเป็นของจำเลยหรือบุคคลที่สาม โดยทุจริต เมื่อโจทก์ไม่บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควร เท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1057/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53-54/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องเคลือบคลุม: จำเป็นต้องระบุรายละเอียดงานที่จำเลยไม่เสร็จในสัญญาจ้าง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้เงินค่าก่อสร้างซึ่งเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องทำตามสัญญาแต่จำเลยไม่ทำ เป็นเหตุให้โจทก์ต้องจ้างบุคคลอื่นมาทำแทน แต่โจทก์บรรยายว่าจำเลยได้ละทิ้งงานก่อสร้างไปโดยงานก่อสร้างยังไม่เสร็จอยู่ 28 รายการ โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยมาทำการก่อสร้างให้เสร็จ จำเลยมาก่อสร้างให้เพียง 7 รายการ ยังเหลืออยู่อีก 21 รายการ ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดว่า งานที่จำเลยยังทำไม่เสร็จ 28 รายการนั้นคือรายการใดบ้าง มาทำเสร็จไปอีก 7 รายการ คือรายการใดบ้าง และยังค้างอยู่ 21 รายการ อันจำเลยจะต้องรับผิดในการที่โจทก์ต้องจ้างบุคคลอื่นมาทำนั้นคือรายการใด แม้โจทก์จะได้กล่าวไว้ว่าโจทก์จะได้นำเสนอต่อศาลในชั้นพิจารณา ก็ไม่ช่วยให้คำบรรยายฟ้องแจ้งชัดขึ้น คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้เงินที่จำเลยกระทำการก่อสร้างไม่เสร็จภายในกำหนดแห่งสัญญา โดยบรรยายข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่า จำเลยก่อสร้างไม่เสร็จภายใน 300 วันตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 กันยายน 2516 หากจำเลยทำงานไม่เสร็จภายในกำหนด ยอมให้โจทก์ปรับวันละ 500 บาท คำฟ้องดังกล่าวเป็นเรื่องเรียกเบี้ยปรับในกรณีที่จำเลยไม่ชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา เพียงแต่บรรยายว่าจำเลยไม่กระทำการก่อสร้างให้เสร็จภายในกำหนดแห่งสัญญาก็แจ้งชัดพอแล้ว แม้จะไม่มีรายละเอียดการก่อสร้างที่อ้างว่าทำไม่เสร็จ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความสัญญากู้ที่ไม่ชัดเจนเรื่องดอกเบี้ย การสืบพยานบุคคลเพื่ออธิบายความหมายของสัญญา
เมื่อสัญญากู้ระบุเรื่องดอกเบี้ยไว้แต่เพียงร้อยละห้าไม่ชัดเจนว่าร้อยละห้าสลึงหรือร้อยละห้าบาท โจทก์มีสิทธิสืบพยานบุคคลได้ว่าดอกเบี้ยที่ระบุในสัญญากู้นั้นร้อยละห้าสลึงได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรค 2 เพราะเป็นการสืบอธิบายความหมายของสัญญากู้ มิใช่เป็นการสืบเพิ่มเติม ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารสัญญากู้
of 24