พบผลลัพธ์ทั้งหมด 189 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495-496/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นก่อน จึงจะมีความผิดฐานสนับสนุนได้
การที่ผู้สนับสนุนผู้กระทำความผิดจะต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100 นั้น จะต้องมีการกระทำผิดเกี่ยวกับการผลิต จำหน่าย นำเข้าหรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวเกิดขึ้นก่อน ไม่ว่าจะเป็นในขั้นพยายามหรือความผิดสำเร็จโดยมีหลักเดียวกับหลักทั่วไปของการสนับสนุนผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น เมื่อปรากฏว่ากัญชาที่จะส่งออกนอกราชอาณาจักรอยู่ในขั้นเตรียมการ ยังไม่ถึงขั้นพยายามกระทำความผิด แม้จำเลยจะได้ช่วยเหลือในการที่จะส่งกัญชาออกนอกราชอาณาจักร ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานสนับสนุนให้มีการส่งกัญชาออกนอกราชอาณาจักรส่วนการแกล้งละเลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นการกระทำความผิดก็มิได้หมายความว่าเป็นการสนับสนุนทางอ้อมเสมอไป เพราะการละเว้นไม่ขัดขวางในเมื่อไม่มีหน้าที่ขัดขวางไม่ถือเป็นการกระทำโดยงดเว้นตามประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3211/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานชิงทรัพย์สำเร็จหรือไม่ เมื่อสร้อยคอขาดแต่ยังอยู่ในมือชั่วคราว
พวกจำเลยทำร้ายคนที่นั่งอยู่กับผู้เสียหาย จำเลยวิ่งเข้ามากระชากสร้อยคอจากคอผู้เสียหายขาดหล่นลงที่พื้น จำเลยก้มลงจะหยิบเอา แต่ผู้เสียหายหยิบเอาไว้ได้ก่อนการที่สร้อยขาด แม้จะเป็นผลให้ สร้อยติดมือจำเลยชั่วระยะหนึ่ง แต่เป็นการกระทำที่มุ่งหมายให้สร้อยขาดหลุดเท่านั้น จะถือว่าจำเลยยึดถือสร้อยไว้แล้วหาได้ไม่ การยึดถือสร้อยยังไม่บรรลุผลจึงเป็นความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ ไม่ใช่ความผิดสำเร็จ ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2567/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานยักยอกและปลอมเอกสาร การถอนฟ้องอาญา และการกำหนดจำนวนกรรม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 353 ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ร่วมขอถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) และโจทก์ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับจำเลยคืนหรือใช้เงินที่ขาดแก่โจทก์ร่วม ส่วนข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265 ไม่ใช่ความผิดอันยอมความได้สิทธิฟ้องของอัยการยังไม่ระงับ
เมื่อมีลูกค้าแต่ละรายนำเงินมาชำระ จำเลยก็ปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินให้มีจำนวนเงินน้อยกว่าเงินที่รับจริงแล้วยักยอกเงินส่วนที่เกินไว้นั้นการปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินฉบับหนึ่งแล้วยักยอกเอาเงินจำนวนที่เกินกว่าสำเนาใบเสร็จนั้นไว้ครั้งหนึ่ง ย่อมเป็นความผิดสำเร็จกรรมหนึ่งตั้งแต่เวลายักยอกเงินจำนวนนั้นแล้ว การที่จำเลยรวบรวมเงินแต่ละวันส่งให้หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ร่วม เป็นแต่เพียงการปฏิบัติตามหน้าที่ของจำเลย หาใช่เป็นการยักยอกเงินในตอนนั้นไม่
สำเนาใบเสร็จรับเงินเป็นเพียงหลักฐานแสดงว่าได้มีการออกต้นฉบับใบเสร็จรับเงินมีข้อความตรงกับสำเนาใบเสร็จเท่านั้น ไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอนสงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ อันจะถือว่าเป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9)
เมื่อมีลูกค้าแต่ละรายนำเงินมาชำระ จำเลยก็ปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินให้มีจำนวนเงินน้อยกว่าเงินที่รับจริงแล้วยักยอกเงินส่วนที่เกินไว้นั้นการปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินฉบับหนึ่งแล้วยักยอกเอาเงินจำนวนที่เกินกว่าสำเนาใบเสร็จนั้นไว้ครั้งหนึ่ง ย่อมเป็นความผิดสำเร็จกรรมหนึ่งตั้งแต่เวลายักยอกเงินจำนวนนั้นแล้ว การที่จำเลยรวบรวมเงินแต่ละวันส่งให้หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ร่วม เป็นแต่เพียงการปฏิบัติตามหน้าที่ของจำเลย หาใช่เป็นการยักยอกเงินในตอนนั้นไม่
สำเนาใบเสร็จรับเงินเป็นเพียงหลักฐานแสดงว่าได้มีการออกต้นฉบับใบเสร็จรับเงินมีข้อความตรงกับสำเนาใบเสร็จเท่านั้น ไม่ใช่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอนสงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ อันจะถือว่าเป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3239/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขัดขวางการจับกุม – วันเกิดเหตุคลาดเคลื่อน – คำสั่งไม่ฟ้องไม่กระทบความผิด
พยานโจทก์ปากหนึ่งเบิกความถึงวันเกิดเหตุแตกต่างไปจากคำเบิกความของพยานโจทก์อีกสองปากที่เบิกความถึงวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นกรณีที่พยานโจทก์ปากนั้นจำวันเกิดเหตุคลาดเคลื่อนไป เมื่อศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยคำพยานดังกล่าวประกอบพยานหลักฐานอื่นฟังข้อเท็จจริงว่าวันเวลาเกิดเหตุตรงตามที่โจทก์บรรยายในคำฟ้องจึงถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง
การที่จำเลยขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจในการเข้าจับกุม ก. ในข้อหาเล่นการพนัน ซึ่งเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยไม่ปรากฏว่าการเข้าจับกุมดังกล่าวฝ่าฝืนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย่อมเป็นความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 แล้ว แม้ต่อมาพนักงานอัยการจะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ก. ก็จะถือว่าไม่มีการเล่นการพนัน หรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจฝ่าฝืนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่
การที่จำเลยขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจในการเข้าจับกุม ก. ในข้อหาเล่นการพนัน ซึ่งเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยไม่ปรากฏว่าการเข้าจับกุมดังกล่าวฝ่าฝืนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย่อมเป็นความผิดสำเร็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 แล้ว แม้ต่อมาพนักงานอัยการจะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ก. ก็จะถือว่าไม่มีการเล่นการพนัน หรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจฝ่าฝืนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงหลายกรรมต่างกัน แม้ออกเช็คชำระราคารวม แต่การส่งมอบสินค้าแต่ละครั้งถือเป็นความผิดสำเร็จ
สิทธิฎีกาของคู่ความนั้นจะต้องพิจารณาเป็นกระทงความผิดไปศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษจำคุกจำเลยฐานฉ้อโกงกระทงละ 2 ปีรวม 3 กระทง เป็น 6 ปี และจำคุกฐานใช้เอกสารปลอมอีกกระทงหนึ่งมีกำหนด 3 ปี รวม 9 ปี ดังนี้ จำเลยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
การที่จำเลยหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งสินค้าให้ 3 ครั้งและออกเช็คปลอมชำระราคาให้ในคราวเดียวการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จทุกครั้งที่ผู้เสียหายส่งมอบสินค้าให้การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งสินค้าให้ 3 ครั้งและออกเช็คปลอมชำระราคาให้ในคราวเดียวการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จทุกครั้งที่ผู้เสียหายส่งมอบสินค้าให้การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3411/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์สำเร็จ: การเคลื่อนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ตั้งเดิมถือเป็นความผิดสำเร็จ
จำเลยนำกบไฟฟ้าของผู้เสียหายจากตึกชั้นสองขึ้นไปเก็บบนตึกหลังเดียวกันชั้นสามซึ่งเป็นที่อาศัยนอนของจำเลยเป็นการเคลื่อนย้ายจากที่ตั้งปกติและแย่งการครอบครองทรัพย์นั้นไปจากผู้เสียหายแล้ว อยู่ในสภาพพร้อมที่จะนำไปให้พ้นจากตึกของผู้เสียหายเมื่อมีโอกาส การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกเงิน: ความผิดสำเร็จรายวัน ไม่ถือเป็นกรรมเดียว
เจ้าพนักงานยักยอกเงิน เป็นความผิดสำเร็จแต่ละวันที่ไม่นำเงินส่งตามหน้าที่เป็นรายกระทง ไม่ใช่รวมกันทุกวันเป็นความผิดกรรมเดียว
คำสั่งนายอำเภอให้เจ้าพนักงานรับเงินรวบรวมส่งต่อไปตามระเบียบย่อมมีหน้าที่รักษาเงินในระหว่างนั้น ชั่วเวลาสั้นหรือยาวก็ตามการรับเงินรวบรวมส่งต่อไปเป็นการจัดการทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ด้วย
คำสั่งนายอำเภอให้เจ้าพนักงานรับเงินรวบรวมส่งต่อไปตามระเบียบย่อมมีหน้าที่รักษาเงินในระหว่างนั้น ชั่วเวลาสั้นหรือยาวก็ตามการรับเงินรวบรวมส่งต่อไปเป็นการจัดการทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2440/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีฉ้อโกง: การกระทำความผิดสำเร็จเมื่อได้โฉนด และผลของการฟ้องเกิน 10 ปี
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกันหลอกลวงเอาโฉนดที่ดินของโจทก์ไปตั้งแต่ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2494 ดังนี้ ความผิดฐานฉ้อโกงโฉนดสำเร็จตั้งแต่จำเลยได้โฉนดจากโจทก์ไป แม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องต่อไปด้วยว่า เมื่อจำเลยได้โฉนดไปแล้วได้ร่วมกันให้จำเลยที่ 2 โอนรับมรดกและต่อมาจึงโอนใส่ชื่อของจำเลยที่ 1 ก็เห็นได้ว่าเป็นการบรรยายให้เห็นพฤติการณ์ไม่สุจริตของจำเลยเท่านั้น มิใช่ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดอีกกระทงหนึ่ง หรือเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องกับความผิดฐานฉ้อโกงดังกล่าวข้างต้น ความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี อายุความสำหรับความผิดตามมาตรานี้จึงมีเพียง 10 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญ มาตรา 95 (3) โจทก์ฟ้องคดีนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2522 เป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี นับแต่วันกระทำความผิด ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตราดังกล่าว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิดคนต่างด้าวไม่มีใบสำคัญประจำตัว: ความผิดสำเร็จรายปี ไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง
จำเลยเป็นคนต่างด้าวที่มีอายุเกิน 12 ปีแล้ว อยู่ในราชอาณาจักรไทยตลอดมาโดยไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 มาตรา 5 จำเลยต้องมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ถ้าไม่มีก็เป็นความผิดซึ่งมาตรา 20 กำหนดโทษปรับเป็นรายปี ปีละไม่เกิน 500 บาท ตลอดเวลาที่จำเลยไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวความผิดดังกล่าวเป็นความผิดสำเร็จในแต่ละปี ไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง ความผิดในปีสุดท้ายจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิดคนต่างด้าวไม่มีใบสำคัญประจำตัว: ความผิดสำเร็จรายปี ไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง
จำเลยเป็นคนต่างด้าวที่มีอายุเกิน 12 ปีแล้ว อยู่ในราชอาณาจักรไทยตลอดมาโดยไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามพระราชบัญญัติทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 มาตรา 5 จำเลย ต้องมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ถ้าไม่มีก็เป็นความผิดซึ่งมาตรา 20 กำหนดโทษปรับเป็นรายปี ปีละไม่เกิน 500 บาท ตลอดเวลาที่จำเลยไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดสำเร็จในแต่ละปีไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง ความผิดในปีสุดท้ายจึงไม่ขาดอายุความ