พบผลลัพธ์ทั้งหมด 142 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2431/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการลักทรัพย์: เจตนาทุจริตและการแบ่งหน้าที่ชัดเจนบ่งชี้ความผิดฐานลักทรัพย์
จำเลยทั้งสามร่วมคบคิดกันมาก่อนที่จะลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย ได้ว่าจ้างรถยนต์แท๊กซี่ไปด้วยกัน เมื่อถึงสถานที่ที่จะลงมือลักทรัพย์ก็แบ่งหน้าที่กัน โดยจำเลยที่ 1 เข้าไปในบ้านผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ที่ 3 คอยอยู่ในรถใกล้ ๆ บ้ายผู้เสียหาย จำเลยที่ 3 นั่งคู่กับคนขับ บอกให้เลื่อนรถไปข้างหน้าอีก 1 ช่วงเสาไฟฟ้า ในลักษณะคุมคนขับให้คอบรับจำเลยที่ 1 กับทรัพย์ที่ลักมา เมื่อจำเลยที่ 1 ลักทรัพย์มาได้แล้วก็ขึ้นรถและจำเลยที่ 3 บอกให้ขับรถหนีไป ถือได้ว่าจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันลักทรัพย์รายนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือกระทำความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา แม้ไม่ทราบกระสุนใครถูกใคร ยิงในเขตชุมชน เล็งเห็นผลอันตราย
การที่จำเลยทุกคนมาด้วยกันเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยมีความมุ่งหมายอย่างเดียวกันเพื่อทำการจับกุมคนร้ายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้แยกออกเป็นสองพวกๆ ละ 5 คน พวกหนึ่งไปหมอบอยู่ใต้ต้นมะพร้าว จ้องปืนไปทางเรือนของว. อีกพวกหนึ่งไปหมอบที่ใต้ต้นลองกองหันปากกระบอกปืนไปทางเรือนของว.และอ.แล้วจำเลยกับพวกก็พากันยิงเข้าไปในที่เกิดเหตุพร้อมๆ กัน ปรากฏว่ามีคนถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตายและบาดเจ็บถือได้ว่าจำเลยทุกคนร่วมกันกระทำความผิดแล้ว
การที่จำเลยทุกคนต่างใช้อาวุธปืนซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงยิงเข้าไปในกลุ่มบ้านเรือนประชาชนซึ่งมีคนอยู่บนเรือนและที่พื้นดินในบริเวณนั้นพร้อมๆ กัน จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการยิงของจำเลยกับพวกได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกบุคคลที่อยู่ในบริเวณนั้นเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตก็ได้ เมื่อปรากฏว่ามีผู้ถูกกระสุนปืนของจำเลยกับพวกถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ และฟังได้ว่าจำเลยทุกคนร่วมกันกระทำความผิดแล้ว แม้จะไม่ได้ความแน่ชัดว่ากระสุนปืนของจำเลยคนใดถูกผู้ตายทั้งสามคนนั้นคนใดบ้าง ก็ถือได้ว่าจำเลยทุกคนร่วมกันกระทำความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา และพยายามฆ่า
การที่จำเลยทุกคนต่างใช้อาวุธปืนซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงยิงเข้าไปในกลุ่มบ้านเรือนประชาชนซึ่งมีคนอยู่บนเรือนและที่พื้นดินในบริเวณนั้นพร้อมๆ กัน จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการยิงของจำเลยกับพวกได้ว่ากระสุนปืนอาจถูกบุคคลที่อยู่ในบริเวณนั้นเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตก็ได้ เมื่อปรากฏว่ามีผู้ถูกกระสุนปืนของจำเลยกับพวกถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ และฟังได้ว่าจำเลยทุกคนร่วมกันกระทำความผิดแล้ว แม้จะไม่ได้ความแน่ชัดว่ากระสุนปืนของจำเลยคนใดถูกผู้ตายทั้งสามคนนั้นคนใดบ้าง ก็ถือได้ว่าจำเลยทุกคนร่วมกันกระทำความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา และพยายามฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้ไม่ได้ลงมือแทงโดยตรง ก็ถือเป็นความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น
พฤติการณ์ที่จำเลยมีอาวุธมีดเข้าไปถามหาเรื่องจะทำร้ายพวกของผู้ตายและทำร้ายพวกคนหนึ่งของผู้ตายครั้งหนึ่งแล้วเมื่อพวกจำเลยพบพวกผู้ตายกำลังจะกลับบ้าน พวกจำเลยได้ไล่แทงทำร้ายผู้ตาย จำเลยก็ขัดขวางไม่ให้พวกของผู้ตายช่วยเหลือเมื่อผู้ตายวิ่งมาล้มลง จำเลยก็เตะต่อยซ้ำเติมแม้จำเลยจะไม่ได้แทงผู้ตาย จำเลยก็มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาด้วยเพราะถือว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับพวกเพื่อจะแทงทำร้ายผู้ตายกับพวกมาแต่เริ่มแรกแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการฆ่าผู้อื่น: การชี้ตัวผู้ตายและการกระทำร่วมกับผู้อื่น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกที่หลบหนี ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องก็อ้างตนเองเข้าเบิกความเป็นพยานว่าไม่ได้กระทำผิด โดยไม่ต้องถอนคำให้การเดิมได้
ผู้ตายเป็นหลานของท. ท. กับสามีไปทวงหนี้จากสามีจำเลย เกิดทะเลาะกันจนเกือบต่อสู้กัน ผู้ตายเข้าห้ามและว่าให้ไปพูดกันที่บ้านสามีจำเลย เมื่อไปพูดกันก็ทะเลาะกันอีกผู้ตายเข้าห้ามไว้อีกเมื่อผู้ตายกลับบ้านแล้ว หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง จำเลยกับสามีและชายอีกคนหนึ่งมาร้องถามหาผู้ตาย พอผู้ตายออกมา ชายที่มากับจำเลยถามว่าคนไหนคือผู้ตาย จำเลยชี้มือบอก ชายคนนั้นก็ยิงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปทางเดียวกัน ถือว่าจำเลยร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้ตาย
ผู้ตายเป็นหลานของท. ท. กับสามีไปทวงหนี้จากสามีจำเลย เกิดทะเลาะกันจนเกือบต่อสู้กัน ผู้ตายเข้าห้ามและว่าให้ไปพูดกันที่บ้านสามีจำเลย เมื่อไปพูดกันก็ทะเลาะกันอีกผู้ตายเข้าห้ามไว้อีกเมื่อผู้ตายกลับบ้านแล้ว หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง จำเลยกับสามีและชายอีกคนหนึ่งมาร้องถามหาผู้ตาย พอผู้ตายออกมา ชายที่มากับจำเลยถามว่าคนไหนคือผู้ตาย จำเลยชี้มือบอก ชายคนนั้นก็ยิงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปทางเดียวกัน ถือว่าจำเลยร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือพยายามฆ่า และการข่มขู่เจ้าพนักงาน: เจตนาสำคัญในการประเมินความผิด
จำเลยทั้งสองพกปืนไปหาผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ควักปืนออกมาชี้ปากกระบอกปืนไปที่ผู้เสียหายแล้วถามจำเลยที่ 1 ว่า คนนี้ใช่ไหม จำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 3 นัด จำเลยที่ 2 ยิงปืนขู่ 1 นัด และพูดขู่ไม่ให้พวกผู้เสียหายติดตาม แล้วจำเลยทั้งสองพากันวิ่งหนีไป ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
เมื่อตำรวจติดตามจับกุมจำเลยที่ 2 และแสดงตัวให้ทราบว่าเป็นตำรวจจำเลยที่ 2 จ้องปืนมาที่ตำรวจ แต่ไม่ยิงทั้งๆ ที่มีโอกาสยิงได้ ปล่อยให้ตำรวจกระโดดเข้าปัดปืนจากจำเลยจนปืนลั่น โดยไม่ปรากฏว่าปืนลั่นเพราะจำเลยมีเจตนายิง พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 2 จ้องปืนเพื่อขู่ตำรวจเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
เมื่อตำรวจติดตามจับกุมจำเลยที่ 2 และแสดงตัวให้ทราบว่าเป็นตำรวจจำเลยที่ 2 จ้องปืนมาที่ตำรวจ แต่ไม่ยิงทั้งๆ ที่มีโอกาสยิงได้ ปล่อยให้ตำรวจกระโดดเข้าปัดปืนจากจำเลยจนปืนลั่น โดยไม่ปรากฏว่าปืนลั่นเพราะจำเลยมีเจตนายิง พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 2 จ้องปืนเพื่อขู่ตำรวจเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893-1894/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการเดินรถโดยสารทำให้เกิดความรับผิดร่วมกันในความเสียหายที่เกิดจากลูกจ้าง
รถคันเกิดเหตุเป็นรถที่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ใช้วิ่งร่วมกับจำเลยที่ 3 รับส่งคนโดยสาร โดยทาสีเป็นสีเดียวกับรถของจำเลยที่ 3 มีตราของจำเลยที่ 3 และอักษรย่อ บ.ข.ส. ติดที่ข้างรถและต้องเสียค่าขาหรือค่าออกรถให้จำเลยที่ 3 การออกรถจากสถานีมีนายสถานีคนของจำเลยที่ 3 กำหนดเวลาให้ออก ถือว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกิจการเดินรถกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และถือได้ว่าเป็นกิจการของจำเลยที่ 3 ด้วย น. คนขับรถคันเกิดเหตุซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ย่อมจะต้องเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ด้วย เมื่อ น. กระทำการละเมิด จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893-1894/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือเดินรถโดยสารทำให้บริษัทผู้ประกอบการต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับขี่ในความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ
รถคันเกิดเหตุเป็นของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งใช้วิ่งร่วมกับจำเลยที่ 3รับส่งคนโดยสาร โดยทาสีเป็นสีเดียวกับรถของจำเลยที่ 3 มีตราและอักษรย่อของจำเลยที่ 3 ติดที่ข้างรถ และต้องเสียเงินค่าขาหรือค่าออกรถให้จำเลยที่ 3 โดยมีนายสถานีซึ่งเป็นคนของจำเลยที่ 3 กำหนดเวลาให้ออกรถ ถือว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกิจการเดินรถกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และเป็นกิจการของจำเลยที่ 3 ด้วย คนขับรถคันเกิดเหตุซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ย่อมจะต้องเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ด้วย จำเลยที่ 3จึงต้องร่วมรับผิดในการละเมิดของคนขับรถนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วม ฆ่าและพยายามฆ่า: เจตนาและความร่วมมือในการกระทำความผิด
ผู้ตายกับพวกผู้เสียหายนั่งรถยนต์มาด้วยกัน ผู้เสียหายคนหนึ่งขับรถยนต์นั้นแซงรถจักรยานยนต์ของจำเลยทั้งสองแล้วเฉี่ยวรถของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ไล่กวดรถยนต์ดังกล่าวโบกมือให้รถยนต์หยุด เมื่อรถยนต์หยุดแล้วจำเลยที่ 2 ยืนขวางหน้ารถยนต์ไว้ไม่ให้แล่นต่อไป จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์ตามไปทันและได้ใช้ปืนยิงผู้ตายกับพวกผู้เสียหายซึ่งอยู่ในรถยนต์เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายและพวกผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสองคน เมื่อยิงแล้วจำเลยทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์หนีไปทางเดียวกัน เมื่อตำรวจเรียกให้หยุดก็ไม่ยอมหยุด ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมฆ่า: เจตนาและความร่วมมือในการกระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่า
ผู้ตายกับพวกผู้เสียหายนั่งรถยนต์มาด้วยกัน ผู้เสียหายคนหนึ่งขับรถยนต์นั้นแซงรถจักรยานยนต์ของจำเลยทั้งสองแล้วเฉี่ยวรถของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ไล่กวดรถยนต์ดังกล่าว โบกมือให้รถยนต์หยุด เมื่อรถยนต์หยุดแล้วจำเลยที่ 2 ยืนขวางหน้ารถยนต์ไว้ไม่ให้แล่นต่อไป จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์ตามไปทันและได้ใช้ปืนยิงผู้ตายกับพวกผู้เสียหายซึ่งอยู่ในรถยนต์ เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายและพวกผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสองคน เมื่อยิงแล้วจำเลยทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์หนีไปทางเดียวกัน เมื่อตำรวจเรียกให้หยุด ก็ไม่ยอมหยุด ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า พิจารณาจากพฤติการณ์ร่วมกัน
จำเลยกับพวกอีกหนึ่งคนมาหาผู้เสียหายที่กระท่อมนาในเวลากลางคืนจำเลยเรียกผู้เสียหายให้ลุกขึ้นแล้วขอน้ำดื่ม พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายถูกที่ท้อง แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปด้วยกัน พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่าจำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดด้วยกัน เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย