คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คัดค้าน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 361 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7521/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านการบังคับคดีและการขายทอดตลาด จำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาลตามกฎหมาย หากไม่ทำสิทธิอุทธรณ์ฎีกาไม่มีผล
ที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนองไว้แก่โจทก์ตั้งแต่ปี 2529 ในราคา 500,000 บาท ซึ่งระยะเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว ทั้งที่ดินตั้งอยู่ในย่านชุมชน ราคาซื้อขายกันปกติปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 850,000 บาท หากมีการประกาศโฆษณาขายในหนังสือพิมพ์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถอ่านได้กว้างขวางแล้ว จะทำให้มีผู้สนใจเข้าสู้ราคามากและได้ราคาสูงขึ้นขอให้ยกเลิกคำสั่งอนุญาตขาย และขายทอดตลาดใหม่นั้น เท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยมิชอบ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาและคำสั่ง กรณีจำต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองซึ่งจำเลยทั้งสองต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนเมื่อจำเลยทั้งสองเพียงแต่คัดค้านการขายทอดตลาดไว้ในรายงานการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จำเลยทั้งสองจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่ และข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบด้วยมาตรา246 และ 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7443/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดรูปที่ดิน: สิทธิครอบครองเปลี่ยนแปลงตามการจัดรูปใหม่ หากไม่คัดค้านตามขั้นตอนกฎหมาย จะหมดสิทธิเรียกร้อง
ตาม พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2517 มาตรา33 และ 34 ผู้มีส่วนได้เสียต้องคัดค้านเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัด ถ้าไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางอีก กรณีของโจทก์ปรากฏว่านางสมบูรณ์ภรรยาโจทก์ที่ 1เป็นผู้ไปคัดค้าน เมื่อหัวหน้าหน่วยรังวัดจัดรูปที่ดินแก้ไขจัดรูปที่ดินให้ใหม่ โจทก์ก็มิได้ดำเนินการอย่างใดต่อไปอีก การคัดค้านดังกล่าวจึงมิใช่เป็นการคัดค้านต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัด หรือถ้าจะถือว่าเป็นการคัดค้านต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดแต่เมื่อมีการแก้ไขให้โจทก์ได้รับที่ดินเพิ่มขึ้น โจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางแต่อย่างใด คงปล่อยให้มีการออกโฉนดที่ดินใหม่ในที่ดินที่อยู่ในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน โดยโจทก์ได้รับที่ดินเนื้อที่ 17 ไร่เศษ จำเลยที่ 2 ได้รับ 10 ไร่เศษหลังจากได้รับโฉนดที่ดินมาแล้ว โจทก์เห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงได้คัดค้านขอให้แก้ไขโฉนดที่ดินให้ถูกต้อง กรณีเช่นนี้มิใช่เป็นการอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจังหวัดต่อคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลางแต่อย่างใด เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านการจัดรูปที่ดินให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย กลับปล่อยให้มีการดำเนินการจนกระทั่งออกโฉนดที่ดิน และเนื่องจากการจัดรูปที่ดินมีผลทำให้สิทธิครอบครองของโจทก์ในที่ดินเดิมเปลี่ยนไปเพราะมาตรา 30 และ 38 ให้อำนาจคณะกรรมการจัดรูปที่ดินจัดที่ดินใหม่โดยให้เจ้าของที่ดินเดิมได้รับที่ดินแปลงเดิมหรือที่ดินแปลงเดิมบางส่วน หรือได้รับที่ดินแปลงใหม่ก็ได้ ดังนั้นเมื่อทางราชการจัดที่ดินให้โจทก์ใหม่เนื้อที่ 17 ไร่3.8 ตารางวา การครอบครองของโจทก์ย่อมเปลี่ยนไปตามที่ทางการจัดรูปที่ดินให้ใหม่ ที่พิพาทเนื้อที่ 2 ไร่เศษอยู่ในโฉนดที่ดินของจำเลยที่ 2 ตามที่ทางราชการจัดให้ใหม่ ย่อมทำให้โจทก์หมดสิทธิครอบครองที่พิพาท โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5713/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านการขายทอดตลาดและการปฏิบัติตามขั้นตอนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณามีคำสั่งอนุญาตให้ขายทอดตลาด เป็นวิธีการขายทอดตลาดทรัพย์ของเจ้าพนักงานบังคับคดี หากจำเลยทั้งสองเห็นว่าการขายทอดตลาดไม่ชอบและตนเองได้รับความเสียหาย ชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีเสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่า8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืน ขอให้ศาลมีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งสอง หรือวิธีการบังคับใด ๆ โดยเฉพาะหรือขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการอย่างใด ๆ แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27และมาตรา 296 วรรคสอง เมื่อจำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5703/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีขายทอดตลาดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ แม้จำเลยไม่ทราบการยึดและไม่ได้คัดค้าน
ในการขายทอดตลาดโจทก์เป็นผู้ซื้อที่ดินได้โดยชำระเงินมัดจำค่าซื้อทรัพย์ในวันขายทอดตลาด ส่วนที่เหลือจะชำระภายใน 15 วัน การที่เจ้าพนักงาน-บังคับคดีรายงานต่อศาลชั้นต้นว่า ค่าซื้อทรัพย์ส่วนที่เหลือนั้นโจทก์ขอหักชำระหนี้โจทก์และทำบัญชีแสดงการรับ-จ่ายว่า เมื่อนำค่าซื้อทรัพย์ส่วนที่เหลือมาหักชำระหนี้โจทก์แล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ศาลชั้นต้นอนุญาตและมีหนังสือถึงเจ้าพนักงาน-ที่ดินให้จดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินมีหนังสือถึงศาลชั้นต้นว่าจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์แล้ว ถือได้ว่าการบังคับคดีเกี่ยวกับที่ดินเสร็จลงแล้ว
การร้องคัดค้านการขายทอดตลาดนั้น จะต้องร้องคัดค้านก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันทราบการฝ่าฝืนนั้น ตามป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง ดังนั้น แม้จำเลยจะไม่ทราบการยึดและการประกาศขายทอดตลาดมาก่อนการขายทอดตลาดก็ตาม เมื่อจำเลยมิได้ยื่นคำร้องคัดค้านก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง จำเลยย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4952/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุคัดค้านคำพิพากษาชัดเจน มิฉะนั้นไม่เป็นไปตามกฎหมาย
จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาใหม่โดยอ้างมาในคำร้องขอว่า ถ้าจำเลยทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องจะสามารถนำพยานหลักฐานมาสืบหักล้างพยานโจทก์ ศาลต้องมีคำพิพากษาให้จำเลยชนะคดีแน่นอนเพราะสัญญาเช่ายังไม่หมดอายุ และจำเลยไม่เคยผิดนัดชำระค่าเช่าหรือผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใดนั้น เป็นคำร้องขอที่ไม่มีรายละเอียดชัดแจ้งว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยแพ้คดีไม่ชอบอย่างไรแม้จะกล่าวมาด้วยว่าจำเลยขอคัดค้านคำพิพากษาของศาลก็เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆหาได้คัดค้านในเนื้อหาแห่งคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นว่าไม่ถูกต้องอย่างไร หากได้พิพากษาคดีใหม่แล้วจำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3017/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดสุจริตและการคุ้มครองสิทธิ การคัดค้านการออกโฉนดไม่ถือเป็นการละเมิด
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาทโดยซื้อและรับโอนสิทธิครอบครองมาจาก ช. ต่อมาโจทก์ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายจำเลยได้ยื่นคำคัดค้านการขอรังวัดออกโฉนดที่ดินของโจทก์โดยอ้างว่า จำเลยซื้อที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1206 จากการขายทอดตลาดของศาล โจทก์เพิ่งทราบว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยดังกล่าวออกมาทับที่ดินของโจทก์ทั้งแปลง การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่าจำเลยซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดของศาลโดยไม่สุจริตแต่อย่างใด แม้จะให้โจทก์สืบพยานหลักฐานไปตามคำฟ้องก็คงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยซื้อที่ดินโดยสุจริตจากการขายทอดตลาดของศาล สิทธิของจำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 และการที่จำเลยไปคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดินของโจทก์ก็เป็นการใช้สิทธิของตนตามกฎหมายหาได้เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ไม่ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2762/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการคัดค้านการขายทอดตลาด: ผู้มีส่วนได้เสียต้องมีสิทธิที่จดทะเบียนหรือเป็นเจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์
ผู้มีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์ได้จะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 แต่ตามคำร้องของผู้ร้องกล่าวอ้างสิทธิของผู้ร้องในการขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีนี้เพียงว่า ผู้ร้องกำลังมีข้อพิพาทกับจำเลยคดีนี้เป็นอีกคดีหนึ่งในศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาแล้วดังนี้ ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว ผู้ร้องเป็นเพียงคู่ความที่ฟ้องร้องกันอยู่กับจำเลยอีกคดีหนึ่งต่างหาก ทั้งคำร้องก็ไม่ปรากฏว่า ผู้ร้องกับจำเลยพิพาทกันด้วยเรื่องอะไร ผู้ร้องจึงมิใช่บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีนี้ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว แม้ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ได้ขายทอดตลาดในคดีนี้ให้ผู้ร้องก็เป็นคำพิพากษาที่เกิดขึ้นภายหลังผู้ร้องยื่นคำร้องและเป็นเรื่องระหว่างผู้ร้องกับจำเลยซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีนี้ทั้งข้ออ้างที่ผู้ร้องอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาและคำขอบังคับในคดีที่ผู้ร้องฟ้องจำเลยก็เป็นการเรียกร้องสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายมิใช่เป็นการเรียกร้องสิทธิอันได้จดทะเบียนไว้โดยชอบตามมาตรา 280(2)ผู้ร้องจึงหาใช่บุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิอันได้จดทะเบียนไว้โดยชอบดังผู้ร้องฎีกาไม่ ส่วนที่ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นดังกล่าว ผู้ร้องก็ไม่ได้ร้องขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์สินในคดีนี้ตามมาตรา 290 ผู้ร้องจึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี ไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์คดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2638/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์การขายทอดตลาด: จำเลยต้องคัดค้านการขายทอดตลาดต่อศาลชั้นต้นก่อน จึงมีสิทธิอุทธรณ์
ตามอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทแก่ผู้ร้องโดยอ้างเหตุว่าราคาประเมินของสำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคามยังบกพร่อง และผู้ร้องเสนอราคาในการประมูลซื้อต่ำ ขอให้มีการประเมินราคาและขายทอดตลาดใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิอุทธรณ์เพราะมิได้ร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทต่อศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27,296 วรรคสองพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ดังกล่าว แต่กลับฎีกาว่า จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านการประเมินราคาของเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคามเพราะจำเลยได้คัดค้านการประเมินราคาดังกล่าวไว้แล้ว ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 เสียแล้ว การวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของจำเลยก็มิได้ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปได้ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2420/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านการบังคับคดีต้องยื่นภายใน 8 วันนับแต่ทราบการฝ่าฝืน หรือก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น
การร้องคัดค้านการบังคับคดีจะต้องร้องคัดค้านภายในแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืน แต่ต้องกระทำเสียก่อนที่การบังคับคดีได้เสร็จลงหากการบังคับคดีได้เสร็จลงไปแล้วแม้เพิ่งทราบการฝ่าฝืนก็ร้องคัดค้านอีกไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา296 วรรคสอง จำเลยที่ 2 ฎีกาอ้างว่าหมายบังคับคดีให้ยึดทรัพย์จำเลยที่ 1แต่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยที่ 2 โดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีนั่นเอง กรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ซึ่งจำเลยที่ 2 จะต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นเมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2แล้วจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับรักษาทรัพย์ที่ยึดไว้เองตั้งแต่วันที่5 มีนาคม 2531 โดยไม่โต้แย้งคัดค้าน จนกระทั่งมีการขายทอดตลาดจนเจ้าพนักงานบังคับคดีแบ่งเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดให้โจทก์เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2535 ซึ่งถือว่าการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วจำเลยที่ 2 เพิ่งยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2535ล่วงเลยกำหนดระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิร้องคัดค้านเพื่อให้เพิกถอนการยึดและการขายทอดตลาดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 23/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งต้องอ้างเหตุคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ฎีกาต้องมีลักษณะคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งจะต้องอ้างเหตุว่า การที่ศาลอุทธรณ์รับฟังข้อเท็จจริงหรือไม่รับฟังข้อเท็จจริงดังนั้นชอบหรือไม่ เพราะเหตุใด ดังนั้นที่โจทก์ฎีกาว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติได้ตามที่โจทก์นำสืบแต่ไม่ได้อ้างเหตุว่าทำไมจึงต้องฟังข้อเท็จจริงเช่นนั้น และไม่ได้คัดค้านคำพิพากษา-ศาลอุทธรณ์ เพียงแต่กล่าวว่าโจทก์ร่วมไม่เห็นด้วยโดยไม่ได้อ้างเหตุและขอให้ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นพิจารณาอีกครั้ง จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 216
of 37