คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพิพากษาตามยอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 129 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอม และการไม่มีอำนาจฟ้องเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
เมื่อโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นของจำเลย และศาลได้พิพากษาไปตามยอมแล้ว คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันคู่ความทั้งสองฝ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 โจทก์จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนเปลี่ยนแปลงอีกไม่ได้ เพราะแม้จะอุทธรณ์ฎีกาในคดีเดิมยังต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138
เมื่อที่ดินพิพาทตกเป็นของจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนองระหว่างจำเลยด้วยกันเกี่ยวกับที่ดินพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอมและการห้ามฟ้องซ้ำ กรณีสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน
เมื่อโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นของจำเลย และศาลได้พิพากษาไปตามยอมแล้วคำพิพากษานั้นย่อมผูกพันคู่ความทั้งสองฝ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145. โจทก์จะมาฟ้องขอให้เพิกถอนเปลี่ยนแปลงอีกไม่ได้ เพราะแม้จะอุทธรณ์ฎีกาในคดีเดิมยังต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 138
เมื่อที่ดินพิพาทตกเป็นของจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมแล้วโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจำนองระหว่างจำเลยด้วยกันเกี่ยวกับที่ดินพิพาทได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำบังคับคดีหลังมีคำพิพากษาตามยอม ศาลไม่จำเป็นต้องออกคำบังคับซ้ำหากคำพิพากษาได้ระบุผลของการไม่ปฏิบัติตาม
คำบังคับเป็นหน้าที่ของศาล เมื่อศาลได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใดซึ่งจะต้องมีการบังคับคดี ศาลต้องมีคำบังคับ ถ้าศาลมิได้มีคำบังคับไว้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ขอให้ศาลมีคำบังคับได้
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมไม่ปฏิบัติตามจะถูกยึดทรัพย์ จำขัง ฯลฯ นั้น ถือว่าได้มีคำบังคับไว้แล้ว ศาลจึงไม่ออกคำบังคับซ้ำให้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำบังคับคดีหลังคำพิพากษาตามยอม ศาลมีหน้าที่ออกคำบังคับหากยังมิได้ทำ
คำบังคับเป็นหน้าที่ของศาลเมื่อศาลได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใดซึ่งจะต้องมีการบังคับคดี ศาลต้องมีคำบังคับถ้าศาลมิได้มีคำบังคับไว้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ขอให้ศาลมีคำบังคับได้
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอม ไม่ปฏิบัติตามจะถูกยึดทรัพย์ จำขังฯลฯ นั้น ถือว่าได้มีคำบังคับไว้แล้ว ศาลจึงไม่ออกคำบังคับซ้ำให้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอม แม้ทนายไม่มีอำนาจ และการดำเนินการพิจารณาใหม่ที่ไม่ชอบ
การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นเป็นการผิดถูกชอบหรือไม่นั้น เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เองโดยคู่ความมิต้องอุทธรณ์
แม้ทนายจำเลยจะทำยอมความในศาลโดยบกพร่องในอำนาจก็ตาม หากศาลพิพากษาตามยอมแล้ว คำพิพากษานั้นก็มีผลผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
จำเลยร้องว่าทนายจำเลยทำยอมในศาลโดยไม่มีอำนาจ ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยก็มิได้ใช้สิทธิอุทธรณ์แต่อย่างไร ดังนี้ ศาลชั้นต้นเองจะกลับมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่อีกหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงข้อผิดพลาดเล็กน้อยตามที่ยกเว้นไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยกระบวนพิจารณาที่ผิดพลาด และผลผูกพันของคำพิพากษาตามยอม แม้ทนายไม่มีอำนาจ
การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นเป็นการผิดถูกชอบหรือไม่นั้น เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลอุทธรณ์มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เองโดยคู่ความมิต้องอุทธรณ์
แม้ทนายจำเลยจะทำยอมความในศาลโดยบกพร่องในอำนาจก็ตามหากศาลพิพากษาตามยอมแล้ว คำพิพากษานั้นก็มีผลผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
จำเลยร้องว่าทนายจำเลยทำยอมในศาลโดยไม่มีอำนาจขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องจำเลยก็มิได้ใช้สิทธิอุทธรณ์แต่อย่างไร ดังนี้ศาลชั้นต้นนั้นเองจะกลับมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่อีกหาได้ไม่เพราะไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงข้อผิดพลาดเล็กน้อยตามที่ยกเว้นไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้รับมรดกฟ้องคดี หากคำพิพากษาตามยอมกระทบสิทธิในการรับมรดก
แม้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจะฟ้องขอให้เพิกถอนคำพิพากษาตามยอมไม่ได้ก็ตาม แต่ถ้าตามฟ้องของโจทก์เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้แสดงว่า คำพิพากษาตามยอมนั้นจะบังคับเอาจากกองมรดกซึ่งโจทก์เป็นผู้รับมรดกด้วยไม่ได้ เพราะถ้าบังคับเอาจากกองมรดกแล้ว ทำให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งมรดกน้อยลงกว่าที่ควรจะได้รับ เช่นนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องคดีดังกล่าวได้
(ประชุมใหญ่ ครั้ง 28/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาตามยอม และข้อจำกัดในการโต้แย้งภายหลัง
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันไว้โดยไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และศาลได้พิพากษาไปตามนั้นแล้ว เมื่อจำเลยกล่าวอ้างว่าสัญญายอมเกิดจากโจทก์ใช้กลฉ้อฉลหรืออ้างว่าสัญญายอมขัดต่อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ก็ต้องอุทธรณ์คำพิพากษาเช่นว่านี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 จำเลยจะมาร้องขอให้งดการบังคับคดีโดยอ้างเหตุดังกล่าว และขอให้ศาลไต่สวนหาความจริงตามคำร้องของจำเลยนั้น หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681-686/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิให้เช่าหลังยกตึกให้เทศบาล: คำพิพากษาตามยอมสร้างสิทธิได้ แม้ไม่มีสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร
เดิมโจทก์เช่าที่ดินจากเทศบาลปลูกตึกพิพาท และจำเลยเป็นผู้เช่าตึกพิพาทจากโจทก์ ต่อมาเทศบาลได้ฟ้องขับไล่โจทก์ให้รื้อตึกพิพาท ในคดีนั้นศาลพิพากษาตามยอม คือโจทก์ยอมยกตึกพิพาทให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเทศบาลและทางเทศบาลยอมให้โจทก์เช่าตึกพิพาทต่อไปอีก 1 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าให้โจทก์ไปทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือต่อเทศบาลภายในวันที่ 1 เม.ย.98 แต่แล้วโจทก์ก็มิได้ไปทำสัญญาเช่ากับเทศบาลเลยเช่นนี้ คำพิพากษาตามยอมนั้นแสดงว่าเทศบาลยอมให้โจทก์เช่าตึกพิพาทนี้แล้วด้วย ส่วนเงื่อนไขที่ว่าต้องไปทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือนั้น เป็นแต่เพียงพิธีการ ภายหลังจากที่โจทก์ยกตึกพิพาทให้เทศบาลนั้นแล้ว เทศบาลไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะที่จะให้เช่าโจทก์จึงมีสิทธิให้จำเลยเช่าตึกพิพาทและมีสิทธิฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม: สิทธิโจทก์บังคับคดีจากทรัพย์สินลูกหนี้ทั้งหมด แม้ไม่ได้ระบุเฉพาะทรัพย์จำนอง และจำเลยมิได้อุทธรณ์
เดิมโจทก์ฟ้องบังคับจำนองที่สุดโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมชำระให้โจทก์ภายใน 6 เดือน ศาลจึงพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วจำเลยผิดสัญญาตามยอม โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยได้ไม่พอชำระหนี้ ดังนี้เมื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความมิได้กล่าวว่าจะบังคับเอาชำระหนี้ได้แต่เฉพาะทรัพย์สินที่จำนองกันไว้แล้วโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจากทรัพย์ใด ๆ ของจำเลยได้
อนึ่งเมื่อจำเลยปล่อยให้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งแล้วจะยกเอาเหตุว่าจำเลยถูกหลอกลวงให้ทำสัญญาประนีประนอมขึ้นในชั้นฎีกาไม่ได้ เหตุดังกล่าวจำเลยชอบที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมนั้นเสียในชั้นอุทธรณ์ตาม วิ.แพ่ง ม.138
of 13