พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4939/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฎีกาจำกัดเฉพาะกรณีที่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์กระทบสิทธิหรือหน้าที่ของจำเลย แม้ไม่เห็นพ้องกับเหตุผล
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ไม่ริบรถยนต์ของกลางที่ใช้ขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่ริบรถยนต์ของกลางตามประสงค์ของจำเลยซึ่งเท่ากับจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดีในชั้น อุทธรณ์แล้วแม้จำเลยจะไม่เห็นพ้องด้วยกับเหตุผลในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ แต่ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวก็มิได้กระทบกระเทือนต่อสิทธิหรือหน้าที่ของจำเลยประการใดจำเลยจึงไม่มี อำนาจที่จะฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเราและการบุกรุก: ความยินยอมจำกัดไม่ครอบคลุมการกระทำผิด
ผู้เสียหายยอมให้จำเลยพักนอนที่นอกชานเท่านั้น การที่จำเลยเข้าไปในห้องนอนของผู้เสียหายเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจึงเป็นความผิดฐานบุกรุก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5509/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการพกพาอาวุธในที่สาธารณะ ศาลจำกัดบทลงโทษเฉพาะข้อหาพกพา
จำเลยกับพวกร่วมกันมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนดังกล่าวไปใช้ยิงผู้ตาย และผู้เสียหายในทางสาธารณะแม้โจทก์ไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลาง แต่ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยรับว่าไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนมาก่อน ซึ่งมีพนักงานสอบสวนเบิกความยืนยันและจำเลยก็ มิได้ถามค้านหรือนำสืบหักล้างแต่อย่างใด ย่อมฟังได้ว่า จำเลยมี อาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อเท็จจริงยังไม่อาจฟังได้ด้วยว่าอาวุธปืนที่จำเลย มีโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นอาวุธปืนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและ ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับตามที่โจทก์ฟ้อง จึงลงโทษ จำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ในครอบครองไม่ได้ คงลงโทษได้ แต่เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3328/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อพิพาทจำกัดเฉพาะความเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ การต่อสู้เกินประเด็นไม่กระทบผลคดี
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่เพิกถอน น.ส.3 ก.ของโจทก์ที่อ้างว่าออกทับที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยโจทก์อ้างว่าที่ดินนั้นไม่ใช่ที่ดินสาธารณประโยชน์ ประเด็นแห่งคดีจึงอยู่ที่เหตุที่จำเลยออกคำสั่ง คือที่ดินพิพาทเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์หรือไม่เท่านั้น การที่จำเลยให้การต่อสู้เพิ่มเติมจากประเด็นดังกล่าวออกไปอีกว่า จำเลยเพิกถอนชอบแล้ว เพราะ น.ส.3 ก. ออกโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากโจทก์ไม่ได้ครอบครองมาก่อน อันเป็นผลให้ศาลชั้นต้นกำหนดเป็นประเด็นข้อนี้ขึ้น แต่ข้อต่อสู้นี้ไม่มีผลกระทบถึงผลแห่งคดีย่อมไม่มีประโยชน์ที่จะกำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทให้คู่ความนำสืบ จึงเป็นการกำหนดประเด็นขึ้นโดยไม่ชอบ ถือได้ว่าคดีไม่มีประเด็นดังกล่าว แม้ศาลล่างจะวินิจฉัยมาก็ไม่ผูกพันศาลฎีกาที่จะต้องวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2572/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อพิพาทจำกัดเฉพาะค่าจ้างที่ตกลงกัน, การวินิจฉัยประเด็นนอกเหนือคำให้การของจำเลยไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าจ้างว่าความ จำเลยให้การว่าตกลงค่าจ้างไม่ถึงจำนวนตามฟ้อง โดยมิได้ให้การต่อสู้ว่า ได้ชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์ไปบางส่วน จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบในข้อนี้ ศาลวินิจฉัยให้จำเลยชำระเงินบางส่วนตามที่จำเลยนำสืบ เป็นการนอกประเด็น จึงไม่ชอบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยต้องเป็นไปตามข้อหาที่โจทก์ฟ้อง ศาลมิอาจลงโทษในข้อหาอื่นนอกเหนือจากที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อที่จำเลยจะได้หลบหนีและปกปิดความผิดที่จำเลยใช้อาวุธปืนฆ่าบุคคลอื่นอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (7) ศาลจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่อันเป็นความผิดตามมาตรา 289 (2) มิได้ เพราะเป็นการนอกเหนือไปจากที่โจทก์ฟ้องและไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3800/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องจำกัดเฉพาะในหนังสือมอบอำนาจช่วง การขอเรียกจำเลยร่วมเกินขอบเขต
หนังสือมอบอำนาจช่วงมีข้อความว่า 'องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยนายยรรยง คุโรวาท รองผู้อำนวยการ (บริหาร) ผู้รับมอบอำนาจขอมอบอำนาจช่วงให้นายเสริมชาติ สุจริตพงศ์ ฟ้องนายจำลอง รุธิระวุฒิ บริษัทขอนแก่นยนต์ จำกัด บริษัทธนกิจประกันภัย จำกัด ต่อศาลแพ่ง ในเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ทั้งนี้ให้รวมถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาอื่น ๆ ทั้งในศาลและนอกศาล......ฯลฯ...'ข้อความตามที่ระบุไว้ดังกล่าวเป็นเรื่องโจทก์มอบอำนาจเฉพาะการ มิใช่มอบอำนาจทั่วไป และระบุให้ผู้รับมอบอำนาจช่วงฟ้องเฉพาะจำเลยทั้งสามเท่านั้น แม้คำร้องของผู้รับมอบอำนาจช่วงที่ขอให้เรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีมิใช่คำฟ้อง แต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้เรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีแล้วก็มีผลให้จำเลยร่วมอาจถูกบังคับตามคำฟ้องได้ซึ่งมีผลเท่ากับเป็นการฟ้องจำเลยร่วมให้ร่วมรับผิดต่อโจทก์ด้วย และที่มีข้อความระบุให้ผู้รับมอบอำนาจช่วงดำเนินกระบวนพิจารณาอื่น ๆ ทั้งในศาลและนอกศาลนั้นย่อมหมายถึงให้ดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับจำเลยทั้งสามตามที่ระบุชื่อไว้ในหนังสือมอบอำนาจช่วงนั้นเท่านั้น ผู้รับมอบอำนาจช่วงจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2701/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการฎีกาในประเด็นข้อเท็จจริงเมื่อศาลชั้นต้นและอุทธรณ์มีคำพิพากษาต้องกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,289,339,340ตรี,83ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา288,339,340ตรี,80ลงโทษตามมาตรา288,80นอกนั้นให้ยกศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องข้อหาตามมาตรา288,80และมาตรา340ตรีด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังนี้เมื่อข้อหาตามมาตรา289ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงโจทก์จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงสำหรับข้อหาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2628/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร แม้ได้รับอนุญาตจำกัด ย่อมไม่ถือว่าเป็นการยินยอม
แม้ในตอนแรกนางส.มารดาผู้เสียหายจะยินยอมอนุญาตให้จำเลยพาผู้เสียหายอายุ12ปีออกไปจากบ้านแต่ก็อนุญาตเพื่อให้ผู้เสียหายนำจำเลยไปพบกับสามีนางส.ที่แฮปปี้แลนด์เท่านั้นทั้งยังกำชับไม่ให้ไปนานการที่จำเลยพาผู้เสียหายเข้าไปในโรงแรมปี๊ปอินน์จึงเป็นเรื่องที่จำเลยทำไปเองตามลำพังจะถือว่านางส.รู้เห็นยินยอมไม่ได้โรงแรมปี๊ปอินน์เป็นโรงแรมม่านรูดเป็นที่รู้จักทั่วไปว่าจัดไว้เพื่อบริการชายหญิงไปหลับนอนชั่วคราวเมื่อไปถึงจำเลยลงจากรถเข้าไปในห้องหมายเลข11ทันทีและกวักมือเรียกให้ผู้เสียหายตามเข้าไปในห้องนั้นด้วยแต่ผู้เสียหายไม่ยอมเข้าไปแสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะหลับนอนกับผู้เสียหายเพื่อร่วมประเวณีหรือกระทำมิดีมิร้ายอย่างอื่นการกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน13ปีไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา317.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน: ค้ำประกันเฉพาะจำนวนเงินที่ระบุในสัญญา ไม่จำกัดจำนวน
สัญญาค้ำประกันซึ่งจำเลยทำต่อโจทก์เพื่อค้ำประกันหนี้ของ ส. จำนวนเงิน 50,000 บาท ซึ่งตกลงยอมค้ำประกันการชำระหนี้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้โดยสิ้นเชิงและถึงแม้ลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาที่กล่าวแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม อันทำให้ธนาคารไม่ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาที่กล่าวแล้วเต็มจำนวนและตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาก็ดี ผู้ค้ำประกันยอมเข้ารับผิดร่วมกับลูกหนี้ในอันที่จะต้องชำะหนี้ตามสัญญาดังกล่าวนั้นทันที หมายความถึงรับผิดชำระหนี้จำนวน 50,000 บาท รวมทั้งดอกเบี้ยเท่านั้นหาใช่จำเลยยอมรับผิดชำระหนี้แทน ส. ลูกหนี้โดยไม่จำกัดจำนวนไม่