คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำคุก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 249 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4272/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยในคดีพนัน เมื่อเคยถูกลงโทษจำคุกรอการลงโทษและชำระค่าปรับแล้ว
คดีก่อนนอกจากศาลลงโทษปรับจำเลยแล้ว ยังลงโทษจำคุกจำเลยแต่รอการลงโทษไว้อีกด้วย แม้จำเลยชำระค่าปรับแล้วก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมา กระทำผิดครั้งนี้อีก จึงเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติ การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีอาญา: ศาลอุทธรณ์แก้บทและโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ทำให้ไม่สามารถฎีกาข้อเท็จจริงได้
การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานเป็นตัวการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 จำคุก 1 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ผู้อื่นกระทำความผิดฉ้อโกงตามมาตรา 341,86 จำคุก 8 เดือน นั้น แม้จะเป็นการแก้ทั้งบทและโทษ แต่ศาลอุทธรณ์ก็คงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนนำจับต้องมีโทษปรับ การลงโทษจำคุกอย่างเดียวไม่ทำให้เกิดสิทธิการจ่ายสินบน
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 15 และพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ถ้าเป็นกรณีที่มีผู้นำจับผู้กระทำผิด ให้พนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้จ่ายสินบนแก่ผู้นำจับ และให้ศาลสั่งให้ผู้กระทำผิดใช้สินบนแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินค่าปรับด้วย นั้น ศาลจะสั่งให้ผู้กระทำผิดจ่ายสินบนนำจับก็ต่อเมื่อมีการลงโทษปรับด้วย เพราะค่าปรับเป็นเกณฑ์ในการคำนวณว่า ผู้กระทำผิดจะต้องจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้นำจับเท่าใด ดังนั้น ในกรณีที่ศาลลงโทษจำคุกจำเลยแต่อย่างเดียว ศาลไม่สั่งให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3189/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามเนื่องจากแก้ไขโทษเล็กน้อยและการคัดค้านดุลพินิจศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย 2 กรรมต่างวาระกัน รวมจำคุก 7 ปีและปรับ 1,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยบทหนักกรรมเดียว จำคุก 1 ปี 6 เดือน เช่นนี้ เป็นเพียงการแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี คู่ความต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ร่วมโดยรู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น หากแต่จำเลยพยายามบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับผิดมาแต่ต้นขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ฎีกาของโจทก์เป็นการคัดค้านดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการกำหนดโทษจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดโทษจำคุกรวมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แก้ไขใหม่: โทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นข้อยกเว้น
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 อนุมาตรา 3 นั้นศาลจะลงโทษจำคุกจำเลยทุกกระทงรวมกันเกิน 50 ปีไม่ได้ เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และคำว่า 'เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต' นั้น หมายความว่า หากความผิดกระทงใดกระทงหนึ่งมีโทษที่จะลงแก่จำเลยจริง ๆ เป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้วเมื่อนำเอาโทษจำคุกที่มีกำหนดเวลาในกระทงอื่นมารวมศาลคงลงโทษจำเลยได้เพียงจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น
จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทกระทงหนึ่ง และมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง ศาลลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นอันเป็นบทหนักให้จำคุกตลอดชีวิตและฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุก 2 ปี ดังนี้ เมื่อศาลลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งคงลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นจำคุก 25 ปี และลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปีแล้วศาลรวมโทษทั้งสองกระทงเป็นจำคุกจำเลย 26 ปีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษจากปรับเป็นจำคุก ทำให้จำเลยไม่สามารถฎีกาโต้เถียงข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองปรับ 2,400 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้จำคุกจำเลย 1 ปีสถานเดียว จึงต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีกระสุนปืนเล็กกลจำนวน 23 นัดอันเป็นเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงฉบับที่ 11ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ.2490 ซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองของจำเลย จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องโจทก์จำเลยจะฎีกาโต้เถียงว่าไม่มีเจตนาครอบครองกระสุนปืนเล็กกลของกลางดังกล่าวหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว
ฎีกาขอให้ศาลรอการลงโทษให้แก่จำเลยนั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ศาลมีอำนาจพิจารณาลงโทษจำคุกหรือปรับ หรือทั้งสองอย่างตามความเหมาะสม
โจทก์บรรยายฟ้องแจ้งชัดว่าจำเลยผลิตกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยผิดกฎหมายและอ้างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 อันเป็นบทห้ามกระทำผิด แม้โจทก์จะมิได้อ้างบทลงโทษมาตรา 75 ศาลก็ลงโทษจำเลยตามมาตราดังกล่าวได้
กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ลงโทษทั้งจำคุกและปรับ ถ้าศาลเห็นสมควรก็ลงแต่โทษจำคุกสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 20 ได้ และศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจรอการลงโทษจำคุกนั้นตามมาตรา 56 ได้ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำคุกซ้ำซ้อน ศาลต้องลงโทษตามบทบัญญัติที่ให้ระวางโทษหนักขึ้นเท่านั้น
ป.อ.มาตรา336ทวิเป็นบทบัญญัติให้ระวางโทษหนักขึ้นมิใช่การเพิ่มโทษศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา335(1)(3)(8)ประกอบด้วยมาตรา336ทวิจำคุก5ปีเป็นการระวางโทษหนักขึ้นกึ่งหนึ่งตามมาตรา336ทวิแล้วยังเพิ่มโทษตามมาตรา336ทวิอีกกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก7ปี6เดือนจึงเป็นการเพิ่มโทษโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4282/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบตัวจำเลยหลังถูกจำคุกในคดีอื่น ถือเป็นการถอนประกันเดิม ศาลไม่สามารถปรับนายประกันได้
การที่ผู้ประกันยื่นคำร้องแจ้งให้ศาลชั้นต้นทราบว่า จำเลยซึ่งศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันถูกศาลชั้นต้นนั้นพิพากษาให้จำคุกในอีกคดีหนึ่ง และตัวจำเลยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ถือได้ว่าผู้ประกันได้ส่งมอบตัวจำเลยต่อศาลชั้นต้นแล้ว และการที่ศาลชั้นต้นนั้นสั่งเบิกคืนหลักประกันให้ผู้ประกันในวันเดียวกันนั้นเอง ก็เป็นการที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ประกันถอนประกันจำเลยแล้ว มิฉะนั้นศาลชั้นต้นคงไม่ยินยอมให้เบิกคืนหลักประกันที่ให้ไว้ไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำคุกและรอการลงโทษ: ศาลอุทธรณ์แก้เป็นรอการลงโทษ แม้ยังคงลงโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ทำให้จำกัดสิทธิในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย1ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษจำคุกและคุมประพฤติจำเลยไว้ถือว่าเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา219.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
of 25