คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จำหน่าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดลิขสิทธิ์และผลิตสื่อลามก: จำเลยมีความผิดฐานทำซ้ำและจำหน่ายงานละเมิดลิขสิทธิ์และสื่ออนาจาร
จำเลยถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมพร้อมด้วยแผ่นวีดีโอซีดีที่จำเลยร่วมกันทำซ้ำขึ้น โดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายทั้งสามซึ่งจำเลยก็รับสารภาพต่อศาลแล้วร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งแผ่นวีดีโอซีดีที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ จำนวน 4,300 แผ่น ทั้งยังร่วมกันทำให้แพร่หลายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งแผ่นวีดีโอซีดีลามกอีกเป็นจำนวน 1,000 แผ่น เป็นการร่วมกันกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายมีลักษณะเป็นขบวนการโดยกลุ่มบุคคลหลายสัญชาติอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ยิ่งกว่ากรณีปกติธรรมดาทั้งเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เหตุผลที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกว่าจำเลยมีความประพฤติดี และไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย พยายามจำหน่าย และความผิดฐานสนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยที่ 1 มี เมทแอมเฟตามีน คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์150 กรัมเศษไว้ในครอบครอง ต้องถือว่าเป็นการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 15 วรรคสอง และเป็นการกระทำความผิดสำเร็จ
ขณะที่เจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุม จำเลยที่ 2 กำลังนับเงินอยู่โดยนับไปได้เพียง 30,000 บาท จากจำนวนเงิน 174,000 บาทและ เมทแอมเฟตามีน ที่จะซื้อขายก็ยังวางกองรอการส่งมอบอยู่การจำหน่ายยาเสพติดของจำเลยที่ 1 จึงยังไม่บรรลุผล จำเลยที่ 1คงมีความผิดฐานพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1เมื่อจำเลยที่ 1 มี เมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย4,029 เม็ด แต่จำเลยที่ 1 พยายามจำหน่ายบางส่วนจำนวน 4,000เม็ด การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดสองกรรมต่างวาระกัน
จำเลยที่ 2 เป็นบุตรของจำเลยที่ 1 และอาศัยอยู่ในบ้านเกิดเหตุด้วยกัน การที่จำเลยที่ 1 ให้นั่งนับเงินจำนวนมากเป็นแสนบาทต่อหน้าคนแปลกหน้าและในบริเวณนั้นมี เมทแอมเฟตามีน 4,000 เม็ดบรรจุถุงพลาสติกจำนวนถึง 20 ถุงวางให้เห็นอยู่เช่นนี้ จำเลยที่ 2น่าจะเข้าใจได้ว่าเป็นการนับเงินที่จำเลยที่ 1 จะได้จากการจำหน่ายยาเสพติดซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยที่ 2ได้ในขณะที่กำลังนับเงินของกลางโดยจำเลยที่ 2 ให้การรับว่าช่วยนับเงินที่ผู้ซื้อ เมทแอมเฟตามีน ส่งมอบให้ จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการพยายามกระทำความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย: พยานหลักฐานสนับสนุนการตัดสิน
แม้พยานโจทก์ทั้งสามคนจะเบิกความต่างกัน ทั้งในแง่ของจำนวนคนที่เข้าไปร่วมจับกุมจำเลย จำนวนคนที่พบในบ้านจำเลย และวิธีการหลบหนีของจำเลยว่าหลบหนีทางหน้าบ้านบ้างหลังบ้านบ้าง แต่ก็มิใช่ข้อแตกต่างที่เป็น สาระสำคัญอันจะทำให้คำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสามมีน้ำหนักน้อยลงถึงกับรับฟังไม่ได้ทั้งหมด เพราะจำเลยเองก็เบิกความรับว่าในวันเกิดเหตุจำเลยอยู่ในบ้านเกิดเหตุและได้วิ่งหลบหนีจนเจ้าพนักงานตำรวจไล่ตามจับกุมได้ พยานหลักฐานโจทก์อื่น ๆ ก็มีเหตุผลและน้ำหนักรับฟังได้ว่าจำเลยกับพวกมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองจริง เมื่อเฮโรอีนของกลางคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 17.247 กิโลกรัม จึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานเด็ดขาดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง ที่ให้ถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ที่บัญญัติว่า "ผลิต..ให้หมายความรวมถึงการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุด้วย" ดังนั้น พฤติการณ์ที่จำเลยกับพวกเอาเฮโรอีนอัดใส่ถุงพลาสติกเป็นแท่งยาวแล้วแบ่งแยกบรรจุลงในแผ่นไม้ฉำฉาที่ฉลุเป็นช่องไม้แล้วนำมาประกบติดกันเป็นคู่เพื่อจะนำไปประกอบเป็นลังไม้ เป็นกรณีที่ถือได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติด: พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลยกฟ้อง จำเลยปฏิเสธการครอบครองและไม่รู้ว่าเป็นยาเสพติด
++ เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ++
++ โจทก์ฎีกา
++ โปรดดูย่อจากหนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม
++ เล่มที่ 1 หน้า 48 ++
++ ขอดูชุดพิเศษโปรดติดต่อห้องบริการเอกสารสำเนาคำพิพากษา (ห้องสมุด) ชั้น 4, 5 ++

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8988/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อจำหน่าย: การกระทำที่เป็นตัวการร่วมและการแบ่งหน้าที่
แม้จำเลยที่ 3 ไม่ได้มีส่วนในการเจรจาตกลงจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนและนำเมทแอมเฟตามีนไปส่งมอบให้ร้อยตำรวจเอก พ. โดยตรงก็ตามแต่การที่จำเลยที่ 3 นำเมทแอมเฟตามีนไปมอบให้แก่จำเลยที่ 2 และยังคงรออยู่ในที่เกิดเหตุจนกระทั่งถูกจับกุมนั้น น่าเชื่อว่าเป็นเพราะคอยรับเงินจากการจำหน่ายตามคำเบิกความของพลตำรวจ อ. การกระทำของจำเลยที่ 3เป็นการแบ่งแยกหน้าที่ในการครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางโดยจำเลยที่ 3 ทำหน้าที่เป็นผู้นำเมทแอมเฟตามีนไปยังที่เกิดเหตุ ส่งมอบให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อให้จำเลยที่ 2 นำไปส่งมอบให้ร้อยตำรวจเอก พ.ผู้ล่อซื้ออีกต่อหนึ่งจำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2ในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8214/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานจำหน่ายและมีเมทแอมเฟตามีนครอบครอง ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครอง และจำเลยได้จำหน่าย เมทแอมเฟตามีนของกลางดังกล่าวให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ และเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานจำหน่าย เมทแอมเฟตามีนซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว จึงไม่ต้องปรับบทความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองอีก พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง เพียงบทเดียว โจทก์มิได้อุทธรณ์ ส่วนจำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยมิได้กระทำความผิดฐานจำหน่าย เมทแอมเฟตามีน ขอให้ยกฟ้อง โดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ให้ชัดแจ้งว่า จำเลยมิได้กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองด้วย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจริง ตามฟ้องและพิพากษายืน ดังนี้ ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองได้ยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว
พยานโจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติราชการไปตามหน้าที่และไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าพยานจะสมคบกันมาเบิกความกลั่นแกล้งจำเลยให้ต้องรับโทษ ทั้งพยานโจทก์ดังกล่าวก็ เบิกความได้สอดคล้องต้องกันในข้อสาระสำคัญ และมีเหตุผลติดต่อเชื่อมโยงกันมาเป็นลำดับ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
ที่จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมก็มีเหตุผลน่าเชื่อว่าเป็นเพราะจำเลยถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมได้โดยกะทันหันพร้อมด้วยธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อบางส่วนเป็นของกลางกับมีผู้มาชี้ตัวยืนยันความผิดของจำเลย จำเลยยังไม่มีโอกาสคิดไตร่ตรองหาข้อแก้ตัวได้ทันในขณะนั้น จึงต้องให้การรับสารภาพไปตามความสัตย์จริง ที่จำเลยเบิกความ อ้างลอย ๆ ว่า เจ้าพนักงานตำรวจบังคับให้จำเลยลงชื่อในบันทึกการตรวจค้นและจับกุม ทั้งมิได้ถามค้านพยานโจทก์ ผู้ทำบันทึกการจับกุมให้ข้อนี้ไว้จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้
โจทก์นำ อ. ผู้ซื้อเมทแอมเฟตามีนของกลางจากจำเลยมาเป็นประจักษ์พยานเบิกความพิสูจน์ความผิดของจำเลย อ. ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน ไม่มีเหตุผลใดที่ อ. จะต้องให้การต่อพนักงานสอบสวนปรักปรำจำเลย ทั้ง อ. ก็ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนในวันเกิดเหตุนั้นเอง ยังไม่ทันมีโอกาสคบคิดกับผู้หนึ่งผู้ใดให้การช่วยเหลือหรือปรักปรำจำเลยได้ ที่ อ. เบิกความในชั้นพิจารณาในทำนองว่า ข้อเท็จจริงตามบันทึกคำให้การดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นการเบิกความอ้างลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้
โจทก์มีพนักงานสอบสวนเป็นพยานเบิกความรับรองว่า ชั้นสอบสวน อ. ได้ให้การไว้จริง พนักงานสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติราชการไปตามหน้าที่ทั้งไม่เคยรู้จักจำเลยมาก่อน ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าจะปรุงแต่งเรื่องราวตามบันทึกคำให้การขึ้นมาเอง พนักงานสอบสวนได้บันทึกคำให้การของ อ. ไปตามที่ อ. ให้การเองโดยสมัครใจ การที่ อ. พยานโจทก์มาเบิกความต่อศาลบิดเบือนข้อเท็จจริงในบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของตนเองเป็นอย่างอื่นให้เป็นประโยชน์แก่จำเลยเพื่อช่วยเหลือจำเลยในภายหลัง จึงไม่ควรนำคำเบิกความของ อ. มาฟังเป็นประโยชน์แก่จำเลยหรือฟังเป็นข้อพิรุธทำลายน้ำหนักคำเบิกความของพยานโจทก์ผู้จับกุมจำเลย
การวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงแห่งคดี เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวง ในสำนวนว่าข้อใดควรรับฟังได้เพียงใดหรือไม่ หาใช่พยานเบิกความอย่างไร แล้วศาลจะต้องรับฟังเสมอไปไม่ แม้คำให้การในชั้นสอบสวนของ อ. จะเป็นคำซัดทอดของผู้กระทำความผิดในมูลคดีเรื่องเดียวกันก็ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังทั้งมิใช่คำซัดทอดผู้อื่นเพื่อให้ตนเองพ้นจากความผิด ศาลจึงรับฟังคำให้การในชั้นสอบสวนของ อ. ประกอบพยานหลักฐานอื่นของโจทก์เพื่อลงโทษจำเลยได้
ในวันเกิดเหตุ อ. ได้ให้การต่อพยานโจทก์ผู้จับกุม จำเลยซัดทอดว่าจำเลยเป็นผู้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่ อ. ทันที จึงเป็นเบาะแสไปสู่การตรวจค้นบ้านของจำเลยจนพบธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อบางส่วนเป็นของกลาง การที่ พยานโจทก์ผู้จับกุมจำเลยตรวจค้นพบธนบัตรที่ใช่ล่อซื้อบางส่วนตกมาอยู่ในกระเป๋าเสื้อของจำเลยนั้น จึงเป็นเหตุผลสนับสนุนคำให้การในชั้นสอบสวนของ อ. ประจักษ์พยานโจทก์มีน้ำหนักอันควรแก่การรับฟังยิ่งขึ้น
พนักงานสอบสวนพยานโจทก์เบิกความว่า วันเกิดเหตุพยานได้รับตัวจำเลยพร้อมของกลางจากพยานโจทก์ ผู้จับกุมจำเลยเมื่อเวลา 22 นาฬิกาเศษ ซึ่งห่างจากเวลาตรวจค้นและจับกุมจำเลยนานถึง 5 ชั่วโมงเศษ เหตุดังกล่าว น่าจะเป็นเพียงความล่าช้าในการปฏิบัติงานของผู้จับกุมจำเลยเท่านั้น ไม่น่าจะเป็นข้อพิรุธของพยานโจทก์ทำให้ น่าสงสัยว่าจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม
แม้ปรากฏว่ามีการลงบันทึกเกี่ยวกับธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีคลาดเคลื่อนไป แต่ จากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาเมื่อนำมาฟังประกอบกันแล้ว มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่า จำเลยได้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่ อ. จริงตามฟ้อง ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้
ความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนและฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองตาม พ.ร.บ. ยาเสพติด- ให้โทษ พ.ศ. 2522 เป็นความผิดที่มีองค์ประกอบความผิดแตกต่างกันและกระทำโดยอาศัยเจตนาที่แยกจากกัน จึงเป็นความผิดคนละบทหรือคนละกรรมกันแล้วแต่กรณี เมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางที่จำเลยมีไว้ในครอบครอง จำนวน 94 เม็ด น้ำหนักรวม 8,420 กรัม และจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกันและจำเลยได้จำหน่ายหมดไปในคราวเดียวกันโดย ไม่มีเหลืออยู่ในความครอบครองของจำเลยอีก จึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียวตาม ป.อ. มาตรา 90 ปัญหาข้อนี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขปรับบทลงโทษจำเลยเสียใหม่ให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8191/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันครอบครองเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย: ศาลฎีกาแก้เป็นจำคุกตลอดชีวิตและจำคุก 16 ปี 8 เดือน
เมื่อ ว. สายลับผู้ล่อซื้อไปถึงบ้านของจำเลยที่ 1 ตามที่นัดหมายก็ได้ซื้อแอปเปิ้ลจำนวน 2 กล่อง ไปให้จำเลยที่ 1 บรรจุเมทแอมเฟตามีนและจำเลยที่ 1 ได้นำกล่องแอปเปิ้ลให้จำเลยที่ 2 บุตรชายนำไปบรรจุเมทแอมเฟตามีนที่กระท่อมในส่วนตรงข้ามบ้านของจำเลยที่ 1 ว. ได้ให้ สัญญาณและเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมขณะที่จำเลยที่ 2 กำลังนำเอาเมทแอมเฟตามีนซุกซ่อนในกล่องกระดาษโดยยังมิได้ส่งมอบ ดังนี้ การซื้อขายเมทแอมเฟตามีนระหว่างสายลับและจำเลยทั้งสองยังไม่สำเร็จบริบูรณ์ การกระทำของจำเลยทั้งสองอยู่ในระหว่างการพยายามจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน
ขณะเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุม จำเลยที่ 1 กำลังยืนถือวิทยุมือถืออยู่ที่หน้าบ้านเพื่อคอยดักฟังความเคลื่อนไหวของเจ้าพนักงานตำรวจ และสามารถมองเห็นกระท่อมร้างในสวนหน้าบ้านของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสถานที่จับจำเลยที่ 2 ได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลาง ก่อนการจับกุม ว. ได้ติดต่อกับจำเลยที่ 1 เพื่อขอวางมัดจำซื้อเมทแอมเฟตามีนจำนวน100,000 บาท แต่จำเลยที่ 1 ไม่ตกลงและนัดให้ ว. ไปพบใหม่และวางมัดจำ 150,000 บาท แก่จำเลยที่ 1 โดยนัดรับเมทแอมเฟตามีนในวันจับกุม ดังนี้ เมื่อประกอบพยานหลักฐานอื่นตามสำนวนแล้วฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 2 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7959/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินจากความผิดยาเสพติด: ต้องมีการฟ้องและพิสูจน์ความผิดฐานจำหน่ายเสียก่อน จึงจะริบได้
ศาลจะสั่งริบทรัพย์สินที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2) ได้ก็ต่อเมื่อมีการกระทำความผิดนั้นและโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดนั้นด้วย
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแต่ยังมิได้จำหน่ายให้แก่ลูกค้า เจ้าพนักงานตำรวจก็จับจำเลยพร้อมกับยึดยาเสพติดให้โทษดังกล่าวและธนบัตรของกลางได้เสียก่อน ธนบัตรของกลางจึงไม่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ หรือวัตถุอื่น ซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 102
เมื่อไม่มีความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางเกิดขึ้นและโจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโจทก์จะขอให้ศาลสั่งริบเงินของกลางโดยอ้างว่าจำเลยได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษหาได้ไม่ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ ศาลก็ไม่อาจสั่งริบธนบัตรของกลางดังกล่าวได้และต้องคืนให้แก่เจ้าของ แม้จำเลยจะไม่ยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7959/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินจากการกระทำผิดยาเสพติด ต้องมีฟ้องและพิสูจน์การกระทำความผิดฐานจำหน่ายด้วย
ศาลจะสั่งริบทรัพย์สินที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2) ได้ก็ต่อเมื่อมีการกระทำความผิดนั้นและโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดนั้นด้วย
จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแต่ยังมิได้จำหน่ายให้แก่ลูกค้า เจ้าพนักงานตำรวจก็จับจำเลยพร้อมกับยึดยาเสพติดให้โทษดังกล่าวและธนบัตรของกลางได้เสียก่อน ธนบัตรของกลางจึงไม่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้หรือวัตถุอื่น ซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 102
เมื่อไม่มีความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางเกิดขึ้นและโจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโจทก์จะขอให้ศาลสั่งริบของกลางโดยอ้างว่าจำเลยได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษหาได้ไม่แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ศาลก็ไม่อาจสั่งริบธนบัตรของกลางดังกล่าวได้และต้องคืนให้แก่เจ้าของแม้จำเลยจะไม่ยกขึ้นฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7727/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการจำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ได้เจรจาหรือส่งมอบเอง แต่รับเงิน ย่อมแสดงถึงเจตนาในการกระทำผิด
ขณะที่จ่าสิบตำรวจ น. เข้าไปติดต่อซื้อ เมทแอมเฟตามีน ในบ้านจำเลยที่ 2 พบจำเลยทั้งสามอยู่ในบ้าน จำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 3เป็นผู้รับเงินค่า เมทแอมเฟตามีน แม้จำเลยที่ 3 จะมิได้เป็นผู้เจรจาจำหน่าย เมทแอมเฟตามีน และมิได้เป็นผู้ส่งมอบ เมทแอมเฟตามีน ให้แก่จ่าสิบตำรวจ น. ก็ตาม แต่การที่จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 2 และร่วมอยู่ด้วยขณะที่มีการซื้อขาย เมทแอมเฟตามีน และเป็นผู้รับเงินด้วยตนเอง ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยที่ 3 รู้เห็นด้วยในการกระทำความผิดฐานจำหน่าย เมทแอมเฟตามีน
of 64