พบผลลัพธ์ทั้งหมด 187 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องอุทธรณ์: ศาลมีอำนาจใช้ดุลยพินิจ ไม่จำกัดเฉพาะการจำหน่ายคดี
การทิ้งฟ้องตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 174 นั้น ย่อมนำมาใช้บังคับแก่การทิ้งอุทธรณ์ได้โดยอนุโลม
(อ้างฎีกาที่ 679/2490)
ในกรณีที่โจทก์ทิ้งฟ้องตามมาตรา 174 นั้น ศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความได้ตามมาตรา 132 แต่บทมาตรา 132 นี้ไม่ได้บังคับเด็ดขาดว่า ศาลต้องจำหน่ายคดีเป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลยพินิจ ถ้าศาลไม่สั่งให้จำหน่ายคดีกรณีก็ต้องชี้ขาดตัดสินไปตามมาตรา 133
(อ้างคำสั่งคำร้องที่ 57/2493)
จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แล้วนำเจ้าพนักงานไปส่งหมายนัดแก้อุทธรณ์ให้โจทก์เกินกำหนด 15 วันไป 1 วันนั้นศาลอาจเห็นว่า เป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรที่จะจำหน่ายคดีของจำเลยได้
(อ้างฎีกาที่ 679/2490)
ในกรณีที่โจทก์ทิ้งฟ้องตามมาตรา 174 นั้น ศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความได้ตามมาตรา 132 แต่บทมาตรา 132 นี้ไม่ได้บังคับเด็ดขาดว่า ศาลต้องจำหน่ายคดีเป็นแต่ให้ศาลใช้ดุลยพินิจ ถ้าศาลไม่สั่งให้จำหน่ายคดีกรณีก็ต้องชี้ขาดตัดสินไปตามมาตรา 133
(อ้างคำสั่งคำร้องที่ 57/2493)
จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แล้วนำเจ้าพนักงานไปส่งหมายนัดแก้อุทธรณ์ให้โจทก์เกินกำหนด 15 วันไป 1 วันนั้นศาลอาจเห็นว่า เป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่สมควรที่จะจำหน่ายคดีของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรโชกทางวาจา และดุลยพินิจการนับโทษต่อ
ความผิดฐานกรรโชกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 303 นั้น แสดงอยู่ชัดว่า ใช้วาจาขู่เข็ญก็เป็นความผิดเช่นเดียวกับการใช้กำลังข่มขืน
จำเลยพูดขู่ว่าถ้าไม่ให้เงินก็จะต้องถูกส่งตัวไปขังที่สันติบาล ดังนี้เป็นการพูดขู่เข็ญขืนใจตามมาตรา 303 แล้ว
การนับโทษจำเลยนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะสั่งกำหนดตามที่เห็นสมควรตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 32 จึงเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่าง 2 ศาลใช้ดุลยพินิจไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่งตามที่โจทก์ขอในคดีที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงโจทก์ก็จะฎีกาขอ ให้นับโทษต่ออีกไม่ได้
จำเลยพูดขู่ว่าถ้าไม่ให้เงินก็จะต้องถูกส่งตัวไปขังที่สันติบาล ดังนี้เป็นการพูดขู่เข็ญขืนใจตามมาตรา 303 แล้ว
การนับโทษจำเลยนั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะสั่งกำหนดตามที่เห็นสมควรตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 32 จึงเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่าง 2 ศาลใช้ดุลยพินิจไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีหนึ่งตามที่โจทก์ขอในคดีที่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงโจทก์ก็จะฎีกาขอ ให้นับโทษต่ออีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการลงโทษจำคุกสถานเดียวในคดีการพนัน แม้กฎหมายกำหนดทั้งจำและปรับ
พระราชบัญญัติการพะนันไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติ ไม่ให้ศาลใช้ดุลยพินิจที่จะวางโทษจำคุกสถานเดียว ศาลก็ย่อมอาศัยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 23 ประกอบด้วยมาตรา 11 ใช้ในการดุลยพินิจลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียวได้.
(อ้างฎีกา 931/2497)
(อ้างฎีกา 931/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับนายประกันจากการหลบหนีของจำเลย ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลล่าง
คดีอาญา ศาลพิพากษาปรับนายประกันฐานผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินเกิน 2000 บาท นายประกันย่อมฎีกาขอลดหย่อนค่าปรับได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากคำรับสารภาพในคดีสมคบฆ่าเจ้าพนักงาน ศาลฎีกายืนตามดุลยพินิจศาลล่าง
ศาลล่างพิพากษาประหารชีวิตจำเลย แต่ไม่เพิ่มโทษตามมาตรา 72 เพราะโทษสูงสุดแล้ว คงลดฐานสารภาพ 1 ใน 3 จำคุกจำเลยตลอดชีวิต โจทก์ฎีกาว่าไม่ควรลดฐานรับสารภาพ เพราะจำเลยจำนนต่อพะยาน ดังนี้ ไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาวินิจฉัยถึงเรื่องเพิ่มโทษ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความผิดเจ้าพนักงานละเว้นการจับกุม และการใช้ดุลยพินิจยกโทษจำคุกในคดีพะนัน
ฎีกาว่าศาลฟังข้อเท็จจริงไม่ตรงตามสำนวนนั้นเป็นข้อกฎหมาย
พลตำรวจไม่จับกุมผู้ลักเล่นการพะนันนั้นไม่เป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 146 เพราะการไม่จับกุมไม่ถือว่า เป็นการป้องกันและขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย
การใช้ดุลยพินิจยกโทษจำคุกตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40 แก่จำเลยในคดีการพะนันย่อมใช้ได้ ไม่เป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.การพะนัน
พลตำรวจไม่จับกุมผู้ลักเล่นการพะนันนั้นไม่เป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 146 เพราะการไม่จับกุมไม่ถือว่า เป็นการป้องกันและขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย
การใช้ดุลยพินิจยกโทษจำคุกตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 40 แก่จำเลยในคดีการพะนันย่อมใช้ได้ ไม่เป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.การพะนัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำพิพากษาเกี่ยวกับโทษกักกัน ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาเนื่องจากเป็นดุลยพินิจของศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี 4 เดือนแล้วให้กักกันมีกำหนด 3 ปีนั้น ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
การขอให้ยกหรือลดโทษกักกันอันเป็นดุลยพินิจนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
การขอให้ยกหรือลดโทษกักกันอันเป็นดุลยพินิจนั้น เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า: ศาลต้องเคารพและพิจารณาตามสิทธิทั่วไป
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ เป็นกฏหมายที่ออกเพื่อยับยั้งการใช้สอยและแสวงหาดอกผลจากทรัพย์ สินของเจ้าของกรรมสิทธิไว้ชั่วคราว กล่าว+บทบัญญัติใน ป.พ.พ.ม. 1336 +อยู่ภายในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ได้มีข้อยกเว้นไว้ในบางกรณีตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. นั้น
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.
เมื่อ คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้ให้เช่าเดิมเข้าอยู่อาศัยในเคหะของตนแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ใช้ดุลยพินิจให้ผู้มีสิทธิของตนตามหลักกฏหมายทัวไปแล้ว และเมื่อไม่มีบทบัญญัติในกฏหมายพิเศษนั้น ให้ศาลมีอำนาจรื้อฟื้นแก้ไขการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไว้อย่างไรแล้ว ดุลยพินิจของคณะกรรมการที่ให้ความยินยอมก็+ยุตติเป็นเด็ดขาดเพียงเท่านั้น ศาลย่อม+ต้องพิจารณาข้อพิพาทของคู่ความตามสิทธิในหลักกฏหมาย ทั่วไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนนัดพิจารณาคดีเนื่องจากเจรจาประนีประนอม แม้ไม่ได้ระบุพยาน ศาลอนุญาตได้ตามดุลยพินิจ
นัดพิจารณาครั้งแรกโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างว่ากำลังเจรจาหาทางประนีประนอมยอมความกับจำเลย ศาลเลื่อนการพิจารณาไป ครั้นถึงวันนัดโจทก์แถลงว่าได้ทำความตกลงกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว คงเหลือแต่บางข้อ ยังไม่ได้เตรียมพยานมา ขอเลื่อนคดีไป ดังนี้ แม้โจทก์มิได้ระบุพยานเป็นการบกพร่องตาม มาตรา 88 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็ตาม แต่รูปคดีมีเหตุอันควรอนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนในความผิดลหุโทษ: ศาลมีดุลยพินิจพิจารณาเหตุผลและความจำเป็น
การริบทรัพย์ในส่วนลหุโทษนั้น กฎหมายให้ริบตามนัยแห่งมาตรา 27
พกอาวุธปืนมีทะเบียนซึ่งบรรจุกระสุนไปในท้องถนนหลวงและที่สาธารณะสถานเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์โดยสุจริตนั้น ไม่ควรริบปืนและกระสุน
พกอาวุธปืนมีทะเบียนซึ่งบรรจุกระสุนไปในท้องถนนหลวงและที่สาธารณะสถานเพื่อป้องกันตัวและทรัพย์โดยสุจริตนั้น ไม่ควรริบปืนและกระสุน