คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
นำสืบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 271 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2881/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบถึงที่มาของทรัพย์สินก่อนสมรส ไม่ถือเป็นการนำสืบนอกคำให้การ แม้จะอ้างต่างจากเดิม
จำเลยให้การว่า ที่ดินตามฟ้องไม่ใช่สินสมรสระหว่าง ป. กับ ล. ซึ่งเป็นบิดามารดาโจทก์และจำเลย แต่เป็นสินเดิมของ ล.มาก่อนสมรส ในชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกของ ป. มารดาของ ล. ตกได้แก่ ล. ดังนี้ ข้อนำสืบของจำเลยเป็นการนำสืบถึงที่มาของที่ดินที่ ล. ได้มาก่อนทำการสมรสกับ บ.อยู่นั่นเอง จึงมิใช่เป็นการนำสืบนอกคำให้การแต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1927/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดีซ้ำๆ โดยไม่สมเหตุผล ศาลมีสิทธิไม่อนุญาตและถือว่าจำเลยไม่นำสืบ
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ศาลได้อนุญาตให้เลื่อนคดีตามคำขอของจำเลยมาแล้ว 3 นัด โดยนัดที่ 3 ศาลได้กำชับไม่ให้จำเลยขอเลื่อนคดีอีก ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่ 4 จำเลยขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าติดธุรกิจสำคัญเกี่ยวกับการค้าที่ต่างจังหวัดเช่นเดียวกับนัดที่ 3 ทั้ง ๆ ที่ศาลได้กำหนดวันนัดสืบพยานจำเลยไว้ล่วงหน้านานพอสมควร จำเลยสามารถนัดทำธุรกิจการค้าซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยไม่ให้ตรงกับวันที่ศาลนัดได้แต่จำเลยไม่กระทำ ข้ออ้างของจำเลยไม่ใช่เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ พฤติการณ์ของจำเลยจึงเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชอบที่จะไม่ให้จำเลยเลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงหลักฐานที่ไม่กระทบผลคดี ไม่เป็นความผิดฐานนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานเท็จ
คดีก่อนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องคือคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความ ดังนั้น การที่จำเลยนำอาวุธปืนมาแสดงต่อศาลในคดีดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ว่าอาวุธปืนที่จำเลยนำไปจดทะเบียนปืนเถื่อนเป็นอาวุธปืนคนละกระบอกกับอาวุธปืนของโจทก์ จึงไม่ใช่การแสดงพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดี เพราะอาวุธปืนดังกล่าวจะเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ ก็หาทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปไม่ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบลูกหนี้ตามมูลหนี้เดิม การชำระหนี้แทน และหนังสือรับสภาพหนี้ ไม่ถือว่าเป็นการนำสืบแตกต่างจากฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปหลายครั้งและได้ผ่อนชำระให้บางส่วน จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ที่ค้างชำระให้โจทก์ไว้ การที่โจทก์นำสืบว่าเดิมจำเลยขอยืมเงินจาก ท. โจทก์เป็นผู้สลักหลังเช็ค ที่จำเลยสั่งจ่ายให้ ท. เพื่อชำระหนี้เงินยืม และจำเลยยอมให้โจทก์เก็บเกี่ยวมันสัมปะหลังในไร่ของจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ได้ในเมื่อโจทก์ต้องชำระหนี้แก่ ท. แทนจำเลย ต่อมาจำเลยได้ยืมเงินจาก ท. อีกให้โจทก์เป็นผู้ค้ำประกัน และโจทก์ได้ชำระหนี้แทนจำเลยไป จำเลยจึงทำหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์ เป็นการนำสืบถึงที่มาแห่งมูลหนี้ ไม่ถือว่าเป็นการนำสืบแตกต่างจากฟ้องในข้อที่เป็นสาระสำคัญ เพราะโจทก์ฟ้องโดยอาศัยหนังสือรับสภาพหนี้เป็นหลักซึ่ง มีจำนวนหนี้เท่ากัน และไม่มีหนี้จำนวนอื่นอันจะเป็นหนี้คนละรายกัน ถือได้ว่าโจทก์นำสืบถึงมูลหนี้ได้ตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบลูกหนี้ตามฟ้องได้ แม้รายละเอียดการชำระหนี้แตกต่างจากที่กล่าวอ้าง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปหลายครั้งและได้ผ่อนชำระให้บางส่วน จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ที่ค้างชำระให้โจทก์ไว้ การที่โจทก์นำสืบว่าเดิม จำเลยขอยืมเงินจาก ท. โจทก์เป็นผู้สลักหลังเช็ค ที่จำเลยสั่งจ่ายให้ ท. เพื่อชำระหนี้เงินยืมและจำเลยยอมให้โจทก์เก็บเกี่ยวมันสัมปะหลังในไร่ของจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ได้ ในเมื่อโจทก์ต้อง ชำระหนี้แก่ ท. แทนจำเลยต่อ มาจำเลยได้ ยืม เงินจาก ท. อีกให้โจทก์เป็นผู้ค้ำประกัน และโจทก์ได้ ชำระหนี้แทนจำเลยไป จำเลยจึงทำหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์ เป็นการนำสืบถึง ที่มาแห่งมูลหนี้ ไม่ถือว่าเป็นการนำสืบแตกต่าง จากฟ้องในข้อที่เป็นสาระสำคัญ เพราะโจทก์ฟ้องโดย อาศัยหนังสือรับสภาพหนี้เป็นหลักซึ่ง มีจำนวนหนี้เท่ากัน และไม่มีหนี้จำนวนอื่นอันจะเป็นหนี้คนละรายกัน ถือได้ว่าโจทก์นำสืบถึง มูลหนี้ได้ ตาม ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบการชำระหนี้ดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ โดยการนำสืบการชำระเงินต้นเท่านั้นที่ต้องมีหลักฐาน
การนำสืบการใช้เงินที่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้มาแสดงหรือมีการเวนคืนเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมหรือแทงเพิกถอนในเอกสารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง หมายถึงการนำสืบถึงการชำระเงินต้นเท่านั้น ไม่รวมถึงการชำระดอกเบี้ย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2317/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบมูลหนี้เดิมและการแปลงหนี้ใหม่ โดยไม่ขัดต่อคำฟ้อง และการรับฟังพยานหลักฐานจากคำรับของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์และได้รับเงินกู้ไปแล้ว การที่โจทก์นำสืบว่าเดิมสามีจำเลยกู้เงินโจทก์ไป จำเลยรู้เห็นด้วย เมื่อสามีจำเลยถึงแก่กรรมจำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ แต่จำเลยไม่ชำระเงินตามสัญญากู้นั้น จึงเป็นการนำสืบถึงมูลหนี้ของสัญญากู้ซึ่งโจทก์มีสิทธินำสืบได้โดยไม่ต้องบรรยายไว้ในคำฟ้องและไม่เป็นการนำสืบแตกต่างจากคำฟ้อง
โจทก์ฟ้องคดีโดยแนบสำเนาหนังสือสัญญากู้มาท้ายฟ้อง เมื่อคำให้การและทางนำสืบจำเลยยอมรับว่าได้ทำหนังสือสัญญากู้ฉบับพิพาทไว้ให้โจทก์จริง ดังนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำรับของจำเลยแล้วว่าจำเลยได้ทำสัญญากู้ตามฟ้อง กรณีไม่จำต้องยกเอกสารสัญญากู้ฉบับพิพาทขึ้นวินิจฉัย โจทก์จึงไม่จำต้องเสียค่าอ้างเอกสารสัญญากู้ฉบับพิพาทดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2317/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามสัญญากู้ยืมหลังการระงับหนี้เดิม การนำสืบไม่แตกต่างฟ้อง และการรับสภาพของจำเลย
การที่โจทก์นำสืบถึงมูลหนี้เดิมว่าสามีจำเลยกู้เงินโจทก์30,000 บาท จำเลยรู้เห็น เมื่อสามีจำเลยถึงแก่กรรม จำเลยทำหนังสือสัญญากู้ฉบับพิพาทให้โจทก์ไว้และรับว่าจะชำระเงินตามสัญญากู้โจทก์ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้นั้นได้ โดยโจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องถึงมูลหนี้เดิมซึ่งระงับแล้วไว้ เพราะจำเลยทำสัญญากู้และยอมผูกพันตนชำระหนี้แทนสามี การนำสืบของโจทก์ถึงมูลหนี้เดิมหาเป็นการแตกต่างจากคำฟ้องไม่ ทั้งการที่ศาลล่างฟังว่าเป็นเรื่องแปลงหนี้ใหม่โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ก็มิใช่เป็นเรื่องนอกสำนวน โจทก์มิได้เสียค่าอ้างเอกสารสัญญากู้แต่โจทก์ได้แนบสำเนาหนังสือสัญญากู้มาท้ายฟ้อง จำเลยก็รับว่าเป็นผู้ทำสัญญากู้ฉบับพิพาทให้โจทก์ไว้จริง ฉะนั้นกรณีจึงไม่จำต้องหยิบยกเอกสารที่โจทก์ไม่ได้เสียค่าอ้างขึ้นวินิจฉัย ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำรับของจำเลยอยู่แล้วว่าจำเลยได้ทำสัญญากู้ตามฟ้องและโจทก์มีอำนาจฟ้องคดีได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2317/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบมูลหนี้เดิมและการแปลงหนี้ใหม่ การฟ้องตามสัญญากู้โดยมีหลักฐานลายมือชื่อ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์และได้รับเงินกู้ไปแล้ว การที่โจทก์นำสืบว่าเดิมสามีจำเลยกู้เงินโจทก์ไป จำเลยรู้เห็นด้วย เมื่อสามีจำเลยถึงแก่กรรมจำเลยได้ทำหนังสือสัญญากู้ให้โจทก์ไว้ แต่จำเลยไม่ชำระเงินตามสัญญากู้นั้น จึงเป็นการนำสืบถึงมูลหนี้ของสัญญากู้ซึ่งโจทก์มีสิทธินำสืบได้โดยไม่ต้องบรรยายไว้ในคำฟ้องและไม่เป็นการนำสืบแตกต่างจากคำฟ้อง
โจทก์ฟ้องคดีโดยแนบสำเนาหนังสือสัญญากู้มาท้ายฟ้อง เมื่อคำให้การและทางนำสืบจำเลยยอมรับว่าได้ทำหนังสือสัญญากู้ฉบับพิพาทไว้ให้โจทก์จริง ดังนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำรับของจำเลยแล้วว่าจำเลยได้ทำสัญญากู้ตามฟ้อง กรณีไม่จำต้องยกเอกสารสัญญากู้ฉบับพิพาทขึ้นวินิจฉัย โจทก์จึงไม่จำต้องเสียค่าอ้างเอกสารสัญญากู้ฉบับพิพาทดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเช่าต่างตอบแทน: การนำสืบเพื่อหักล้างสัญญาเช่าเดิม
คำฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้บังคับโจทก์จดทะเบียนการเช่าให้จำเลย เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่าการเช่าตึกพิพาทมีข้อตกลงให้จำเลยออกค่าก่อสร้างตึกพิพาทโดยโจทก์จะให้จำเลยเช่าตึกพิพาทมีกำหนด25 ปี เพียงแต่ทำสัญญาเช่าไว้มีกำหนด 12 ปีก่อน จำเลยมีสิทธินำสืบถึงเหตุที่จำเลยมีสิทธิเช่าต่อได้ เพราะเป็นการนำสืบหักล้างสัญญาที่ทำไว้ว่าไม่ใช่สัญญาเช่าธรรมดา แต่เป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94.
of 28