พบผลลัพธ์ทั้งหมด 130 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันชีวิตโดยมิได้รับอนุญาต: กิจการฌาปนกิจสงเคราะห์เข้าข่ายประกันชีวิต จำเลยมีความผิด
การที่สมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันได้เปิดกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยบริษัทนฤมิตธนาคม จำกัดเป็นผู้ดำเนินงานแทน โดยมีข้อตกลงว่าสมาคมจะใช้เงินสงเคราะห์ให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อบุคคลผู้เป็นสมาชิกถึงแก่กรรม ตามจำนวนและเงื่อนไขการจ่ายเงินที่กำหนดไว้ในระเบียบการฌาปนกิจสงเคราะห์ ส่วนสมาชิกก็ผูกพันต้องส่งเงินสงเคราะห์ให้แก่สมาคมตามระเบียบ การดังกล่าวนั้น เช่นนี้ ย่อมเข้าลักษณะเป็นสัญญาประกันชีวิต อันถือได้ว่ากิจการของสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันดังกล่าวเป็นการรับประกันชีวิตโดยสมาคมกระทำการเป็นผู้รับประกันภัยการดำเนินกิจการดังกล่าวนี้ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตจากรัฐมนตรี มิฉะนั้นย่อมเป็นการฝ่าฝืนและมีโทษตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2510 มาตรา 12, 74และเมื่อจำเลยกระทำการแนะนำชักชวนเพื่อให้บุคคลเข้าเป็นสมาชิกซึ่งก็เท่ากับเป็นการกระทำเพื่อให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันชีวิตกับสมาคมดังกล่าว ย่อมเป็นการฝ่าฝืนและมีโทษตามมาตรา 72, 95
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันชีวิตโดยมิได้รับอนุญาต: ฌาปนกิจสงเคราะห์เข้าข่ายประกันชีวิต จำเลยมีความผิด
การที่สมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันได้เปิดกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยบริษัทนฤมิตธนาคม จำกัด เป็นผู้ดำเนินงานแทน โดยมีข้อตกลงว่าสมาคมจะใช้เงินสงเคราะห์ให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อบุคคลผู้เป็นสมาชิกถึงแก่กรรม ตามจำนวนและเงื่อนไขการจ่ายเงินที่กำหนดไว้ในระเบียบการฌาปนกิจสงเคราะห์ ส่วนสมาชิกก็ผูกพันต้องส่งเงินสงเคราะห์ให้แก่สมาคมตามระเบียบ การดังกล่าวนั้น เช่นนี้ ย่อมเข้าลักษณะเป็นสัญญาประกันชีวิต อันถือได้ว่ากิจการของสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันดังกล่าวเป็นการรับประกันชีวิตโดยสมาคมกระทำการเป็นผู้รับประกันภัยการดำเนินกิจการดังกล่าวนี้ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตจากรัฐมนตรี มิฉะนั้นย่อมเป็นการฝ่าฝืนและมีโทษตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2510 มาตรา 12, 74 และเมื่อจำเลยกระทำการแนะนำชักชวนเพื่อให้บุคคลเข้าเป็นสมาชิกซึ่งก็เท่ากับเป็นการกระทำเพื่อให้บุคคลเข้าทำสัญญาประกันชีวิตกับสมาคมดังกล่าว ย่อมเป็นการฝ่าฝืนและมีโทษตามมาตรา 72, 95
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2076/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปกปิดประวัติโรคร้ายแรงในการทำประกันชีวิต ทำให้สัญญาสัญญาประกันเป็นโมฆียะ
ผู้เอาประกันชีวิตรู้ว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง เคยเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมไทมัสที่ทรวงอกและต่อมาที่มดลูกและรังไข่ซึ่งมะเร็งได้กระจายลงไป ขณะยื่นคำขอเอาประกันชีวิตก็เป็นระยะที่ตนกำลังได้รับการรักษาด้านการฉายรังสี แต่ปกปิดความจริงดังกล่าวนี้โดยแถลงเท็จว่าเป็นการผ่าตัดซี่โครงข้างซ้ายซึ่งงอเพราะกระโดดน้ำเล่นและผ่าตัดไส้ติ่ง ซึ่งถ้าบริษัทประกันภัยทราบความจริงข้างต้นนี้แล้วก็จะไม่ยอมทำสัญญาประกันชีวิตด้วย เช่นนี้ สัญญาย่อมเป็นโมฆียะบริษัทมีสิทธิบอกล้างไม่ใช้เงินตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2076/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปกปิดประวัติโรคมะเร็งก่อนทำประกันชีวิตทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ
ผู้เอาประกันชีวิตรู้ว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง เคยเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมไทมัสที่ทรวงอกและต่อมาที่มดลูกและรังไข่ซึ่งมะเร็งได้กระจายลงไป ขณะยื่นคำขอเอาประกันชีวิตก็เป็นระยะที่ตนกำลังได้รับการรักษาด้านการฉายรังสี แต่ปกปิดความจริงดังกล่าวนี้โดยแถลงเท็จว่าเป็นการผ่าตัดซี่โครงข้างซ้ายซึ่งงอเพราะกระโดดน้ำเล่นและผ่าตัดไส้ติ่งซึ่งถ้าบริษัทประกันภัยทราบความจริงข้างต้นนี้แล้วก็จะไม่ยอมทำสัญญาประกันชีวิตด้วย เช่นนี้ สัญญาย่อมเป็นโมฆียะบริษัทมีสิทธิบอกล้างไม่ใช้เงินตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดเผยข้อมูลสุขภาพของผู้เอาประกันภัย สัญญาประกันชีวิตไม่เป็นโมฆียะหากข้อมูลที่ไม่เปิดเผยไม่กระทบต่อการรับประกัน
การละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริงซึ่งอาจจะได้จูงใจผู้รับประกันภัยให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 จะต้องพิจารณาถึงความสำคัญของข้อความที่ละเว้นไม่เปิดเผยด้วยมิใช่ว่าถ้ามีการปกปิดความจริงแล้วจะทำให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะไปเสียทั้งหมด
โรคไส้เลื่อนมิใช่เป็นโรคอันตรายร้ายแรง เมื่อผ่าตัดแล้วอาจหายไปได้การที่ผู้เอาประกันมิได้แจ้งเรื่องเคยเป็นโรคนี้ และได้รับการผ่าตัดมาก่อนให้ทราบ ยังไม่ถึงขนาดที่จะอนุมานเอาได้ว่าถ้าได้แจ้งเช่นนั้นผู้รับประกันภัยจะบอกปัดไม่รับประกัน หรือเรียกเบี้ยประกันให้สูงขึ้น จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ
โรคไส้เลื่อนมิใช่เป็นโรคอันตรายร้ายแรง เมื่อผ่าตัดแล้วอาจหายไปได้การที่ผู้เอาประกันมิได้แจ้งเรื่องเคยเป็นโรคนี้ และได้รับการผ่าตัดมาก่อนให้ทราบ ยังไม่ถึงขนาดที่จะอนุมานเอาได้ว่าถ้าได้แจ้งเช่นนั้นผู้รับประกันภัยจะบอกปัดไม่รับประกัน หรือเรียกเบี้ยประกันให้สูงขึ้น จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปิดเผยข้อมูลสุขภาพในการทำประกันชีวิต: การปกปิดโรคไส้เลื่อนไม่ถึงขนาดทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ
การละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริงซึ่งอาจจะได้จูงใจผู้รับประกันภัยให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 จะต้องพิจารณาถึงความสำคัญของข้อความที่ละเว้นไม่เปิดเผยด้วยมิใช่ว่าถ้ามีการปกปิดความจริงแล้วจะทำให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะไปเสียทั้งหมด
โรคไส้เลื่อนมิใช่เป็นโรคอันตรายร้ายแรง เมื่อผ่าตัดแล้วอาจหายไปได้การที่ผู้เอาประกันมิได้แจ้งเรื่องเคยเป็นโรคนี้ และได้รับการผ่าตัดมาก่อนให้ทราบ ยังไม่ถึงขนาดที่จะอนุมานเอาได้ว่า ถ้าได้แจ้งเช่นนั้นผู้รับประกันภัยจะบอกปัดไม่รับประกันหรือเรียกเบี้ยประกันให้สูงขึ้น จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ
โรคไส้เลื่อนมิใช่เป็นโรคอันตรายร้ายแรง เมื่อผ่าตัดแล้วอาจหายไปได้การที่ผู้เอาประกันมิได้แจ้งเรื่องเคยเป็นโรคนี้ และได้รับการผ่าตัดมาก่อนให้ทราบ ยังไม่ถึงขนาดที่จะอนุมานเอาได้ว่า ถ้าได้แจ้งเช่นนั้นผู้รับประกันภัยจะบอกปัดไม่รับประกันหรือเรียกเบี้ยประกันให้สูงขึ้น จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบกิจการคล้ายประกันชีวิตโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมกิจการค้าขาย
การกระทำตามฟ้องและจำเลยรับเป็นการกระทำอันมีลักษณะคล้ายคลึงกับการประกันชีวิตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 861, 889 เพราะจำเลยตกลงจะใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ผู้รับประโยชน์ในเหตุการณ์อันเป็นมรณะของผู้เป็นสมาชิกในอนาคต และจำเลยจะใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ผู้รับประโยชน์หรือไม่ ย่อมอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของผู้เป็นสมาชิก ดังนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงเศรษฐการ การกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน ฯ และการที่บริษัทจำกัดจำเลยที่ 1 ได้ดำเนินการดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ว่า ดำเนินการอันเป็นกุศลหรือสงเคราะห์ผู้ถือหุ้นและลูกค้านั้นโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ร่วมกระทำด้วย ต้องมีความผิดด้วย และเมื่อการกระทำของจำเลยที่ 2 ในตอนต้นและตอนหลังเป็นกิจการคล้ายคลึงกับการประกันชีวิตอันเดียวกันและยังไม่สิ้นระยะเวลาตามระเบียบข้อตกลงในกิจการที่จำเลยกระทำ จึงไม่ขาดอายุความฟ้องร้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารสรุปผลการซักถามทางการแพทย์โดยผู้ไม่เบิกความ ถือเป็นพยานไม่ได้ในการพิสูจน์เจ็บป่วยก่อนทำประกัน
บันทึกข้อสรุปของนักศึกษาแพทย์ที่ได้จากการสอบถามสามีของผู้ป่วยถึงประวัติและอาการของผู้ป่วย โดยผู้ทำเอกสารนั้นมิได้มาเบิกความรับรองถึงความถูกต้องและแท้จริงนั้นรับฟังเป็นพยานไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาโดยปริยายในการต่ออายุสัญญาประกันชีวิต แม้จะมีการผิดนัดชำระเบี้ยประกัน
ข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้เอาประกันชีวิตได้ชำระเบี้ยประกันงวดที่ 2 ล่าช้าไป20กว่าวันแต่ผู้รับประกันชีวิตก็รับเบี้ยประกันไว้โดยมิได้มีข้อขัดข้องโต้แย้งและในงวดที่ 3 ที่ 4 ต่อไป ผู้เอาประกันชีวิตก็ชำระเบี้ยประกันให้ตามกำหนดและผู้รับประกันก็รับไว้อีกดังนี้ ถึงแม้ตามข้อสัญญาในกรมธรรม์ประกันชีวิตจะมีข้อความซึ่งแปลความได้ว่า ถ้าผู้เอาประกันไม่ได้ส่งชำระเบี้ยประกันตามงวดที่ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์แล้วผู้เอาประกันจะหมดสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ฌาปนกิจก็ตามแต่พฤติการณ์ที่ผู้เอาประกันกับผู้รับประกันปฏิบัติต่อกันดังกล่าวข้างต้นถือได้ว่าผู้เอาประกันและผู้รับประกันซึ่งเป็นคู่สัญญาต่างได้แสดงเจตนาโดยปริยายไว้ต่อกันแล้วว่าสัญญากรมธรรม์ประกันชีวิตนั้นให้คงใช้ได้ ระหว่างกันต่อไปตามเดิม ต่อมาถ้าผู้เอาประกันชีวิตถึงแก่กรรมผู้รับประกันจะอ้างเหตุว่าผู้เอาประกันขาดส่งเบี้ยประกันตามกำหนดย่อมมีผลให้กรมธรรม์รายพิพาทสิ้นสุดลงบังคับกันไม่ได้ต่อไปตามข้อสัญญาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์นั้น หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปกปิดโรคภัยไข้เจ็บก่อนทำประกันชีวิตทำให้กรมธรรม์เป็นโมฆียะเมื่อบริษัทบอกล้างสิทธิ
ผู้เอาประกันชีวิตเคยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคมะเร็งในเม็ดโลหิตขาว ซึ่งขณะนี้ไม่มีทางรักษาหายและจะตายอย่างช้าใน 5 ปี แต่ปกปิดความจริงว่าไม่เคยเจ็บป่วย ไม่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาลใด ทำให้กรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นโมฆียะ เมื่อผู้รับประกันชีวิตบอกล้างใน 1 เดือนแล้ว ย่อมตกเป็นโมฆะ ผู้รับประโยชน์จะฟ้องเรียกเงินประกันชีวิตไม่ได้