คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป่าไม้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 152 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าภาคหลวงป่าไม้: อำนาจรัฐในการออกกฎหมายกำหนดอัตราเหนือกว่าข้อตกลงในสัมปทาน
เงินตามอัตราที่เรียกเก็บตามสัมปทานนั้น คือ ภาษีส่วยสาอากรซึ่งผู้รับสัมปทานจะต้องเสียให้แก่รัฐเพื่อตอบแทนการให้อนุญาตตามสัมปทาน
การเรียกเก็บค่าภาคหลวง แม้แต่เดิมมาจะใช้วิธีกำหนดให้ผู้รับสัมปทานสัญญาไว้ในสัมปทานก็ดี แต่เมื่อมีพระราชบัญญัติป่าไม้ใช้บังคับแล้ว ก็เปลี่ยนมาเป็นการเรียกเก็บโดยอำนาจกฎหมายโดยตรง ฉะนั้น เมื่อมีกฎหมายให้เรียกเก็บในอัตราใดอย่างใดแล้ว ก็จะต้องเป็นไปตามกฎหมายนั้น
ค่าภาคหลวงนั้น เมื่อกฎหมายให้อำนาจรัฐมนตรีกำหนดเป็นท้องที่ได้แล้ว รัฐมนตรีจะกำหนดในคราวเดียวกันให้ใช้อัตรานั้นทั่วทุกท้องที่ในราชอาณาจักรก็ย่อมทำได้ไม่เป็นการเกินอำนาจแต่อย่างใด
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 33/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้: ไม้ที่ได้มาโดยชอบ ไม่เข้าข่ายต้องริบ
ไม้ที่จำเลยทำการชักลากโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ไม่ใช่ไม้ที่ได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ จึงไม่ต้องถูกริบตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 (อ้างฎีกาที่ 354/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปรรูปไม้เพื่อการชักลากโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ให้ความหมายการแปรรูปไม้ว่า การกระทำอย่างใดอย่างแก่ไม่คือ เลื่อย ผ่า ถาก ขุดหรือกระทำด้วยประการอื่นใดแก่ไม้ให้เปลี่ยนรูปหรือ ขนาดไปจากเดิม นอกจากการลอกเปลือกหรือตบแต่งอันจำเป็นแก่การชักลาก ฉะนั้นการที่จำเลยถากไม้ของกลางเป็นเหลี่ยม เพื่อสดวกแก่การชักลาก และเป็นไม่ที่จำเลยซื้อไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงถือได้ว่า จำเลยได้ตกแต่งอันจำเป็นโดยมิได้มีเจตนาที่จะกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายแต่ประการใดจำเลยจึงไม่ควรมีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้: การชักลาก การแปรรูป และการใช้ตราประทับไม้โดยไม่ผิดกฎหมาย
ไม้ของกลางได้ทำตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 17 (1) ซึ่งป่าไม้เขตเป็นเจ้าหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่า โดยทำสัญญาให้บริษัทอุดมวนผลจำกัด รับจ้างตัดฟันชักลากออกจากป่าแล้วจะขายไม้ให้บริษัท การทำไม้รายนี้จึงเป็นการทำและชักลากออกจากป่าโดยไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 11 ที่ว่าต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 38 ไม่ใช่บทบังคับเรื่องชักลากไม้ออกจากป่า แต่เป็นบทบัญญัติเรื่องการนำไม้เคลื่อนที่หลังจากนำไม่ที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต กับหลังจากนำไม่ที่ทำออกโดยไม้ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว ไม่ใช่บทบัญญัติเพียงแต่นำไม้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบอนุญาตเท่านั้น เมื่อไม้รายนี้ไม่ใช่ไม้ที่ทำโดยมีใบอนุญาต จึงไม่มีที่ระบุให้นำไปตามใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่ไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้หวงห้ามอ้นจะทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตตาม มาตรา 25 กับทั้งยังไม่ถึงด่านป่าไม้ด่านแรก กรณีเช่นนี้ ไม่ผิดฐานนำไม้ เคลื่อนที่ตาม มาตรา 38
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ใน มาตรา 50 (1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ในเขตป่าสงวนโดยได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และข้อยกเว้นการแปรรูปไม้ที่ตอ
ไม่ของกลางได้ทำตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 17(1) ซึ่งป่าไม้เขตเป็นเจ้าหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าโดยทำสัญญาให้บริษัทอุดมวนผล จำกัด รับจ้างตัดฟันชักลากออกจากป่าแล้วจะขายไม้ให้บริษัท การทำไม้รายนี้จึงเป็นการทำและชักลากออกจากป่าโดยไม่อยู่ในบังคับของ มาตรา 11 ที่ว่าต้องรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่มาตรา 38 ไม่ใช่บทบังคับเรื่องชักลากไม้ออกจากป่า แต่เป็นบทบัญญัติเรื่องการนำไม้เคลื่อนที่หลังจากนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต กับหลังจากนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว ไม่ใช่บทบัญญัติเพียงแต่นำไม้เคลื่อนที่โดยไม่มีใบอนุญาตเท่านั้นเมื่อไม้รายนี้ไม่ใช่ไม้ที่ทำโดยมีใบอนุญาต จึงไม่มีที่ระบุให้นำไปตามใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่ไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้หวงห้ามอันจะทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตตาม มาตรา 25 กับทั้งยังไม่ถึงด่านป่าไม้ด่านแรกกรณีเช่นนี้ไม่ผิดฐานนำไม้เคลื่อนที่ตาม มาตรา 38
การแปรรูปไม้ ถ้าทำที่ตอโดยถูกต้องตามที่ยกเว้นไว้ในมาตรา 50(1) ย่อมไม่อยู่ในความมุ่งหมายของบทบัญญัติที่ควบคุมการแปรรูปไม้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ทำประโยชน์บำรุงป่า ไม่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นตามสัญญา
ไม้รายนี้เป็นไม้ที่ป่าไม้เขตทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าตามอำนาจและหน้าที่ จึงเป็นไม้ที่อยู่นอกบังคับของมาตรา 11 เรื่องการทำไม้หวงห้าม โดยข้อยกเว้นของมาตรา 17 (1) จำเลยทำไม้ตามสัญญาที่ป่าไม้เขตจ้างจำเลย ฉะนั้น การแปรรูปไม้รายนี้ไม่อยู่ในข้อบังคับของบทบัญญัติเรื่องแปรรูปไม้ที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่อนุญาต เช่น กรณีปกติอื่น ดๆ ตามนัยนที่ยกเว้นไว้ใน มาตรา 50 ข้อ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปริมาณไม้แปรรูปที่ไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยมิไม้สักแปรรูปจำนวนปริมาตร 0.09 เมตรลูกบาศก์ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปริมาณไม้แปรรูปที่ไม่เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวนปริมาตร .09 เมตรลูกบาศก์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1210/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้เพื่อบำรุงป่าและข้อยกเว้นการขออนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยเป็นผู้รับจ้างทำไม้จากป่าไม้เขตจังหวัดสุราษฏร์ธานี อันเป็นการทำไม้เพื่อประโยชน์บำรุงป่าในทางวิชาการตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 17 (1) จึงเป็นการทำไม้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตาม มาตรา 11 และไม้รายนี้เป็นไม้ที่ทำออกโดยไม้ต้องขอรับ อนุญาต มาตรา 38 (2) เมื่อจำเลยนำไม้ ยังไม่ทันพ้นด่านป่าไม้ด่านแรก แม้จำเลยจะไม่มีในเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยก็ยังไม่มีผิดตามมาตรา 39

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1815/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและแปรรูปไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ไม้ต้องถูกริบ
ไม้ที่ทำการแปรรูปเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นของต้องริบ.
of 16